กรุงเทพฯ--18 ก.พ.--เวิรฟ
บริษัทแม่ของแอมเวย์ อัลติคอร์ อิงค์ ประกาศผลการดำเนินธุรกิจ ณ สิ้นปี 2551 ด้วยยอดขายกว่า 8.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ถึง 15% กว่าสองในสามของตลาดสาขาทั้งหมดทั่วโลก 58 ประเทศมียอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดจีน รัสเซีย และอินเดีย สำหรับตลาดเมืองไทยประสบความสำเร็จด้วยยอดขายถึง 11,550 ล้านบาท ตอกย้ำชัดอาชีพ “นักธุรกิจแอมเวย์” เป็นทางเลือกบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจซบเซา
นายสตีฟ แวน แอนเดล ประธานกรรมการ อัลติคอร์ อิงค์ บริษัทแม่ของแอมเวย์ เปิดเผยว่า แอมเวย์ก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 ด้วยความมั่นคง โดยในปี 2551 มีลูกค้าจำนวนมากขึ้นที่ให้ความสนใจแบรนด์สินค้าชั้นนำมากมายของเราและการเป็นโอกาสทางธุรกิจของผู้คน
นายดั๊ก เดอโวส ประธานบริษัทแม่ของแอมเวย์กล่าวเสริมว่า “การที่แอมเวย์สามารถสร้างผลประกอบการที่ดีเยี่ยมได้ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจโลก เนื่องจากการทำงานอย่างหนักของบรรดานักธุรกิจแอมเวย์ที่ยอดเยี่ยมของเราและพนักงานทุกคนที่ทุ่มเทด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ เรากำลังเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปของตลาด และผลที่ได้ก็เป็นกำลังใจให้กับเราอย่างมาก”
ทั้งแอนเดลและเดอโวสทราบดีว่าแอมเวย์สามารถฝ่าฟันเศรษฐกิจขาลงได้ในปีที่ผ่านมา แต่ก็ให้ความระมัดระวังว่าการคาดการณ์สภาวะเศรษฐกิจโลกปัจจุบันจะเป็นสิ่งท้าทายที่สำคัญสำหรับบริษัททั่วโลกในปี 2552 “หวังว่าเราจะสามารถเติบโตได้อีกในปีนี้” แวน แอนเดลกล่าว “แต่ก็ยังมีอุปสรรคมากมายที่ธุรกิจทั่วโลกยังต้องเผชิญอยู่”
ประธานกรรมการบริษัททั้งสองกล่าวว่า บริษัทประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมาเนื่องจากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ด้านการสื่อสารกับลูกค้า โดยตลาดสาขาที่ประสบความสำเร็จต่างก็ใช้แคมเปญโฆษณาประชาสัมพันธ์ สื่อเพื่อสังคม และช่องทางสื่อสารอื่นๆ เพื่อให้เข้าถึงตัวลูกค้า ในขณะที่พยายามรักษาวิธีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบบบุคคลต่อบุคคลไว้ “แอมเวย์เป็นแบรนด์ที่ทันต่อสถานการณ์และกำลังได้รับการจับตามองจากผู้คนทั่วโลก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ นักธุรกิจแอมเวย์ของเราสามารถเชิญชวนให้ลูกค้าเลือกแอมเวย์ได้ดียิ่งขึ้น” เดอโวสกล่าว
บริษัทสาขาของแอมเวย์ทั่วโลกจะร่วมฉลองครบรอบ 50 ปีของบริษัทแม่ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2502 ผ่านกิจกรรมต่างๆ มากมายในแต่ละสาขา รวมทั้งการรวมตัวกันครั้งใหญ่ของนักธุรกิจแอมเวย์ระดับสูงในเมืองแกรนด์แรพิดส์และลาสเวกัสในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ด้วย
สินค้าชั้นนำของแอมเวย์ ได้แก่ นิวทริไลท์? ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งปีที่ผ่านมาสามารถสร้างยอดขายเป็นประวัติการณ์ได้ถึง 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ และอาร์ทิสทรี? เครื่องสำอางถนอมผิวและสีสันที่ประสบความสำเร็จสามารถสร้างยอดขายและส่วนแบ่งทางการตลาดระดับโลกเพิ่มขึ้น โดยไต่จากอันดับที่ 13 ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 9 ในปีที่ผ่านมา
นายกิจธวัช ฤทธีราวี ผู้จัดการทั่วไป-ฝ่ายธุรกิจสัมพันธ์และการตลาด บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ปี 2551 ที่ผ่านมาผลประกอบการของแอมเวย์ประเทศไทยเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยยอดขายสูงถึง 11,550 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 14% ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ของธุรกิจขายตรงบ้านเรา โดยเฉพาะในช่วงภาวะเศรษฐกิจขาลงที่มีสิ่งท้าทายตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา บริษัทขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ของเราจน “แอมเวย์” ก้าวขึ้นเป็นแบรนด์สินค้าคุณภาพอันดับต้นๆ ในใจผู้บริโภค ยิ่งไปกว่านั้น ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นการบรรลุเป้าหมายร่วมกันของหุ้นส่วนทางธุรกิจของบริษัท โดยเฉพาะนักธุรกิจแอมเวย์ (นธอ.) ทุกคน ความทุ่มเทและมุ่งมั่นทั้งของ นธอ. และพนักงานทุกส่วน ทำให้ “แอมเวย์” เป็นทีมที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้เราประสบความสำเร็จและรักษาความเป็นแชมป์ขายตรงไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิ”
“ผลประกอบการรวมทั้งของอัลติคอร์และประเทศไทยเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่า แอมเวย์เป็นธุรกิจเครือข่ายที่สามารถสร้างความสำเร็จได้อย่างยั่งยืนทั้งในระดับท้องถิ่นและสากล อาชีพ “นักธุรกิจแอมเวย์” จึงเป็นทางเลือกของการสร้างรายได้เสริมและสามารถพัฒนาให้กลายเป็นรายได้หลักด้วยเครือข่ายธุรกิจที่มีมูลค่าสูง ตกทอดเป็นมรดกแก่ครอบครัวในอนาคตได้ แม้ในภาวะที่เศรษฐกิจมีความผันผวนรุนแรงเช่นนี้ เรายังเชื่อมั่นว่าจะสามารถประคองธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงไปพร้อมๆ กับหุ้นส่วนนักธุรกิจแอมเวย์ของเรา โดยตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตในปีนี้ประมาณ 7%” นายกิจธวัชกล่าว
นายกิจธวัชกล่าวต่อไปว่า สำหรับปี 2552 เรายังคงเดินหน้าธุรกิจสอดคล้องไปกับเทรนด์ของโลกคือ มุ่งให้บริการและส่งมอบผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพและความงามที่มีคุณภาพสูงแก่ผู้บริโภค ภายใต้กลยุทธ์หลักที่ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ได้แก่ 1. มุ่งไปที่ความต้องการของลูกค้า (Consumer Focus) 2. มีแผนงานที่มุ่งเน้นผลลัพธ์และประสิทธิภาพทั้งในส่วนการดำเนินงานของบริษัทและองค์กรนักธุรกิจแอมเวย์ (Performance Driven) 3. การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และการบริการ (Innovation) นอกจากนั้น จะมุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพนักธุรกิจแอมเวย์ให้มีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันมีนักธุรกิจแอมเวย์ที่แอ็คทีฟ มีการสั่งซื้อสินค้าและต่ออายุสมาชิกภาพรวมถึง 300,000 รหัสทั่วประเทศ
นางรัตนา ชาญนรา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า “ความสำเร็จใน ปีที่ผ่านมาเกิดจากการทุ่มเทวิจัยและค้นคว้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างจริงจังและต่อเนื่อง กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามยังคงสร้างรายได้ให้บริษัทสูงสุดถึง 60% ของยอดธุรกิจทั้งหมด สำหรับปีนี้จะเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายและเน้นความต้องการเฉพาะกลุ่มมากขึ้น โดยเร็วๆ นี้มีแผนแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น “นิวทริไลท์ เคลียร์คอมเพล็กซ์” ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากซินนามอน ผงพิเคา เพรโต และอะเซโรลา คอนเซ็นเทรต เบลนด์ “อาร์ทิสทรี สปริง คอลเล็คชั่น” เครื่องสำอางสีสันชุดใหม่สำหรับฤดูร้อนนี้ เป็นต้น
“บริษัทได้ตั้งงบประมาณด้านการตลาดและส่งเสริมการขาย รวมถึงงบโฆษณาและประชาสัมพันธ์ในปีนี้รวม 750 ล้านบาท โดยจะเน้นการทำโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่เจาะตรงยังกลุ่มเป้าหมาย พร้อมๆ กับเตรียมจัดรายการโปรโมชั่นเพื่อสนับสนุนนักธุรกิจแอมเวย์ให้สามารถสร้างตลาดได้ในภาวะเศรษฐกิจที่อาจซบเซาตลอดปีนี้” นางรัตนากล่าว
นางรัตนากล่าวต่อไปว่า นอกจากนั้นยังต้องขยายฐานสมาชิกผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ให้มากยิ่งขึ้น ปีที่ผ่านมาแอมเวย์ประสบความสำเร็จในโครงการแอมเวย์ เมมเบอร์ (Amway Member) ทำให้มีสมาชิกผู้ใช้สินค้าเพิ่มขึ้นถึง 60% ทั้งนี้ การเป็นสมาชิกแอมเวย์จะมีการต่ออายุสมาชิกภาพเป็นประจำทุกปี ดังนั้น ตัวเลขสมาชิกของแอมเวย์จึงเป็นการแสดงถึงสมาชิกที่มีความเคลื่อนไหว ซึ่งกลุ่มนี้จะเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ธุรกิจแอมเวย์เติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาวอีกด้วย ดังนั้น เพื่อความต่อเนื่องเราจึงให้ความสำคัญ 2 เรื่อง คือ การซื้อซ้ำ (Reactivation) สำหรับฐานสมาชิกที่เพิ่มขึ้น แอมเวย์จะนำโปรแกรมการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (Relationship Management) ที่ได้พัฒนาไว้แล้วมาช่วยในการวิเคราะห์และบริหารสมาชิกให้ร่วมกิจกรรมทางการตลาดกับบริษัทอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเรายังคงต้องขยายฐานของกลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ (Penetration) สำหรับสมาชิกที่บริโภคผลิตภัณฑ์เพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เราก็จะจัดกิจกรรมให้ลูกค้ามีโอกาสใช้ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของแอมเวย์มากขึ้น และด้วยคุณภาพที่มั่นใจว่าสมาชิกจะพึงพอใจและซื้อใช้อย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้เกิดการขยายกลุ่มลูกค้าที่มากขึ้น”
“นอกจากนั้น แอมเวย์ยังคงเน้นการพัฒนาบริการและความทันสมัยของแอมเวย์ ช็อป ในทุกสาขา เพื่อสนับสนุนให้นักธุรกิจแอมเวย์ดำเนินธุรกิจและให้บริการสมาชิกได้สะดวกมากยิ่งขึ้น รวมถึงสร้างโอกาสให้กลุ่มผู้สนใจธุรกิจเข้าถึงผลิตภัณฑ์และโอกาสทางธุรกิจได้ง่ายขึ้น พร้อมพัฒนาระบบการติดต่อสื่อสารกับบริษัทที่สะดวกรวดเร็วเพื่อให้กิจกรรมทางการตลาดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด” นางรัตนากล่าวในที่สุด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อเวิรฟ :
วรญา มณีวรรณ (เพชร) โทร.0-2204-8229 หรือ 084-004-0636
พรชนันท์ มงคลกุล (กิฟท์) โทร.0-2204-8223 หรือ 081-755-1105