กรุงเทพฯ--5 ก.พ.--บีโอไอ
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน จัดสัมมนากระตุ้นการลงทุนจังหวัดกาญจนบุรี สร้างความเข้าใจเรื่องสิทธิประโยชน์ทางภาษี กระตุ้นการลงทุนกลุ่มเอสเอ็มอีในจังหวัด พร้อมจัดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของผู้ประกอบการ และผู้ทรงคุณวุฒิก่อนปรับใช้ตามสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน
นางหิรัญญา สุจินัย ที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ ) เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2552 นี้ บีโอไอ จะจัดสัมมนา เรื่อง “ BOI : ลงทุนอย่างไรจึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีอากร” ณ. ห้องสังขละบุรี 2 โรงแรมริเวอร์แคว จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีเป้าหมายให้นักลงทุน และผู้เข้าร่วมงานได้ทราบถึงนโยบายส่งเสริมการลงทุน หลักเกณฑ์ สิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากรที่จะได้รับ เพื่อกระตุ้นและชักจูงให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมของกลุ่มจังหวัด โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเอสเอ็มอี เช่น ผลิตภัณฑ์การเกษตรแปรรูป และสิ่งปรุงแต่งอาหาร เป็นต้น
นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมงานสัมมนา จะสามารถพบปะเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จากผู้ประกอบการในพื้นที่ และผู้ทรงคุณวุฒิจากสภาอุตสาหกรรมจังหวัด หอการค้าจังหวัด และสถาบันการเงิน เพื่อสร้างเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างกัน
“ปีนี้ ยังอยู่ในช่วงของปีแห่งการลงทุน 2551 — 2552 ซึ่งบีโอไอได้ปรับปรุงสิทธิประโยชน์เพิ่มสำหรับโครงการที่ลงทุนในปีนี้ จึงจำเป็นที่ จะต้องสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ ทั้งสิทธิประโยชน์ใหม่ และสิทธิประโยชน์เดิม” นางหิรัญญากล่าว
สำหรับผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดกาญจนบุรี มีจำนวน 1,422 ราย ประกอบกิจการที่สำคัญ ได้แก่ กิจการผลิตเครื่องเรือนหรือเฟอร์นิเจอร์จากไม้ กิจการผลิตอาหารแปรรูปจากพืช ผลไม้ และกิจการผลิตผลิตภัณฑ์จากวัสดุการเกษตร โดยที่ผ่านมา มีผู้ที่ได้รับการส่งเสริมลงทุนตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีจำนวน 45 โครงการ รวมมูลค่า เงินลงทุนประมาณ 18,845 ล้านบาท
สำหรับโอกาสและลู่ทางการลงทุนในจังหวัดกาญจนบุรีนั้น อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปเป็นกลุ่มที่มีโอกาสมากที่สุด เช่น กิจการผลิตอาหารสัตว์ กิจการผลิตแอลกอฮอล์ เนื่องจากมีผลผลิตมันสำปะหลังจำนวนมาก ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต หรือกิจการผลิตน้ำผลไม้ เนื่องจากมีการปลูกสับปะรดเป็นจำนวนมาก และกิจการถนอมอาหารจากพืช ผัก ผลไม้ เพราะมีการผลิตสับปะรด ข้าวโพด ผัก ผลไม้ อื่นๆ มากมาย
ผู้สนใจเข้าร่วมงานสัมมนาสามารถติดต่อที่สำนักพัฒนาปัจจัยสนับสนุนการลงทุน โทรศัพท์ 0 — 2537 — 8111 ต่อ 1071 ภายในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ นี้