กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--ปตท.
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ตลาดขายปลีกหน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐฯ ได้ประกาศเพิ่มอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำมันแก๊สโซฮอล์ และกลุ่มน้ำมันดีเซลอีก 60 สตางค์/ลิตร เพื่อลดภาระการชดเชยของกองทุนน้ำมันฯ นั้น ส่งผลให้ราคาขายปลีกในประเทศ ตั้งแต่ วันที่ 13 ก.พ. 52 เวลา 00.01 น. เป็นต้นไป เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น เป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ ลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 (พีทีที E 85 พลัส) 14.29
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 (พีทีที E 20 พลัส) 20.34
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95) 21.64
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91) 20.84
น้ำมันเบนซิน 91 (พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91) 25.94
น้ำมันไบโอดีเซล (พีทีที B5 พลัส) 18.49
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (พีทีที เดลต้า เอ็กซ์) 19.99
นายวิทยา กล่าวต่อไปว่า การปรับราคาขายปลีกในครั้งนี้ ภาครัฐได้มีการสอดส่องควบคุมไม่ให้มีการกักตุน รวมถึงมีการตรวจวัดปริมาณสำรอง ณ สถานีบริการน้ำมันเช่นเดียวกับครั้งที่ผ่านมา จึงขอให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าสถานีบริการน้ำมันของ ปตท. จะมีการจำหน่ายน้ำมันตามปกติ ไม่มีการกักตุน พร้อมทั้งได้กำชับให้สถานีบริการจำหน่ายน้ำมันตามปกติ แต่หลีกเลี่ยงการจ่ายน้ำมันให้กับผู้ซื้อคราวเดียวกันในปริมาณมาก เพื่อให้ผู้บริโภคมีการเฉลี่ยซื้อกันได้อย่างทั่วถึง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ส่วนสื่อสารธุรกิจน้ำมัน ฝ่ายสื่อสารองค์กร
โทรศัพท์ 0 25372571
โทรสาร 0 2537 2517, 2572