กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์
บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 มี รายได้รวม 413.4 ล้านบาท กำไรขั้นต้น 175.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 42.5% ของยอดรับรู้รายได้ ขณะที่กำไรสุทธิ 79.6 ล้านบาทหรือคิดเป็น 19.25% ของยอดรับรู้รายได้ เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันกับปีก่อนแล้วมีการปรับตัวลดลงของรายได้ 42.51% และ กำไรสุทธิลดลง 56.11% และสำหรับงวด 9 เดือนของปี 2549 มีรายได้รับรู้ 1,503 ล้านบาท กำไรขั้นต้น 639 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 316.1 ล้านบาท กำไรต่อหุ้นที่ 0.38 บาท
นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหารฯ กล่าวว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้นั้นแทบจะทุกภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกเป็นอย่างมาก จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ผลประกอบการในเกือบทุกภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงบ้างในบางระยะเวลา แต่ถ้าสังเกตปัจจัยที่เข้ามากระทบคราวนี้ค่อนข้างเรียกว่า เป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เช่น ปัจจัยการเมืองที่ปะทุตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนกันยายน ยิ่งกว่านั้นปัจจัยลบที่มาจากการปรับราคาขึ้นของราคาน้ำมันโลกที่มีผลต่อทั้งภาคธุรกิจและผู้บริโภคทั่วไป และอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ และผู้ต้องการซื้อบ้านต้องติดตามด้วยเช่นกันก็คือการของอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่ขับเคลื่อนขึ้นอย่างต่อเนื่องในลักษณะเดือนต่อเดือนถึง 17 ครั้งติดต่อกันพร้อมส่งผลกระทบต่อต้นทุนทางการเงินตลอดจนการพิจารณาสินเชื่อที่เข้มข้นขึ้น จากปัจจัยลบดังกล่าวก็ได้ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงตามด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ได้กล่าวมาข้างต้นก็ได้คลี่คลายไปได้ดีขึ้นมาในระดับหนึ่งแล้วและเชื่อว่าในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงนั้น ก็ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการในการใช้เวลาปรับตัวให้เข้ากับเหตุการณ์ได้เป็นอย่างดีและมีเสถียรภาพมากขึ้น ในขณะที่ตัวชี้วัดเศรษฐกิจมหภาคก็ได้ส่งสัญญาณที่เป็นบวกขึ้นแล้วเช่น การปรับลดลงของราคาน้ำมันมาอยู่ที่ระดับ 60 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล และมีเสถียรภาพมากขึ้น แนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับตัวลดลงในต้นปีหน้า เเละการประกาศเดินหน้าเรื่องการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 5 สายรอบกรุงเทพและปริมณฑลจะส่งผลดีต่อ ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันการดำเนินการดังกล่าวก็น่าที่จะมีผลต่อปรับตัวใหม่อีกครั้งของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และมีผลอย่างยิ่งต่อการเลือกซื้อบ้านที่อยู่อาศัยในอนาคตอันใกล้นี้รวมถึงวิถีชีวิตที่อาจเปลี่ยนแปลงไป
ทั่วไปแล้วเชื่อว่าในปี 2552 นั้นน่าจะเป็นปีที่ดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ได้ผ่านการทดสอบอุปสรรค สำหรับ ลลิลฯแล้ว เชื่อมั่นว่าโครงสร้างด้านธุรกิจที่มีนโยบายเจาะตลาดบ้านระดับกลางราคาตั้งแต่ 2-5 ล้านบาทซึ่งเป็นบ้านที่อยู่อาศัยของคนที่มีรายได้ระดับกลาง หรือเรียกได้ว่าเป็นตลาดสำหรับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง โครงสร้างการเงินที่เข็งแรง และการบริหารต้นทุนและความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพนั้นน่าจะนำองค์ไปสู่ความสำเร็จได้ในอนาคต
ปี 2549 บริษัทฯได้เปิดโครงการใหม่ไปแล้วจำนวน 3 โครงการมูลค่ารวม 2,150 ล้านบาทในบริเวณโซนตะวันออกใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ อ่อนนุช บางนา มีรายละเอียดดังนี้
1. The Balcony Town Home มูลค่าโครงการ 450 ล้านบาท จำนวน 150 หลัง
2. The Young Executive มูลค่าโครงการ 650 ล้านบาท จำนวน 167 หลัง
3. The Executive มูลค่าโครงการ 1,050 ล้านบาท จำนวน 213 หลัง
ดังนั้นทำให้โครงการในปัจจุบันทั้งหมดมีอยู่ 17 โครงการ ใน 5 โซน(เหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก และ ในเมือง) ซึ่งทำให้ลูกค้ามีโอกาสเลือกทำเลที่ตนชอบได้เป็นอย่างมากด้วยราคาที่สมเหตุสมผล
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด จิดาภา ประมวลทรัพย์, สมฤทัย ผลพละ
บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด
โทร. 0-2732-1041-5 โทร. 0-2693-7835-8 ต่อ 32, 34, 08-1817-7153
โทรสาร 0-2377-9656 โทรสาร 0-2693-6920
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net