เซ็นทรัลเวิลด์-ช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ใหญ่ที่สุดในไทยประกาศพร้อมเปิดตัว 30 มิถุนายนนี้

ข่าวท่องเที่ยว Thursday April 27, 2006 17:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 เม.ย.--บางกอก พับลิค รีเลชั่นส์ จำกัด
- ตั้งเป้าดึงดูดลูกค้าวันละ 150,000 คนต่อวัน โดยในจำนวนนี้เป็นนัดท่องเที่ยว 50,000 คน
- ซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยห้างสรรพสินค้า 2 ห้าง โรงแรมระดับห้าดาว และศูนย์ประชุมที่ได้รับการออกแบบเป็นพื้นที่โล่งไม่มีเสาที่ใหญ่ทีสุดใจกลางกรุงเทพฯ
กรุงเทพฯ(27 เมษายน 2549) - นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) เจ้าของโครงการเซ็นทรัลเวิลด์ แถลงว่า เซ็นทรัลเวิลด์ ช้อปปิ้งและไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยพร้อมเปิดตัวให้บริการในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ มุ่งสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการธุรกิจค้าปลีกของไทย อีกทั้งสนับสนุนนโยบายระดับประเทศในการผลักดันกรุงเทพฯให้เป็นศูนย์กลางการช้อปปิ้งของเอเชีย
นอกเหนือไปจากการมีพื้นที่ค้าปลีกที่มากกว่าศูนย์การค้าอื่นๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯกว่า 30% แล้วโครงการเซ็นทรัลเวิลด์ยังมีซศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ที่ได้รับการออกแบบเป็นพื้นที่โล่งไม่มีเสาซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าศูนย์ประชุมอื่นๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯถึง 80% โซนกิจกรรมและศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็กและร้านหนังสือซึ่งใหญ่เป็นสองเท่า และซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่กว่าซูเปอร์มาร์เก็ตอื่น ๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯถึงสามเท่า
"ด้วยขนาดความใหญ่ของเซ็นทรัลเวิลด์ทำให้เราสามารถนำเสนอสินค้าและบริการได้อย่างหลากหลายและครบวงจร ทั้งยังอยู่ในระดับราคาที่ลูกค้าสามารถจับจ่ายซื้อหาสินค้าได้อย่างสบายใจ" นายกอบชัยกล่าว "โดยเรามีสินค้าแบรนด์ดัง 36 แบรนด์ที่กำลังจะเปิดร้านเป็นครั้งแรกในประเทศไทยอย่างเช่นร้าน 'Next' จากอังกฤษ ร้านรองเท้า 'Camper' จากสเปน ร้านเสื้อผ้า 'Country Road' จากออสเตรเลีย ร้านเสื้อผ้าชายหญิง 'Ted Baker' จากอังกฤษ
"เซ็นทรัลเวิลด์มอบทางเลือกให้ลูกค้าได้หลากหลายที่สุด เรามีตั้งแต่ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ไปจนถึงโซนกิจกรรมสำหรับเด็ก โรงแรมระดับห้าดาวไปจนถึงร้านอาหารและโรงภาพยนตร์ เนื่องจากเราได้ตั้งเป้าให้เซ็นทรัลเวิลด์เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ครบวงจร (one-stop lifestyle destination) สำหรับกลุ่มคนทำงานและครอบครัวสมัยใหม่" นายกอบชัยกล่าว โดยคาดว่าจะมีลูกค้าวันละ 150,000 คน ในจำนวนนี้คาดว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 50,000 คน
นายกอบชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า "จะไม่มีเซ็นทรัลเวิลด์'แห่งที่สอง'เกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน นี่เป็นที่ดินใจกลางกรุงผืนที่ใหญ่ที่สุดและนับเป็นผืนสุดท้ายในกรุงเทพฯดังนั้นเราจึงได้ทุ่มเทสร้างสรรค์โครงการที่เพียบพร้อมด้วยธุรกิจร้านค้าและไลฟ์สไตล์ ที่ใช่เพียงจะยิ่งใหญ่ระดับประเทศเท่านั้น แต่ยังยิ่งใหญ่ในระดับเอเชียอีกด้วย เราได้ให้ความสำคัญต่อการออกแบบโครงการเป็นอย่างยิ่ง เพราะสิ่งนี้เปรียบเสมือนกับการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่จะช่วยให้ประเทศไทยก้าวสู่ฝันการเป็นศูนย์กลางการช้อปปิ้งในภูมิภาคเอเชีย"
"การจะเป็นศูนย์กลางของการช้อปปิ้ง'ไม่ได้แค่เพียงมีพื้นที่ใหญ่ๆ ให้ลูกค้าช้อปปิ้ง แต่ยังหมายถึงการนำเสนอสินค้าและบริการที่หลากหลายครบวงจร ขณะเดียวกันก็ต้องนำเสนอประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบต่างๆ ของลูกค้าด้วยการจัดกิจกรรมเชิงไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายที่นักช้อปสามารถพบหาได้ในที่เดียวกัน"
นอกเหนือไปจากพื้นที่ในส่วนช้อปปิ้งและค้าปลีกรวม 550,000 ตรม.แล้ว โครงการเซ็นทรัลเวิลด์ยังประกอบด้วยโรงแรมห้าดาวที่มีกำหนดจะแล้วเสร็จในปี 2008 โดยเป็นโรงแรม 55 ชั้น 500 ห้อง นอกจากนี้ยังมีอาคารสำนักงานสูง 45 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอย 80,000 ตรม.ที่เปิดไว้สำหรับกิจกรรมขนาดใหญ่เช่นงานCentralWorld New Year Countdown Party รวมทั้งกิจกรรมประเภทอื่น ๆ
"เมื่อพิจารณาถึงความยิ่งใหญ่ของโครงการของเรา รวมเข้ากับศูนย์การค้าอื่น ๆ ในย่านสยามสแควร์และสุขุมวิท เรามีความเชื่อมั่นว่า กรุงเทพฯเริ่มจะมีโอกาสอย่างแท้จริงแล้วที่จะเป็น"ศูนย์กลางของการช้อปปิ้งของเอเชีย" นายกอบชัยกล่าว
ทั้งนี้ นายกอบชัยได้คาดการณ์ว่าจะสามารถดึงเงินตราเข้าประเทศจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในเซ็นทรัลเวิลด์ได้มากกว่า 73,000 ล้านบาทต่อปี
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่โครงการเซ็นทรัลเวิลด์ กล่าวถึงกลยุทธการตลาดของเซ็นทรัลเวิลด์ว่า ทางบริษัทฯได้จัดสรรงบประมาณทางการตลาดไว้ 300 ล้านบาท และมุ่งเน้นการสร้างจุดแข็งสี่ประการที่ผลักดันให้เซ็นทรัลเวิลด์แตกต่างจากศูนย์การค้าอื่น ๆ ที่อยู่ในย่านเดียวกัน
"ประการแรกคือ ขนาด เราต้องการให้ลูกค้าได้รู้ว่าเซ็นทรัลเวิลด์เป็นช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มีอยู่ในเมืองไทยประการต่อไปเราต้องการแสดงให้เห็นว่า ขนาดเอื้อให้เราสามารถมอบความหลากหลายในสินค้าบริการที่อำนวยให้ผู้บริโภคสามารถเข้ามาช้อปปิ้งและเพลิดเพลินกับกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจชนิดอื่นไปพร้อม ๆ กัน"
"ประการที่สามเราต้องการให้ผู้บริโภคทราบว่า ที่นี่เป็นที่ๆ คุณสามารถช้อปปิ้งได้อย่างแท้จริง เป็นที่ซึ่งสามารถเดินดูของที่อยากซื้อ ทั้งยังสามารถพบเจอของที่คุณสามารถจับจ่ายซื้อหาได้จริง"
"และประการสุดท้ายกลยุทธการตลาดของเรายังเน้นทำเลที่ตั้งของเซ็นทรัลเวิลด์ที่สามารถเข้าถึงได้โดยง่ายทั้งทางรถยนต์ รถไฟฟ้า หรือทางน้ำ โดยมีสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่อยู่ใกล้เคียงถึงสองสถานีทางเข้าออกรถยนต์ 18 จุด ซึ่งจะช่วยระบายการจราจรได้เป็นอย่างดี" นางสาววัลยากล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือไปจากสื่อโทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ และสื่อกลางแจ้งแล้ว เซ็นทรัลเวิลด์จะเน้นใช้กิจกรรมทางการตลาดหลายรูปแบบในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตลอดปี
เซ็นทรัลเวิลด์เป็นโครงการช้อปปิ้งและไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์ มูลค่า 26,000 ล้านบาท ที่มีส่วนพื้นที่ใช้สอยมากกว่า 830,000 ตรม.บนที่ดินขนาด 64 ไร่ใจกลางกรุงเทพมหานคร โดยโครงการประกอบด้วยโรงแรมระดับห้าดาว ศูนย์ประชุม อาคารสำนักงาน และช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ขนาดพื้นที่ 550,000 ตรม.ที่รวมเอา 2 ห้างสรรพสินค้าที่มีสาขาเดียวในไทย ร้านค้าชั้นนำในไทยและจากต่างประเทศกว่า 500 ร้าน ภัตตาคารและร้านอาหารกว่า 50 ร้าน โรงภาพยนตร์ 18 โรง และศูนย์โบว์ลิ่ง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท บางกอก พับลิค รีเลชั่นส์ จำกัด
อนัญญา โศภิษฐกมล (ต่อ110) หรือ ปานตา พูนทรัพย์มณี (ต่อ116)
โทร 02 664 9500
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ