กระทรวงการคลังเร่งโครงการ 1 ล้านไร่ มิติใหม่ที่ราชพัสดุ สำหรับเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย

ข่าวทั่วไป Friday February 6, 2009 15:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ก.พ.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง “นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดโครงการนำร่อง 1 ล้านไร่ มิติใหม่ที่ราชพัสดุ จังหวัดชัยภูมิ มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุแก่เกษตรกร ผู้มีรายได้น้อย และยืนยันเร่งจัดมอบสัญญาเช่าแก่เกษตรกร 25 จังหวัด ใน 6 เดือน” นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เดินทางมาเป็นประธานในการเปิดโครงการนำร่อง 1 ล้านไร่ มิติใหม่ที่ราชพัสดุ จังหวัดชัยภูมิ พื้นที่แรกรวมเนื้อที่ 1,112 ไร่เศษ และมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุแก่เกษตรกรที่ได้รับสิทธิในการเช่า ที่ราชพัสดุ ตำบลชีลอง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 126 ครอบครัว เพื่อปลูกพืชอาหารและพืชทดแทนพลังงาน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังมีเป้าหมายนำที่ราชพัสดุที่ส่วนราชการครอบครองไว้เกินความจำเป็นและที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ 1 ล้านไร่ นำมาจัดให้เกษตรกรเช่าทำการเกษตรในอัตราค่าเช่าราคาถูก เริ่มต้นที่ 20 บาทต่อไร่ต่อปี พร้อมทั้งการสนับสนุนต้นกล้าสำหรับพืชไร่และพืชทดแทนพลังงานที่มีสายพันธุ์ดี เพื่อเพิ่มผลผลิต ตลอดจนสนับสนุนและดูแลการจัดให้มีการพัฒนาดินและแหล่งน้ำให้เหมาะสมแก่การเกษตรแต่ละประเภท สำหรับปี 2552 กระทรวงการคลังได้กำหนดเป้าหมาย มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ แก่เกษตรกร ใน 25 จังหวัด ใน 6 เดือน ก่อนขยายพื้นที่ดำเนินการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยจะเร่งรัดจัดทำโครงการให้ได้พื้นที่เกษตรกรรม 1 ล้านไร่ โครงการ 1 ล้านไร่ มิติใหม่ที่ราชพัสดุของจังหวัดชัยภูมิ ถือเป็นโครงการนำร่อง ในจังหวัดแรก ซึ่งเดิมที่ราชพัสดุอยู่ในความครอบครองใช้ประโยชน์ของกองทัพอากาศและต่อมามีราษฎรเข้าถือครองทำประโยชน์ปลูกมันสำปะหลังและทำนา กองทัพอากาศได้ส่งคืนที่ดินให้แก่กรมธนารักษ์ และกรมธนารักษ์จึงดำเนินโครงการ โดยได้รับการสนับสนุนจากหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดชัยภูมิที่เกี่ยวข้องผลักดันโครงการนี้ให้สำเร็จลุล่วง ทั้งนี้เกษตรกรที่ได้รับสิทธิการเช่าเป็นผู้ที่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเองมาก่อน นอกจากการมอบสัญญาเช่าที่แล้ว กระทรวงการคลังยังได้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสินเข้าให้การสนับสนุนเงินทุนแก่เกษตรกรในพื้นที่ด้วย นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าโครงการจะสำเร็จตามเป้าหมายได้ จำเป็นต้องบูรณาการความร่วมมือทั้งภาคเกษตรกรรมในการให้ความรู้ทางด้านการเกษตรแก่ราษฎรที่เข้าร่วมโครงการ การจัดหาสายพันธุ์พืชที่ดี ปุ๋ยที่มีคุณภาพและราคาถูก การพัฒนาดินและแหล่งน้ำ ความร่วมมือจากภาคอุตสาหกรรม และพาณิชยกรรม ในเรื่องของการนำผลผลิตด้านการเกษตรสู่ผู้บริโภค การควบคุมปริมาณผลผลิตอย่างเหมาะสม ความเป็นธรรมในเรื่องราคาและคุณภาพผลิตผล เพื่อให้เกิดการพัฒนาปรับปรุงการเกษตรกรรมอย่างมีเป้าหมายและครบวงจร และโครงการนี้ถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่กระทรวงการคลังเร่งผลักดันให้สำเร็จโดยเร็ว เพื่อประโยชน์ของเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยและเศรษฐกิจของประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ