กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์
คงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ถ้าจะมีใครซักคนลุกขึ้นมาเปลี่ยนทัศนคติคนกรุงเทพให้มองคนขับรถเมล์ หรือคนขับรถโดยสารประจำทางว่ามีการขับรถที่ได้มาตรฐาน มีความมั่นใจว่าปลอดภัยเมื่อใช้บริการ...
เพราะภาพลักษณ์ของคนขับรถโดยสารที่สังคมมอบให้ และมิอาจปฏิเสธได้ก็คือ การขับรถเร็วแข่งกันแย่งผู้โดยสาร ปาดซ้ายแซงขวา ไล่จี้ ไล่กวดรถคันหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย โดยไม่คำนึงถึงกฎจราจร และความปลอดภัยของผู้โดยสาร จนตกเป็นจำเลยของสังคมที่มักถูกตำหนิว่าเป็นคนสร้างปัญหาการจราจร และอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
ปัญหานี้เป็นปัญหาที่อยู่กับคนเมืองมานาน และพบเห็นจนชินตา จนกลายเป็นสิ่งที่สังคมให้การยอมรับกับพฤติกรรมของคนขับรถโดยสารเหล่านี้ไปโดยปริยาย ซึ่งการที่คนขับรถโดยสารส่วนใหญ่จะมีวิธีคิดและการแสดงออกที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันทุกครั้งที่ขึ้นนั่งประจำที่คนขับนั้น ก็ด้วยเหตุผลเดียว คือ ขับให้เร็วเพื่อให้ได้ผู้โดยสารมากที่สุด เพราะนั่นหมายถึงรายได้ที่จะเพิ่มมากขึ้น โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และไม่เข้าใจในงานบริการที่ตนเองรับผิดชอบ
รถโดยสารประจำทางเมโทรบัส โดยบริษัท พรีเมียร์ เมโทรบัส จำกัด ในกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ ผู้ให้บริการรถโดยสารประจำทางปรับอากาศพิเศษ สำหรับคนกรุงเทพฯ จึงเกิดขึ้น จากความเชื่อที่ว่าคนไทยพึงจะได้รับบริการสาธารณประโยชน์ที่มีมาตรฐานใหม่ที่มีคุณภาพ มีความห่วงใยต่อการใช้ชีวิตของคนไทย ต้องการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานของบริการสาธารณประโยชน์ โดยมีผู้ให้บริการขับรถที่เราเรียกว่า “กัปตัน เมโทรบัส” เป็นผู้รับผิดชอบให้ผู้โดยสารได้รับประสบการณ์เดินทางอย่างปลอดภัย และมีความสุข
แนวคิดความเป็นมาของอาชีพ “กัปตันเมโทรบัส” นั้น เริ่มต้นที่ บริษัท พรีเมียร์ เมโทรบัส จำกัด ในกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ ผู้ดำเนินธุรกิจด้านการให้บริการรถโดยสารประจำทางปรับอากาศพิเศษ เมโทรบัส มีความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทยอย่างยั่งยืน โดยยึดหลักคุณธรรม จรรยาบรรณ และคงรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมของสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยสร้างมาตรฐานของบริการรถสาธารณะให้มีคุณภาพสูง และเน้นเรื่องการสร้างความปลอดภัยสูงสุดให้กับผู้ใช้บริการ ด้วยการสร้างมาตรฐานการขับขี่และการให้บริการของพนักงานขับรถโดยสารให้เป็น “กัปตันเมโทรบัส” ผู้ซึ่งต้องมีความตระหนักอย่างสูงในความปลอดภัยในการขับขี่รถโดยสาร และเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบชีวิตของผู้โดยสาร รวมถึงผู้ที่สัญจรบนถนน ตลอดเส้นทาง ซึ่งนับว่าเป็นอาชีพที่มีความสำคัญ และต้องมีความรับผิดชอบสูง เปรียบเทียบได้กับอาชีพที่มีเกียรติอย่างกัปตันขับเครื่องบิน
กว่าจะมาเป็น “กัปตันเมโทรบัส” ได้นั้น ทางบริษัทฯ จะทำการอบรมผู้สมัครกัปตันเมโทรบัสเป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยมีครูฝึกคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ระหว่างการอบรมจะมีการทดสอบทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติเพื่อทำการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมจะเป็นกัปตันเมโทรบัส โดยนอกเหนือจากคุณสมบัติเบื้องต้นทั่วไปแล้ว ผู้ที่จะมาทำหน้าที่เป็นกัปตันเมโทรบัสได้จะต้องไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมหรือประวัติยาเสพติดมาก่อน เป็นผู้ที่มีความ
ประพฤติดี รักงานบริการ รักความสะอาด มีความรับผิดชอบสูง และขณะปฏิบัติงานจะต้องมีความกระตือรือร้นในการทำงาน ไม่สูบบุหรี่ และไม่ดื่มเหล้า เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้โดยสารจะได้รับการบริการที่ดี และมีความปลอดภัยสูงสุดในการเดินทางบนรถเมโทรบัส
ดร.นฤมล โชติเวช ผู้เชี่ยวชาญด้านคุณภาพบุคลากร ที่ปรึกษาการจัดหลักสูตรอบรมกัปตัน เมโทรบัส กล่าวถึงความเป็นมาของการเข้ามาเป็นที่ปรึกษาในครั้งนี้ว่า “เป็นความท้าทายอย่างมากที่จะต้องเปลี่ยนภาพลักษณ์ของคนขับรถโดยสารในเมืองไทย เปลี่ยนนิยามความเป็นคนขับรถให้ใหม่ ให้เป็นสิ่งที่พรีเมียร์ฯอยากได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องยาก เพราะเป็นคนกลุ่มเดิม มีไลฟ์สไตล์แบบเดิม แต่ต้องปรับให้พวกเขามาเป็น คนตรงกันข้ามให้ได้ แม้จะไม่มีโมเดลในการอบรมให้เป็นตัวอย่าง แต่เราสามารถนำแบบอย่างของคนขับรถโดยสารในต่างประเทศมาประยุกต์ใช้ในการอบรม เช่น ในอังกฤษ, ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น เอาความเป็นมืออาชีพด้านการขับรถของประเทศทางตะวันตกมาใช้ เพราะคนขับรถโดยสารในต่างประเทศจะไม่ใช่คนที่ว่างงานหรือ รองานอยู่แล้วมาขับเล่นๆ จะประกอบเป็นอาชีพจริงจัง มีมาตรฐานการขับที่ได้รับการยอมรับ เพื่อให้เปอร์เซ็นต์การเกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุดหรือเป็นศูนย์ ขณะเดียวกันก็นำความสุภาพ นอบน้อม สุขุม อดทน และความเข้าใจของคนญี่ปุ่น บวกกับการบริการของคนไทยที่เอาใจคนเก่งเข้ามารวมกันเป็นโมเดลที่ใช้สร้างกัปตันเมโทรบัส นับเป็น pioneer project ที่ประสบผลสำเร็จ จนถึงปัจจุบันนี้มีกัปตันเมโทรบัสผ่านการอบรมพร้อมปฏิบัติหน้าที่ บนท้องถนนแล้วถึง 6 รุ่น เกือบ 300 คน เป็นการสอนให้คนกลุ่มเดิม ทำงานเดิม แต่คิดใหม่ ทำใหม่ ปรับใหม่ ให้มีรายได้ดี
จะเน้นสอนเรื่องที่เป็นความเชื่อ เรื่องเล่า เรื่องที่ชอบคิดเอาเอง คิดแบบไม่มีบทพิสูจน์ได้ ต้องล้างความเชื่อตรงนี้ออกไปก่อน วันแรกที่สอนกัปตันเมโทรบัสจะต้องเคลียร์ทุกอย่างให้โล่ง และอธิบาย ให้ความรู้ ให้เข้าใจให้มองมุมอื่นบ้าง เพื่อบอกว่าทำไมความเชื่อนั้นจึงผิด เช่น เรื่องที่ต้องขับแซง ขับปาดหน้าเข้าป้าย เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง อย่างที่บอกว่าอยากทำมาก โปรเจคท์นี้ เพราะเท่ากับได้ให้โอกาสคนที่ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่มีทักษะเรื่องการขับรถ อยากให้คนกลุ่มนี้มีอาชีพสุจริต มีอนาคต มีชีวิตที่ดี มีอะไรดีๆ ให้ครอบครัว และรู้สึกดีมากๆ ที่เห็นพวกเขามีความสุข”
กัปตันเมโทรบัสทุกคนจะต้องได้รับการฝึกอบรมทั้งในเรื่องการขับขี่รวมถึงมารยาทในการให้บริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การปลูกฝังจิตสำนึกในการให้บริการ ให้มีใจอยากบริการ อยากดูแลผู้โดยสาร การให้บริการผู้โดยสาร โดยอบรมให้รู้ว่ามาตรฐานของงานบริการคือรอยยิ้มของผู้โดยสาร ซึ่งตราบใดถ้ายังไม่เห็นรอยยิ้มจากผู้โดยสารแสดงว่ายังบริการไม่สุดชีวิต เรื่องการดูแลตัวเองให้พร้อมปฏิบัติงาน เป็นการอบรมเรื่องการประพฤติตน และไลฟ์สไตล์ของคนขับรถ เช่น จะต้องดูแลร่างกายให้พร้อม แต่งกายเป็นระเบียบ โดยบริษัทฯ จะมีเครื่องแบบกัปตันให้ และ เรื่องการดูแลรถเมโทรบัส ต้องใส่ใจให้เปรียบเป็นรถบัสคู่ใจ เป็นเหมือนเพื่อนที่ต้องดูแล ต้องหมั่นตรวจตราให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ สะอาด และเพื่อความปลอดภัยพร้อมปฏิบัติงานอยู่เสมอ
นอกจากนี้ ในหลักสูตรอบรมการขับขี่ จะมีการให้ความรู้เรื่อง พ.ร.บ.การจราจรทางบก และเทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย โดยวิทยากรจากกรมการขนส่งทางบก, การอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยวิทยากรจากศูนย์กู้ชีพนเรนทร, การอบรมกฎหมายจราจร โดย สารวัตรจราจรจากกรมตำรวจ เป็นต้น
ปัจจุบันมีกัปตันเมโทรบัสที่ผ่านการอบรมมาแล้ว 6 รุ่น ๆ ละ ประมาณ 30-50 คน โดยการอบรมในรุ่นหลังๆ จะนำกัปตันเมโทรบัสรุ่น 1 และ 2 มาเป็นตัวอย่าง มาเป็นบทพิสูจน์ในสิ่งที่ได้อบรมไปว่าสามารถปฏิบัติได้จริง และทุกคนมีความสุขกับการทำงาน โดยการมาเล่าประสบการณ์ของตนเองให้รุ่นน้องฟังในห้องเรียน ขณะเดียวกันจะจัดคอร์สสำหรับอบรมให้พนักงานทุกคนที่เป็นส่วนงานสนับสนุนกัปตันเมโทรบัสเข้าใจว่าต้องทำอย่างไรให้สนับสนุนการทำงานของกัปตันให้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นไปพร้อมๆ กันด้วย
นายสันเริง จาทุนิน กัปตันเมโทรบัสรุ่นที่ 1 อดีตคนขับรถบัสรับส่งพนักงาน เล่าถึงขั้นตอนในการปฏิบัติหน้าที่เป็นกัปตันเมโทรบัสว่า “สิ่งสำคัญในการมาปฏิบัติงานเป็นกัปตันเมโทรบัส ทุกๆวันจะต้องเน้นเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสารและคนบนท้องถนนอย่างมากครับ ซึ่งในแต่ละวันก่อนที่จะออกไปปฏิบัติงาน จะมีการตรวจสอบความพร้อมของกัปตันในทุกขั้นตอนอย่างเข้มงวด เริ่มจากการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ห้ามเกิน 1 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับว่าเคร่งครัดกว่าที่กฎหมายกำหนด และหากมีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กำหนดก็อาจถูกพักงานหรือให้ออกในทันทีครับ นอกจากนี้จะมีการตรวจความพร้อมของการพกพาใบอนุญาตขับขี่ ตรวจเครื่องแบบการแต่งกาย ตรวจเช็คโทรศัพท์มือถือให้พร้อมใช้งานได้ สามารถใช้ในการติดต่อได้ทันทีหากมีเหตุขัดข้องขณะปฏิบัติหน้าที่ และขั้นตอนสุดท้าย คือการตรวจเช็คสภาพรถอย่างละเอียดให้มีความพร้อมในการให้บริการด้วยสมรรถนะที่ให้ความปลอดภัยสูงสุดครับ
การที่ได้มาทำงานเป็นกัปตันเมโทรบัสและได้รับการอบรมต่างๆ ทำให้ตัวเองเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น พฤติกรรมและบุคลิกภาพดีขึ้น คุณภาพชีวิตก็ดีขึ้น ครอบครัวเราก็รู้สึกได้ว่าเราเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และยิ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นกัปตัน ไม่ใช่พนักงานขับรถทั่วไป ยิ่งทำให้ผมรู้สึกภาคภูมิใจ รู้สึกสร้างแรงบันดาลใจให้เรามีความรับผิดชอบในหน้าที่การงานมากขึ้น คิดว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อทำงานที่นี่ตลอดไป”
นายครรชิต ผาสุข กัปตันเมโทรบัสรุ่นที่ 2 ซึ่งเคยทำงานขับรถในบริษัทขนส่งสินค้า เปิดใจถึงการที่ได้เข้ามาทำอาชีพนี้ว่า “พอได้ยินว่ามีการเปิดรับสมัครกัปตันเมโทรบัส ผมรู้สึกแปลกใจมากว่า บริษัทนี้เรียกพนักงานขับรถว่าเป็นถึงกัปตัน ซึ่งฟังดูแล้วรู้สึกว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติและน่าภาคภูมิใจถึงแม้ใครจะมองว่าเป็นเพียงคนขับรถธรรมดาๆ แต่ผมคิดว่าคนขับรถประจำทางมีความสำคัญมาก เราต้องมีความรับผิดชอบสูง เพราะต้องรับผิดชอบชีวิตผู้โดยสารทุกคนที่ขึ้นมาบนรถ และทุกชีวิตบนท้องถนนด้วย การที่บริษัทมีการคัดเลือก มีการอบรม และควบคุมคุณภาพของกัปตันเมโทรบัสอยู่ตลอดเวลานั้น เหมือนเป็นการคัดคนที่มีคุณภาพ ซึ่งผมเห็นว่าคนขับรถประจำทางทุกคนควรจะได้รับการอบรมแบบเดียวกันนี้ เพื่อให้คนขับรถประจำทางมีความรับผิดชอบมากขึ้น สังคมเราก็จะได้ดีขึ้นด้วยครับ”
“กัปตันเมโทรบัส” อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ระดับสากลให้กับการบริการรถโดยสารสาธารณะของไทย อันเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ ที่มุ่งสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตมนุษย์อย่างยั่งยืน ซึ่งหากทุกฝ่ายร่วมมือกันให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพและความปลอดภัยของผู้โดยสารและผู้ที่สัญจรบนท้องถนน ปัญหาการจราจร อุบัติเหตุบนท้องถนนต่างๆ ก็จะลดลง คุณภาพชีวิตของคนในสังคมเมืองก็จะดียิ่งขึ้น
กลุ่มบริษัทพรีเมียร์ โดยบริษัท พรีเมียร์ เมโทรบัส จำกัด เป็นผู้ดำเนินธุรกิจเดินรถโดยสารประจำทางปรับอากาศพิเศษ “เมโทรบัส” ที่ใช้ระบบแก๊สธรรมชาติ (CNG/NGV) ซึ่งได้รับสัมปทานเดินรถจำนวน 35 เส้นทางในเขตการเดินรถกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันเปิดให้บริการ 7 เส้นทาง คือ ปอ.พ.4 ตลิ่งชัน- เคหะชุมชนร่มเกล้า, ปอ.พ.34 วงกลมสถานีขนส่งผู้โดยสารสายเหนือแห่งใหม่ — บางกะปิ, ปอ.พ.24 บางขุนนนท์-บางกะปิ, ปอ.พ.25 ท่าราชวรดิฐ-สวนสยาม, ปอ.พ.35 ปากเกร็ด-พัฒนาการ, ปอ.พ.10 บางกะปิ-หมู่บ้านเศรษฐกิจ และปอ.พ.17 สวนสยาม-สีลม โดยแบ่งเป็นรถเมโทรบัสประเภทนั่ง ราคา 30 บาทตลอดสาย รถเมโทรบัสนั่ง+ยืน ราคา 20 บาทตลอดสาย และรถนั่งเมโทรเอ็กซ์เพรส (Metro Express) ราคา 40 บาทตลอดสาย
รายละเอียดเพิ่มเติม : บริษัท โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด
โทรศัพท์ 0 2158 9416-8 อัญชลี เชื้อน้อย, วีรยา หมื่นเหล็ก