ปภ.เตือนเฝ้าระวัง 5 จังหวัด ให้ระวังน้ำล้นตลิ่ง ท่วมคันกั้นน้ำในที่ลุ่ม

ข่าวทั่วไป Monday October 30, 2006 12:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 ต.ค.--ปภ.
กรมป้องกันฯ เตือนอยุธยา สุพรรณฯ ปทุมฯ นนท์ฯ นครปฐม ระวังน้ำท่วมในที่ลุ่ม เนื่องจากกรมชลฯ จะระบายน้ำออก ขอให้ดูแลคันกั้นน้ำให้แข็งแรง ขณะที่โรงเรียนเริ่มเปิดภาคเรียนแล้ว ห่วงเด็กเล็ก นักเรียน วิ่งเล่นริมน้ำ วอนครู ผู้ปกครองดูแลใกล้ชิด หวั่นพลัดตกน้ำเสียชีวิต
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัย ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม — 26 ตุลาคม 2549 มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมรวม 47 จังหวัด 331 อำเภอ 24 กิ่งอำเภอ 2,193 ตำบล 12,776 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 3,527,766 คน 1,014,086 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 154 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 3,007,431 ไร่ มูลค่าความเสียหาย 377,675,751 บาท สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 32 จังหวัด ยังคงมีพื้นที่ประสบภัย 15 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก สุโขทัย พิจิตร นครสวรรค์ ชัยนาท อุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพฯ ส่วนปริมาณน้ำในลุ่มเจ้าพระยาที่ไหลผ่านพื้นที่ต่างๆ ดังนี้ จังหวัดนครสวรรค์ 4,155 ลบ.ม./วินาที เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท 3,980 ลบ.ม./วินาที อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3,471 ลบ.ม./วินาที ถึงแม้ว่าปริมาณน้ำที่ไหลลงมาจากภาคเหนือ จะมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่จากการประสานงานกับกรมชลประทาน ทราบว่า ในช่วง 1 — 2 วันนี้ จะมีการระบายน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ไปลงคลองต่างๆ ในยังทุ่งฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้น้ำไหลไปลงแม่น้ำท่าจีน ในพื้นที่ต่างๆ ได้แก่ ทุ่งพระยาบรรลือ ทุ่งพระพิมล ซึ่งจะส่งผลให้ 5 จังหวัดในพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ปทุมธานี นนทบุรี และนครปฐม มีระดับน้ำท่วมขังสูงขึ้น จนอาจทำให้น้ำล้นตลิ่ง ท่วมคันกั้นน้ำท่วมในที่ลุ่มบางจุดได้ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลคันกั้นน้ำให้มีความมั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันคันกั้นน้ำพังทลาย สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือน หรือสถานที่ที่ตั้งอยู่ริมน้ำได้ ส่วนพื้นที่ริมน้ำในกรุงเทพฯ คาดว่าจะมีน้ำล้นตลิ่งในช่วงเช้า และช่วงหัวค่ำเพราะเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง จึงขอให้ประชาชนขนย้ายทรัพย์สิน สิ่งของไว้บนที่สูงในระยะนี้ก่อน และแม้ว่าสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งจะลดระดับลงในช่วงสัปดาห์หน้าก็ตาม ก็ขอความร่วมมือประชาชนอย่าเพิ่งรื้อกระสอบแนวคันกั้นน้ำออก จนกว่าสถานการณ์จะยุติ ในวันที่ 15 พ.ย. นี้ เนื่องจากคาดว่า น้ำทะเลจะหนุนสูงอีกครั้งในช่วงวันที่ 6 - 10 พ.ย. นี้ แต่สถานการณ์ไม่น่าจะรุนแรงมากนัก เนื่องจากช่วงดังกล่าว ปริมาณน้ำที่ไหลลงมาจากภาคเหนือ คงอยู่ในปริมาณที่น้อยลงในระดับที่สามารถควบคุมได้แล้ว ประกอบกับมีฝนตกน้อยลงแล้ว
นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า สัปดาห์หน้า หลายโรงเรียนในพื้นที่ภาคกลาง และกรุงเทพฯ คงเริ่มเปิดภาคเรียนกันแล้ว จึงขอให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ตรวจสอบข้อมูลกับทางโรงเรียนให้เรียบร้อยก่อน ว่า สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่โรงเรียนต่างๆ ในจังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ชัยนาท สุพรรณบุรี อุทัยธานี คลี่คลายลงหรือยัง โดยเฉพาะโรงเรียน และบ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ แม้สถานการณ์น้ำท่วมในบางพื้นที่จะคลี่คลายลงแล้วก็ตาม แต่ระดับน้ำยังคงสูงอยู่ จึงขอให้ครู ผู้ปกครอง ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด อย่าปล่อยให้เด็กไปวิ่งเล่นริมฝั่งแม่น้ำตามลำพัง เพราะอาจพลัดตกลงน้ำ ทำให้เสียชีวิตได้ สุดท้ายนี้ หากพื้นที่ใดได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม ติดต่อได้ทางสายด่วน ปภ. 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ