กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย
บสท. ร่วมสนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยโครงการบ้านมั่นคง จับมือสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงนามบันทึกความร่วมมือสร้างที่อยู่อาศัยแก่ชาวชุมชนแออัดทั่วประเทศ นำร่องโครงการแรกซอยลาดพร้าว 101
บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามโครงการบ้านมั่นคงกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำทรัพย์สินรอการขายของ บสท. มาพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนในชุมชนแออัดที่ยังไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาและสร้างความมั่นคงในการอยู่อาศัย รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของคนจนในชุมชนแออัดหรือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ
นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการ บสท. กล่าวว่า สาระสำคัญของการลงนามบันทึกความร่วมมือครั้งนี้มีข้อตกลงเพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายบรรลุเป้าหมายร่วมกันในการเป็นผู้สนับสนุนการดำเนินงานโครงการบ้านมั่นคง โดย บสท. จะเป็นผู้จัดหาข้อมูลของทรัพย์สิน บสท. ในด้านทำเลที่ตั้ง ขนาดของที่ดินและข้อมูลทางกายภาพอื่นๆ ที่ชุมชนสนใจเพื่อให้ พอช. ใช้ประกอบการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำโครงการ โดยมีสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการโอนตามกฎหมายเมื่อซื้อทรัพย์สิน บสท. ในเบื้องต้นนี้ พอช. ได้อนุมัติการซื้อที่ดินโครงการแรกบริเวณซอยลาดพร้าว 101 จำนวน 11 ไร่ 3 งาน ในราคาประมาณ 32 ล้านบาทแล้ว และได้ชำระเงินมัดจำร้อยละ 10 ของราคาซื้อขายพร้อมทำสัญญา จากนั้นจะชำระเงินส่วนที่เหลือพร้อมรับโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินต่อไป อย่างไรก็ตาม ยังมีทรัพย์สินที่ พอช. ให้ความสนใจและอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติมอีก 2 รายการ คือบริเวณวัดคู้บอน เขตบางเขนและถนนเพชรเกษม 48 ฝั่งธนบุรี พร้อมกันนี้ บสท. ได้คัดเลือกและเสนอทรัพย์สินในทำเลที่เหมาะสมให้ พอช. พิจารณาแล้ว 93 รายการทั่วประเทศ ได้แก่ ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จำนวน 33 รายการ เนื้อที่ 320 ไร่ ภาคเหนือ 15 รายการ เนื้อที่ 70 ไร่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 รายการ เนื้อที่ 175 ไร่ ภาคกลาง 21 รายการ เนื้อที่ 155 ไร่ และภาคใต้ 11 รายการ เนื้อที่ 90 ไร่
“บสท. ในฐานะหน่วยงานของรัฐ เล็งเห็นความสำคัญและรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาสังคม การร่วมลงนามในครั้งนี้นับเป็นก้าวแรกของการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของรัฐด้วยกัน นอกจากเป็นการให้ความช่วยเหลือโดยตรงแก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้มีความมั่นคงในการอยู่อาศัยในระดับราคาที่สามารถรับภาระได้แล้ว ยังเป็นการนำทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้กลับมาใช้ประโยชน์ในระบบเศรษฐกิจ ทั้งนี้ บสท. เชื่อมั่นว่าจะสามารถให้การสนับสนุนโครงการบ้านมั่นคงได้เป็นอย่างดี ด้วยความเป็นผู้นำตลาด NPA และเป็นแหล่งรวมทรัพย์สินมากที่สุดของประเทศ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชุมชนและ พอช. มีทางเลือกที่หลากหลายและสนองตอบความต้องการได้ดียิ่งขึ้น” นายสมเจตน์กล่าวเพิ่มเติม
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ส่วนองค์กรสัมพันธ์ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย
โทร.0-2357-1504 (ชมภู)