กรุงเทพฯ--4 ก.พ.--เวเบอร์ แชนด์วิค
ผู้บริหารระดับสูงของเจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย เผยกำลังหาเงินทุนสนับสนุนจากกระทรวงอุตสาหกรรม และธนาคารในประเทศ สำหรับการเดินหน้าโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องยนต์ดีเซล และรถปิกอัพขนาด 1 ตันที่จังหวัดระยอง เชื่อด้วยแผนการลงทุน ผลิตภัณฑ์ และยุทธศาสตร์ที่แข็งแกร่งของบริษัท จะสามารถเสริมสร้างโอกาสที่ดีให้ตลาดเมืองไทย และตลาดส่งออก รวมถึงให้การสนับสนุนคู่ค้า ในประเทศของบริษัทในระดับสูงสุดต่อไปได้เมื่อได้รับเงินทุนสนับสนุน
มร.สตีฟ คาร์ไลส์ ประธานบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสต์เอเชีย โอเปอเรชั่นส์ จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จีเอ็ม ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมายาวนานเกือบ 10 ปีแล้ว เราไม่เคยขอการสนับสนุนทางด้านการเงินเพื่อการลงทุนโครงการต่าง ๆ จากธนาคารในประเทศไทยเลย เพราะจุดแข็งด้านการดำเนินการ เราได้มีการลงทุนไปอย่างมากมายมหาศาลในประเทศไทย ซึ่งเราก็ยังเชื่อมั่นในการพยายามที่จะเพิ่มทุนในโครงการต่างๆต่อไป อย่างไรก็ตาม วิกฤตการเงินที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก ทำให้หลายโครงการของเราต้องล่าช้าออกไป อย่างเช่นโรงงานผลิตเครื่องยนต์ดีเซลที่จังหวัดระยอง เราจะไม่เปลี่ยนทิศทางของแผนการของเรา แต่เราจะแสวงหาทางเลือกอื่นเพื่อจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งมิอาจคาดเดาได้ เหมือนกับที่ทุกๆบริษัทก็คงต้องทำ แท้จริงแล้ว การมองหาเงินทุนสนับสนุนการดำเนินโครงการ และการทำงานร่วมกับรัฐบาลถือเป็นกระบวนการปกติ ซึ่งการเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ก็เป็นหนึ่งในขั้นตอนการทำงานร่วมกับรัฐบาล”
นอกเหนือจากโรงงานผลิตเครื่องยนต์ดีเซลแล้ว เงินทุนสนับสนุนดังกล่าวจะช่วยให้โครงการผลิตรถปิกอัพสายพันธ์ใหม่ ซึ่งได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้เดินหน้าต่อไปได้ การมองหาเงินทุนสนับสนุนครั้งนี้เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในการทำธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ในระยะยาวทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ท่ามกลางสถานการณ์อันยากลำบากในการแสวงหาเงินทุน
“ด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย และจากสถาบันการเงินในประเทศไทย เราสามารถที่จะสนับสนุนคู่ค้าภายในประเทศของเราได้ เพราะการสนับสนุนที่ได้รับจากภาครัฐจะช่วยให้โครงการต่างๆพัฒนาต่อไปได้อย่างเร็วขึ้น โดยเฉพาะโรงงานผลิตเครื่องยนต์ดีเซล โครงการนี้ไม่ได้ให้ประโยชน์แต่กับจีเอ็มเท่านั้น หากยังจะช่วยเพิ่มการจ้างงาน และกระตุ้นการลงทุนในประเทศไทยด้วย รวมถึงการส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยี และให้ประโยชน์กับห่วงโซ่การผลิตทั้งหมดเมื่อโครงการของเราเดินหน้าต่อไป มากกว่านั้น ยังถือเป็นการต่อยอดความคิดริเริ่มในการพัฒนาพลังงานทางเลือกที่ผมเชื่อมั่นว่าจะให้ผลดีต่อประเทศไทย และ คนไทย ทั้งในด้านเศรษฐกิจ และสังคมโดยรวม โรงงานเครื่องยนต์ดีเซลของจีเอ็มที่ระยองนั้นจะเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ด้วยการที่จะเป็นโรงงานผลิตเครื่องยนต์ดีเซลที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้า ที่สุดในภูมิภาค” มร.สตีฟ คาร์ไลส์ กล่าว
“ขณะเดียวกัน จีเอ็มกำลังอยู่ในกระบวนการปรับแผนโครงสร้างใหม่ ซึ่งจะทำให้เรามีความแข็งแกร่ง มีผลกำไร มีความยั่งยืน และมีขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการเติบโตอย่างมั่นคงเมื่อพ้นจากภาวะวิกฤตนี้แล้ว”
ทั้งนี้ขณะที่จีเอ็มมุ่งมั่นที่จะทำการสื่อสาร และแจ้งความเคลื่อนไหว ให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง และสาธารณชนอย่างชัดเจน หากแต่ ตามนโยบายสำคัญของบริษัทฯที่ใช้ทั่วโลก จีเอ็มไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของการประชุมและการหารือต่าง ๆที่เกิดขึ้นระหว่างผู้บริหารระดับสูงของจีเอ็ม และเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล โดยการพบปะกันนั้น ถือเป็นการดำเนินการตามปกติสำหรับการพัฒนาโครงการต่างๆ และถือเป็นเพียงการเริ่มต้นของกระบวนการเท่านั้น
มร.สตีฟ คาร์ไลส์ กล่าวสรุปว่า “เราอยู่เพื่อดำเนินธุรกิจในระยะยาว พิสูจน์ได้จากผลิตภัณฑ์ของเรา การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี พลังขับเคลื่อนอันล้ำหน้า การประหยัดพลังงาน และการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เรายังได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในระดับโลก และกำลังเปลี่ยนแปลงความสามารถนั้นให้เป็นผลอันยอดเยี่ยมในเชิงธุรกิจ เรากำลังมุ่งไปสู่ศตวรรษที่สองของเรา เราจะสร้างสรรค์รถยนต์ และปิกอัพที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเดิม เราอาจจะอยู่ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ในวิกฤตย่อมมีโอกาส เราต้องการสร้างความเชื่อมั่นว่า เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว เราจะเติบโตไปพร้อมกับคนไทย และเดินหน้าต่อไปอย่างยิ่งใหญ่ในอนาคต”
สำหรับข้อมูลหรือรูปภาพเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
คุณฐิติณี จารุวิจิตรรัตนา หรือสถาปนา กาญจนประกร
เวเบอร์ แชนวิค
บริษัท แมคแคน เวิลด์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 02 343 6000, 081 919 7593
อีเมล์: Thitinee@webershandwick.com, Satapana@webershandwick.com
หรือ
คุณศศินันท์ ออลแมนด์
ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ประจำประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน
บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0-2791-3400 โทรสาร 0-2937-0441
อีเมล์: sasinan.allmand@gm.com