กรุงเทพฯ--18 ก.พ.--ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง
บมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง แถลงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยประจำปี 2551 กำไรสุทธิรวม 6,493 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.38 พร้อมเผยทิศทางการลงทุนปี 2552 จับมือพันธมิตรขยายการลงทุนสู่โครงการผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP)ในโครงการพลังงานหมุนเวียน ควบคู่โครงการลงทุนในต่างประเทศ
นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง กล่าวถึงทิศทางการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2552 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้านโยบายด้านการลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ โดยเน้นการแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อร่วมลงทุนในโครงการใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ สำหรับโครงการใหม่ภายในประเทศนั้นจะให้ความสนใจขยายการลงทุนสู่โครงการผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) และโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนขนาดเล็กมาก (VSPP) มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและความต้องการใช้ไฟฟ้าภายในประเทศ ตลอดจนตอบรับนโยบายของภาครัฐที่ส่งเสริมให้เอกชนดำเนินการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น ส่วนโครงการใหม่ในต่างประเทศนั้นบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายการลงทุนสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น โครงการผลิตไฟฟ้าเอกชนขนาดใหญ่ และโครงการเหมืองถ่านหิน ในประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย เป็นต้น ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทฯ มีความพร้อมด้านการเงินในการลงทุนโครงการต่างๆ โดยในปี 2552 บริษัทฯ มีงบลงทุนประมาณ 4,500 ล้านบาท สำหรับสถานะการเงิน ณ 31 ธันวาคม 2551 บริษัทฯมีเงินทุนหมุนเวียน ทั้งสิ้น 10,622 ล้านบาท และกำไรสะสมจากการดำเนินงาน ทั้งสิ้น 23,493 ล้านบาท อันสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของบริษัทฯ สำหรับการลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพ
สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 3 โครงการ ซึ่งตั้งอยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนหงสา โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำงึม 3 และโครงการโรงไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อย บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการหาข้อสรุปเพื่อเจรจาในสัญญาสัมปทานกับ สปป.ลาว และราคาซื้อขายไฟฟ้า (Tariff MOU) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งหากความคืบหน้าเรื่องแผนกำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP 2007) ได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาสำคัญของโครงการดังกล่าวได้ภายในปี 2552 นอกจากนั้นปัจจุบันโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ - น้ำงึม 2 ซึ่งการก่อสร้างแล้วเสร็จกว่าร้อยละ 71 (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551) คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า (Initial Operation Date - IOD) ประมาณปลายปี 2553 และเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date - COD) ได้ทันตามกำหนดในปี พ.ศ. 2556
ด้านผลการดำเนินงานประจำปี 2551 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีผลกำไรสุทธิรวม 6,492.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 จำนวน 663.50 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ11.38 คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 4.48 บาท ในปี 2551 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้รวม 43,801.85 ล้านบาท ประกอบด้วยรายได้ค่าขายไฟฟ้าจำนวน 42,210.25 ล้านบาท รายได้ค่าบริการจำนวน 121.78 ล้านบาท ส่วนแบ่งกำไรในกิจการร่วมค้า จำนวน 931.70 ล้านบาท ดอกเบี้ยรับจำนวน 422.52
ล้านบาท และรายได้อื่นๆ 115.60 ล้านบาท สำหรับต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวม 35,798.23 ล้านบาท ประกอบด้วยต้นทุนขายจำนวน 35,158.58 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 608.49 ล้านบาท และค่าตอบแทนกรรมการ 31.16 ล้านบาท นอกจากนี้ในปี 2551 บริษัทฯ ยังมีภาระดอกเบี้ยจ่าย 1,293.37 ล้านบาท และภาษีเงินได้ 217.35 ล้านบาท
นอกจากนั้นที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบให้บริษัทฯ จัดสรรกำไรจากการดำเนินงานปี 2551 แก่ผู้ถือหุ้นเป็นจำนวน 3,190 ล้านบาท ในอัตราหุ้นละ 2.20 บาท โดยบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นแล้ว เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2551 ในอัตราหุ้นละ 1.10 บาท คงเหลือเงินปันผลจ่ายในงวดนี้ในอัตราหุ้นละ 1.10 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 เมษายน 2552 และมีกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลวันที่ 10 เมษายน 2552
ด้านกิจกรรมสังคม บริษัทฯยังคงเดินหน้าโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน หรือ “กล้ายิ้ม” อย่างต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยร่วมมือกับกรมป่าไม้ สานต่อกิจกรรมประกวดป่าชุมชนตัวอย่าง โดยโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โปรดเกล้าฯ พระราชทานถ้วยรางวัลชนะเลิศป่าชุมชนตัวอย่างระดับประเทศ โดยคาดว่าจะจัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการประกวดได้เร็วๆนี้
“กิจกรรมการประกวดป่าชุมชนตัวอย่างเป็นหนึ่งในกิจกรรมหลายอย่างที่จัดขึ้นภายใต้โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน โดยในปีที่ผ่านมายังมีกิจกรรมค่ายเยาวชนกล้ายิ้ม กิจกรรมเครือข่ายป่าชุมชนกล้ายิ้ม ซึ่งกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้เป็นการสานต่อความตั้งใจที่จะเผยแพร่แนวคิดและรูปแบบการบริหารจัดการป่าชุมชนที่ประสบผลสำเร็จ สามารถเป็นตัวอย่างให้กับชุมชนอื่นๆ ได้ สู่เยาวชนและสาธารณะชน โดยในปีนี้ยังคงมีความหลากหลายของกิจกรรมเช่นเคย บริษัทฯ ได้เตรียมงบประมาณไว้สำหรับการดำเนินโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน รวม 5 ปี จำนวน 56 ล้านบาท” นายนพพล กล่าวเพิ่มเติมในตอนท้าย
ข้อมูลทั่วไป
บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันมีกำลังผลิตติดตั้งทั้งหมด 4,347 เมกะวัตต์ จากการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศ บริษัทมีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นประกอบด้วยโรงไฟฟ้าราชบุรีกำลังผลิตรวม 3,645 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ สัดส่วนกำลังผลิต 350 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ สัดส่วนกำลังผลิต 350 เมกะวัตต์ (โดยทั้ง 3 โครงการตั้งอยู่ในจังหวัดราชบุรี) และโครงการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติที่เป็นผลพลอยได้จากการผลิตน้ำมันดิบกำลังผลิต 1.75 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดสุโขทัย ส่วนโครงการลงทุนในต่างประเทศนั้น ประกอบด้วย โครงการลงทุนใน สปป. ลาว ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ - น้ำงึม 2 สัดส่วนกำลังผลิตประมาณ 153.75 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ — น้ำงึม 3 สัดส่วนกำลังผลิตประมาณ 110 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าเซเปียนเซน้ำน้อย สัดส่วนกำลังการผลิต 93 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าหงสา สัดส่วนกำลังการผลิต 661 เมกะวัตต์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อส่วนประชาสัมพันธ์ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)ติดต่อ: วิวรรณ พยัฆวิเชียร, ดวงแก้ว เธียรสวัสดิ์กิจ โทร. 0 2978 5221-4 อีเมล์ : wiwanp@ratch.co.th