กรุงเทพฯ--11 ก.พ.--กบข.
กบข. เตรียมเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ หวังผลผลตอบแทนระยะยาว เผยปีที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนสูงกว่าร้อยละ 13
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจากวิกฤติการเงิน และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทำให้การลงทุนของ กบข. ซึ่งเป็นกองทุนบริหารเงินออมระยะยาวได้รับผลกระทบไปด้วย จำเป็นต้องระมัดระวังการลงทุน และมองหาสินทรัพย์ใหม่ๆ ในการลงทุน เพื่อกระจายความเสี่ยง โดยแผนการดำเนินงานในปีนี้ กบข. มีนโยบายเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น เนื่องจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ซึ่งนอกจากจะเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนทางหนึ่งแล้ว ยังเป็นโอกาสการลงทุนเพิ่มเติมในสภาวะที่อัตราดอกเบี้ยลดต่ำลง และภาวะความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยระยะยาว
โดยในปีที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของ กบข.ในส่วนของ อสังหาริมทรัพย์ในประเทศ ถือว่าให้ผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจมาก โดยได้รับผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 13.87
ปัจจุบัน กบข. เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอาคารอับดุลราฮิม อาคารบางกอกซิตี้ ทาวเวอร์ อาคารจีพีเอฟ วิทยุ และอาคารซัมเมอร์เซท สุขุมวิท
นอกเหนือจากการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศแล้ว กบข.ยังอยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศเพิ่มเติม เนื่องจากมองว่าราคาสินทรัพย์ในประเทศจะถูกลงเมื่อเทียบกับอดีต ทำให้โอกาสในการสร้างผลตอบแทนมีสูงขึ้นในอนาคต และสอดคล้องกับการลงทุนระยะยาว และคาดว่าจะลงทุนในสัดส่วนประมาณร้อยละ 2.5 - 3.0 โดยจะเริ่มลงทุนภายในไตรมาสแรกของปีนี้
นอกจากนี้ ปัจจุบัน กบข. ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในประเทศอยู่ที่ร้อยละ 4.4 โดยมีเพดานการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้ในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 8 ของเงินลงทุน
ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก กบข. โทร. 1179 กด 6 member@gpf.or.th / www.gpf.or.th