กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
ตามที่มีข่าวปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวกับกรณี iPhone ซึ่งบริษัท ทรู มูฟ จำกัด ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท Apple ให้เป็นตัวแทนจัดจำหน่าย เครื่อง iPhone ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยกล่าวหาว่าทรูมูฟกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายต่างๆ ไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย เอารัดเอาเปรียบผู้ใช้บริการ ก่อให้เกิดความเสียหายและความสับสนในหมู่ลูกค้าและประชาชนทั่วไป รวมทั้งเสื่อมเสียชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของทรูมูฟ นั้น
บริษัท ทรู มูฟ จำกัด ได้ยื่นหนังสือต่อ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้อำนวยการ สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมและอนุกรรมการรับเรื่องร้องเรียนและบริการประชาชน กรณีการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์ iPhone3G ของบริษัท ด้วยข้อความที่ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนและเกิดความรู้สึกไม่ดีกับการจัดจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์ iPhone3G ตลอดจนส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในการประกอบธุรกิจของบริษัทอย่างรุนแรง อีกทั้งยังเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่ถูกต้องและไม่ชอบด้วยกฎหมาย
บริษัท ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ทรูมูฟ ได้จัดงานเพื่อให้ผู้สั่งจองมารับพร้อมส่งมอบเครื่อง iPhone เครื่องแรกในไทยให้ผู้สั่งจองเมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา ณ Royal Paragon Hall ศูนย์การค้าสยามพารากอน แต่เนื่องจากมีการนำเครื่อง iPhone ที่ผิดกฎหมาย หรือ “ของเถื่อน” จำนวนมากเข้ามาในประเทศไทย ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งการลักลอบนำเข้ามาในประเทศและหลีกเลี่ยงการเสียภาษีให้แก่รัฐ ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ในขณะที่การนำเครื่อง iPhone เข้ามาในประเทศไทยของทรูมูฟเป็นการนำเข้าที่ถูกต้อง โดยเสียภาษีอากรตามกฎหมายทุกประการ แต่กลับถูกกล่าวหาว่าทรูมูฟเอารัดเอาเปรียบผู้ใช้บริการ ซึ่งที่ผ่านมา ทรูมูฟได้ให้ความร่วมมือกับ กทช. ในการชี้แจงข้อเท็จจริงต่าง ๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของ กทช. (สบท.) ก็ได้รับทราบข้อเท็จจริงและรายละเอียดเกี่ยวกับการจำหน่ายและการให้บริการดังกล่าวอย่างชัดเจนแล้ว แต่ไม่เคยแจ้งกลับมาให้ทรูมูฟทราบว่า การจัดจำหน่ายและการให้บริการดังกล่าวไม่ถูกต้องอย่างไร ไม่เป็นไปตามกฎหมายอย่างไร หรือจะให้ดำเนินการแก้ไขอย่างไร กลับยังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกล่าวหาทรูมูฟ ว่าทำผิดกฎหมาย และเอาเปรียบผู้บริโภคมาโดยตลอด
การที่สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) กรรมการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (คบท.) และคณะอนุกรรมการรับเรื่องร้องเรียนและบริการประชาชน ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของ กทช. ให้สัมภาษณ์ และหรือ ให้ข่าวสารต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการจำหน่ายและการให้บริการ iPhone ดังกล่าว ทำให้ทรูมูฟได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียงและภาพพจน์อย่างร้ายแรง ถือเป็นการทำลายธุรกิจของบริษัท จนทำให้ประชาชนทั่วไปเกิดความสับสน และขาดความเชื่อมั่นในสินค้าและบริการดังกล่าวของทรูมูฟ
กรณีที่มีการกล่าวหาว่า ทรูมูฟบังคับให้ผู้บริโภคต้องใช้เครื่อง iPhone และใช้บริการทรูมูฟนั้น บริษัทขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะประชาชนทั่วไปสามารถซื้อเครื่อง iPhone เปล่า เพื่อนำไปใช้บริการโทรศัพท์กับผู้ประกอบการรายอื่นได้ แต่การที่ทรูมูฟทำแพคเกจ เพื่อส่งเสริมการขาย ก็เนื่องจากเครื่อง iPhone ถูกออกแบบมารองรับการใช้งานทั้งด้านเสียงและด้าน DATA (ผ่าน EDGE, GPRS และ Wi-Fi) ซึ่งลูกค้าจะได้รับประโยชน์เต็มที่ในกรณีที่ผู้ให้บริการให้แพคเกจส่งเสริมการขาย โดยเฉพาะด้าน DATA ในราคาที่คุ้มค่า และที่สำคัญไม่ต้องการให้บุคคลอื่นนำเครื่อง iPhone ที่มีการลักลอบนำเข้าโดยผิดกฎหมาย มาใช้บริการในโครงข่ายของ ทรูมูฟ เพราะทรูมูฟเป็นบริษัทที่มี Good Corporate Governance และไม่สนับสนุนให้มีการหลีกเลี่ยงภาษี อันเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
สำหรับกรณีที่มีการกล่าวหาว่า ทรูมูฟเลือกปฏิบัติ แบ่งแยกหรือกีดกัน ผู้ใช้บริการ เนื่องจากลูกค้าทรูมูฟเท่านั้นที่สามารถซื้อเครื่องและสมัครใช้บริการ Package Basic ได้ และมีการกำหนดอัตราค่าบริการที่แตกต่างกันนั้น ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน เพราะทรูมูฟปฏิบัติต่อผู้ใช้บริการและประชาชนทั่วไปอย่างเท่าเทียม แต่เหตุที่อัตราค่าบริการมีความแตกต่างกัน เนื่องจากเครื่อง iPhone 8G และ iPhone 16G มีหน่วยความจำและความสามารถในการใช้งานแตกต่างกันมาก ดังนั้น อัตราค่าบริการจึงจำเป็นต้องมีอัตราที่แตกต่างกัน
กรณีที่มีการกล่าวหาว่า เงื่อนไขการตลาดของทรูมูฟขัดต่อประกาศ กทช. ข้อ 15 เรื่อง มาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ.2549 เนื่องจากการเช่าเครื่องโดยวิธีผ่อนชำระจะมีราคา ถูกกว่าการซื้อเครื่องเปล่านั้น ทรูมูฟขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะเงื่อนไขการตลาดของ ทรูมูฟดังกล่าวเป็นไปตามประกาศ กทช. ข้อ 15 และหากผู้ใช้บริการประสงค์ที่จะยกเลิกการใช้บริการกับทรูมูฟก่อนครบกำหนดเงื่อนไขการตลาด ก็สามารถกระทำได้ ซึ่งกรณีดังกล่าว ทรูมูฟปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและประกาศ กทช. ที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด แต่กรณีการชำระค่าเครื่องที่ธนาคารได้ชำระแทนผู้ใช้บริการไปแล้วนั้น ผู้ใช้บริการมีหน้าที่จะต้องชำระเงินค่าเครื่องให้กับธนาคารที่ผู้ใช้บริการได้ทำสัญญาผูกพันไว้ในการซื้อเครื่อง iPhone ต่อไป เนื่องจากในขณะทำสัญญากับธนาคารเพื่อซื้อเครื่อง iPhone
ผู้ใช้บริการได้อ่านและเข้าใจเงื่อนไขเกี่ยวกับการซื้อเครื่อง iPhone โดยไม่มีการบังคับ ขู่เข็ญ หรือหลอกลวงผู้ใช้บริการแต่อย่างใดทั้งสิ้น ดังนั้น ทรูมูฟจึงไม่สามารถก้าวล่วงสัญญาระหว่างธนาคารกับผู้ใช้บริการได้
สำหรับกรณีที่ประชาชนซื้อเครื่องและใช้บริการ iPhone ของทรูมูฟโดยวิธีการผ่อนชำระเป็นรายเดือน จะมีอัตราค่าบริการถูกกว่าการซื้อเครื่องเปล่านั้น ทรูมูฟขอเรียนว่า เป็นเรื่องปกติในการทำการตลาดหรือการส่งเสริมการขาย เช่นเดียวกับผู้ประกอบการรายอื่นที่ทำการตลาดอยู่โดยทั่วไป เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น โดยการขายสินค้าในราคาพิเศษใกล้เคียงกับราคาต้นทุนของสินค้านั้น ก็เพื่อตอบแทนความไว้วางใจของประชาชนที่เลือกใช้บริการทรูมูฟ
บริษัท ทรู มูฟ จำกัด จึงจำเป็นต้องยื่นหนังสือต่อ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้อำนวยการ สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมและอนุกรรมการรับเรื่องร้องเรียนและบริการประชาชน อีกทั้ง เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงและความเป็นจริงของเรื่องราวที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับกรณีเครื่อง iPhone ที่ ทรูมูฟ ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท Apple ให้เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายเครื่อง iPhone ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับลูกค้าและประชาชนทั่วไป และเพื่อรักษาชื่อเสียง ภาพพจน์ และการให้บริการของทรูมูฟ ไม่ให้ลูกค้าและประชาชนสับสน อันจะส่งผลกระทบต่อการให้บริการและความเชื่อมั่นในบริการ iPhone ที่ทรูมูฟนำเข้ามาให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเพื่อดำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรมและความยุติธรรมต่อบริษัท ทรู มูฟ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่ปฏิบัติตามข้อบังคับและข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด
สำหรับสื่อมวลชน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่:
สายงานสื่อสารองค์กร และประชาสัมพันธ์การตลาด กลุ่มทรู
ศิษฎิ รูเบ็น โทร. +66 (0) 2699 2782 อีเมลล์ sisadhi_reu@truecorp.co.th
พิมลพรรณ ศิริวงศ์วานงาม โทร. +66 (0) 2699 2772 อีเมลล์ pimolpan_sir@truecorp.co.th