กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--กรมบัญชีกลาง
ผลการเบิกจ่ายงบประมาณ ต้นไตรมาส 2 เบิกจ่ายแล้ว 562,130 ล้านบาท ร้อยละ 30.63 ของวงเงินงบประมาณ (1,835,000 ล้านบาท) ต่ำกว่าเป้าหมาย แต่หลังไตรมาส 2 ไปแล้ว คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมาย
นายมนัส แจ่มเวหา รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง รักษาการที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึงการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ว่า ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ จนถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2552 ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เบิกจ่ายไปแล้ว 562,130 ล้านบาท หรือร้อยละ 30.63 ของวงเงินงบประมาณ (1,835,000 ล้านบาท) เป็นการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำ จำนวน 479,939 ล้านบาท หรือร้อยละ 32.39 ซึ่งสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน แต่สำหรับรายจ่ายลงทุนเบิกจ่ายได้เพียง 82,191 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.28 ต่ำกว่าอัตราการเบิกจ่ายในช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนถึงร้อยละ 9.79 จึงทำให้การเบิกจ่ายในภาพรวมต่ำกว่าเป้าหมาย อยู่ประมาณ ร้อยละ 1.66 (32.29-30.63)
นายมนัส แจ่มเวหา กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ทำให้การเบิกจ่ายไม่เป็นไปตามเป้าหมาย สืบเนื่องจากยังอยู่ในช่วงต้นของไตรมาสที่ 2 การดำเนินการเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของงบลงทุนที่มีจำนวนเงินสูงๆ อาจยังไม่เรียบร้อยจึงทำให้ยังไม่มีการเบิกจ่าย แต่เมื่อมีการทำสัญญาเรียบร้อยแล้วก็น่าจะทำให้ยอดการเบิกจ่ายงบประมาณ
งบลงทุนเพิ่มขึ้น รวมถึงงบประมาณในส่วนของ อปท. (134,584 ล้านบาท) ได้มีการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนทั่วไปให้แก่ อปท. ครั้งที่ 1 ช่วงปลายเดือนมกราคม 2552 เพียง 42,247 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน จำนวน 21,988 ล้านบาท (64,235 — 42,247) และคาดว่าจะเบิกจ่ายเงินครั้งที่ 2 ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2552
อีกประมาณ 20,000 ล้านบาท ก็น่าจะส่งผลให้มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณเพิ่มขึ้น เพื่อก็จะกระจายออกไปกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่อย่างไรก็ดี สำหรับหน่วยงานที่ได้รับรายจ่ายลงทุนสูงสุดแต่มีการเบิกจ่ายต่ำ ได้แก่ กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และกรมชลประทาน ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วย งานก่อสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ และงานบำรุงรักษา อยู่ระหว่างการประกวดราคา หากมีการลงนามในสัญญาได้แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 ก็จะเร่งรัดให้มีการเบิกจ่ายต่อไป รวมถึงงบประมาณของหน่วยงานอื่นๆ ด้วย นายมนัส แจ่มเวหา กล่าวทิ้งท้าย