ปภ. ร่วมกับสหรัฐฯฝึกอบรมหลักสูตรกลยุทธ์ในการบัญชาการในที่เกิดเหตุ : ICS

ข่าวทั่วไป Tuesday February 10, 2009 10:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--ปภ. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยวิทยาลัยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมมือทางวิชาการกับประเทศสหรัฐอเมริกา ดำเนินโครงการฝึกอบรมหลักสูตรกลยุทธ์ในการบัญชาการในที่เกิดเหตุ (Incident Command System:ICS) เพื่อเสริมสร้างความรู้ และพัฒนาทักษะการบัญชาการในที่เกิดเหตุ รวมทั้งมาตรฐานในการควบคุมสั่งการ การบังคับบัญชาและการประสานใช้ทรัพยากรในขณะเกิดเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประสบภัยได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว และถูกต้องตามหลักมาตรฐานสากล นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า การบริหารจัดการสาธารณภัยจำเป็นต้องบูรณาการหน่วยงานต่างๆในการปฏิบัติงานร่วมกัน จึงต้องมีการพัฒนาระบบบัญชาการในที่เกิดเหตุให้มีมาตรฐานในระดับสากล ดังนั้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในฐานะหน่วยงานกลางด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับประเทศจึงได้ร่วมมือทางวิชาการกับประเทศสหรัฐอเมริกาจัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตรกลยุทธ์ในการบัญชาการในที่เกิดเหตุ(Incident Command System:ICS) ให้กับหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในฐานะกรรมการและเลขานุการการจัดทำแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด จำนวน ๒ รุ่น รวม ๗๕ คน ณ วิทยาลัยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตำบลบางพูน อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ดังนี้ รุ่นที่ ๑ วันที่ ๑๐-๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ จำนวน ๓๘ คน รุ่นที่ ๒ วันที่ ๑๓ - ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ จำนวน ๓๗ คน สำหรับรูปแบบของการฝึกอบรมจะให้ความรู้ในภาคทฤษฎีและการฝึกปฏิบัติ โดยเน้นเนื้อหาวิชาที่เกี่ยวกับการบัญชาการในที่เกิดเหตุ เช่น ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการสั่งการในเหตุฉุกเฉิน หน้าที่ของผู้บังคับบัญชาสถานการณ์ และเจ้าหน้าที่สั่งการ ความเป็นผู้นำและการจัดการ การแบ่งสายการบังคับบัญชา และการจัดการตามวัตถุประสงค์ เป็นต้น พร้อมทั้งยังได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ การประยุกต์ใช้ ICS ๑๐๐ และ ๒๐๐ ของระบบประเทศไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้มีมาตรฐาน และถูกต้องตามหลักสากล ทั้งนี้ โครงการอบรมดังกล่าวจะทำให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะเกี่ยวกับการบัญชาการในที่เกิดเหตุ และพัฒนาศักยภาพ ขีดความสามารถ รวมถึงมาตรฐานในการควบคุมสั่งการการบังคับบัญชา การติดต่อสื่อสาร และการประสานใช้ทรัพยากรในขณะเกิดเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติให้มีความรวดเร็ว และถูกต้องตามหลักมาตรฐานสากล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ