กรุงเทพฯ--18 ก.พ.--ออนไลน์ แอสเซ็ท
1 มีนาคมนี้ ดีเดย์ บริษัท เน็ตเบย์ เปิดให้บริการด้าน Logistics รวดเดียว 5 บริการ หวังช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการด้านขนส่ง ตั้งเป้ารายได้รวมโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 267 ล้านบาท พร้อมวางเป้าหมายพัฒนาบริการสู่ B-to-G และ B-to-B ในอนาคต
นายพิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 มีนาคม 2552บริษัทจะเปิดให้บริการใหม่ด้าน Logistics ทั้ง 5 บริการพร้อมกัน หลังจากก่อนหน้านี้ทดลองให้บริการมาระยะหนึ่งแล้ว ได้แก่ 1. ระบบ FreeZone Warehouse Management System (FZWMS), 2. ระบบ e-Cargo Express, 3. ระบบ e-Payment, 4. ระบบ Electronic Trade Cross Border และ 5. ระบบ e-Shipping Service Gateway เพื่อช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการด้านขนส่ง หลังจากที่ทดลองให้บริการมาแล้วระยะหนึ่ง
โดยบริการระบบ FreeZone Warehouse Management System (FZWMS) ปัจจุบันบริษัทได้ติดตั้งระบบซอฟท์แวร์ FZWMS ให้แก่ผู้ประกอบการ 40 ราย ที่เข้าไปอยู่ในเขตปลอดอากรของสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมีผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและบริษัทข้ามชาติ ที่สามารถใช้งาน FZWMS ในการบริหารจัดการคลังสินค้านำเข้าและส่งออกอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามกฎเกณฑ์, ข้อกำหนด, ระเบียบของกรมศุลกากร และเจ้าของพื้นที่เขตปลอดอากร คือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT
ส่วนบริการระบบ e-Cargo Express เป็นระบบสินค้าพัสดุภัณฑ์เร่งด่วน ซึ่งมีผู้ประกอบการข้ามชาติที่ใช้บริการ คือกลุ่ม BIG 4 ซึ่งได้แก่ DHL, Fedex, UPS, TNT รวมทั้งกลุ่มผู้ประกอบการไทย ที่ดำเนินธุรกิจด้านพัสดุภัณฑ์เร่งด่วน
ด้านบริการระบบ e-Payment จะประกอบด้วย การชำระค่าภาษีนำเข้าแก่กรมศุลกากร, ชำระค่า Storage Charges แก่ Terminal Operator และการชำระค่า Freight แก่สายเดินเรือต่างๆ
สำหรับบริการระบบ Electronic Trade Cross Border จะเป็นการให้บริการเอกสารข้ามแดน ระหว่างประเทศ ฮ่องกง-จีน-ไทย เพื่อส่งเสริมให้ธุรกรรมการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ-ข้ามแดน ได้รับความรวดเร็ว, สะดวก, ประหยัด, ลดขั้นตอน และในอนาคตจะพัฒนาการเชื่อมโยงระบบไปยังประเทศต่างๆ ในเอเชีย
ขณะที่บริการระบบ e-Shipping Service Gateway เป็นบริการที่ทาง เน็ตเบย์ ได้ร่วมกับสมาคมเจ้าของและตัวแทนเรือกรุงเทพฯ (BANGKOK SHIPOWNERS AND AGENTS ASSOCIATION : BSAA) พัฒนาระบบด้วยกัน ซึ่งจะครอบคลุมการให้บริการครบวงจรแก่สายเดินเรือและตัวแทน ที่เป็นสมาชิกของสมาคมกว่า 100 สายเรือ ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก และ Freight Forwarders สามารถทำธุรกรรมออนไลน์กันได้ อาทิ เช่น การค้นหาตารางเดินเรือ, การสำรองพื้นที่, การส่งรายละเอียดใบจองเรือ, ใบตราส่งสินค้า, การขอแก้ไขเอกสารและบัญชีเรือ, การสลักหลังใบสั่งปล่อยสินค้า, การตรวจเช็ครายละเอียดบัญชีเรือ, การตรวจสอบสถานะใบสั่งปล่อย, การชำระเงินค่าบริการต่างๆ ทางอิเล็กทรอนิกส์, การติดตามสอบถามสถานะ
นายพิชิต กล่าวต่อว่า บริการใหม่ดังกล่าว นับเป็นการต่อยอดจากบริการเดิมของ เน็ตเบย์ ที่มีเป้าหมายว่าจะเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท ซึ่งตั้งเป้าว่ารายได้รวมปีนี้จาก เน็ตเบย์ และบริษัทในเครือ คือ บริษัท ซอฟต์แวร์ลิงค์ จำกัด จะเติบโตขึ้นประมาณ 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 267 ล้านบาท
โดยในปีนี้ประเมินว่าวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น จะทำให้ภาพรวมของธุรกิจถดถอยลง 20% รวมถึงธุรกิจในเครือของ เน็ตเบย์ แต่เนื่องจากบริษัทได้พัฒนาและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ขึ้นมา จึงเชื่อว่าจะมาทดแทนรายได้ที่มีแนวโน้มสูญเสียไปตามภาพรวมเศรษฐกิจ และอาจผลักดันให้รายได้รวมโตจากปีก่อนได้ 10% ในที่สุด
"ในระหว่างที่เศรษฐกิจไม่ดี เราก็มีเวลาเตรียมความพร้อม มีเวลามาพัฒนาระบบ พัฒนาบุคลากร พัฒนาทีมงานให้แข็งแรง เพราะหากเศรษฐกิจดีอาจทำไม่ทัน และในปีนี้เรายังต้องการบุคลากรเข้ามาเพิ่ม โดยเฉพาะโปรแกรมเมอร์ซึ่งเป็นหัวใจของธุรกิจเราซึ่งรายได้ทั้งหมดมาจากการพัฒนาซอฟต์แวร์" นายพิชิต กล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : คุณดวงสุรีย์ วายุบุตร์ (แขก) 081-420-0743
: คุณปภาดา สุวรรณกูฎ (ตุ้ย) 02-5549394 / 085-1330184