กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--อินโฟเควสท์
เปิดศักราชใหม่พร้อมต้อนรับผู้บริหารคนใหม่ "อาจกิจ สุนทรวัฒน์" เข้ามานั่งแท่นกรรมการผู้จัดการ ทรู แฟนเทเชีย แทน "คุณหนุ่ม-กิตติกร เพ็ญโรจน์" ที่เพิ่งปลีกตัวไปสร้างค่ายใหม่เป็นของตัวเองหมาดๆ บิ๊กบอสคนล่าสุดก็เริ่มนโยบายปฏิวิติบริษัทครั้งสำคัญทันที ทั้งดึง 3 โปรดิวเซอร์มือดี "โอม-บอยด์-ชมพู" ร่วมงาน แถมยังวางแผนขยายตลาดเอเอฟให้ก้าวไกลสู่สาธารณชนมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย โดยคุณอาจกิจ พร้อมด้วย คุณธิติฎฐ์ นันทพัฒน์สิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด เผยถึงนโยบายค่ายให้ฟังว่า
"ปีนี้จะเน้นการทำ Single Hit มากขึ้น พร้อมส่งผลงานให้แฟนๆ ได้ฟังโดยไม่ต้องรอให้ทำเสร็จครบ 10 เพลง ในปีนี้จะไม่เน้นปริมาณ จำนวนเพลงตลอดปีจะมีประมาณ 50-60 เพลง แต่จะเน้นที่คุณภาพ โดยได้ดึง โอม-ชาตรี คงสุวรรณ, ทีมเลิฟอีส มิวสิค โปรดักชั่น นำทีมโดย บอยด์ โกสิยพงษ์ และ ชมพู-สุทธิพงษ์ วัฒนจัง มานั่งแท่นเป็นโปรดิวเซอร์มือทองของค่าย งัดความโดดเด่นในตัวของศิลปินแต่ละคนออกมาเพื่อสร้างผลงานที่ตรง และโดนใจแฟนๆ มากที่สุด ไม่หวั่นความคิดเห็นขัดแย้งจนเกิดอาการแตกคอ เพราะโปรดิวเซอร์ทั้ง 3 คนนี้มีความสนิทสนมกันอยู่แล้ว เชื่อว่าจะทำงานกันได้ง่าย
นอกจากนี้ 2 ผู้บริหารยังกล่าวอีกว่า "บริษัท ทรู แฟนเทเชีย ถือเป็นผู้เมนเนจศิลปินไม่ใช่ค่ายเพลง ดังนั้นหน้าที่หลักของ ทรู แฟนเทเชีย คือการดูแลเรื่องภาพลักษณ์ศิลปิน ผลักดันความสามารถของเด็กให้โดดเด่น ผลงานมีความทั่วถึงมากขึ้น ทำให้ศิลปิน AF เป็นที่รู้จักในวงกว้างไม่เจาะจงว่าต้องเป็นนักร้องเพียงอย่างเดียว ใครมีความสามารถทางด้านการแสดงบริษัทก็ยินดีสนับสนุน ค่ายไหนต้องการศิลปินร่วมงานบริษัทก็พร้อมจัดส่ง ซึ่งในปีที่ผ่านมามีเด็กเอเอฟหลายคนประสบความสำเร็จในด้านการแสดง อาทิ บอย, มิ้น, ว่าน, ตุ้ย รวมถึง มิกกี้ ก็มีผู้จัดทาบทามบ้างแล้ว ในส่วนของพรีเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะหนุ่มแจ็ค AF4 ก็มีฟีดแบ็กทางการตลาดที่ดีมาก จึงเห็นควรที่จะต้องพัฒนาศักยภาพทางด้านนี้ด้วย"
"ในส่วนของการทำโชว์ (คอนเสิร์ต ละครเวที) แม้จะเป็นยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง แต่ 2 ผู้บริหารใหญ่ก็เชื่อมั่นว่าบริษัทสามารถสร้างผลงานดีๆ ออกมาตอบสนองความต้องการของแฟนๆ ได้ โดยจะยึด Entertainment Value ที่ชัดเจน เน้นทำให้คนดูมีความสุข โชว์ที่มีคุณภาพจะทำให้ผู้ผลิตมั่นใจว่าคนดูจะให้การตอบรับเป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูตลาดด้วย ดูนโยบายเรื่องรายรับด้วย"
สำหรับ สัดส่วนของการทำงานของทรูแฟนเทเชียในปีนี้จะเป็นออกเป็นงานเพลง 30% คอนเสิร์ตและละครเวที 30% พรีเซ็นเตอร์ 30% และตลาดต่างประเทศอีก 10% ซึ่งในปีนี้มีโครงการคอนเสิร์ตใหญ่ 2 คอนเสิร์ตด้วยกันคือ คอนเสิร์ตหลังจบรายการ The Master จะมีขึ้นประมาณต้นเดือน พ.ค. และคอนเสิร์ตความร่วมมือระหว่างศิลปิน AF กับทาง Love Is ภายใต้แคมเปญพิเศษ "AF Sing Love Is" การผสมผสานความสนุกในรูปแบบใหม่ของวงการดนตรีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน