ททท.จัดประชุมพัฒนาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแก่ผู้ประกอบการ

ข่าวท่องเที่ยว Wednesday March 30, 2005 17:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--ททท.
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เชิญหน่วยงานและผู้ประกอบการธุรกิจ ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ได้แก่ กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงสาธารณสุข สมาคมแพทย์แผนไทย ผู้แทนการค้าไทย สมาคมโรงพยาบาลเอกชน สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว สายการบิน และคณะกรรมการธุรกิจการค้าและบริการเพื่อสุขภาพ ร่วมประชุมเชิงวิชาการในหัวข้อ “การพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” ในวันที่ 29 มีนาคม 2548 ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรมอมารี เอเทรียม โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเชื่อมโยงและสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องระหว่างธุรกิจการท่องเที่ยวกับธุรกิจบริการสุขภาพ ได้มีการพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพขึ้นใหม่ในการที่จะเสนอขาย ทั้งนี้มีวิทยากรมาร่วมให้ความรู้ทางด้านสถานภาพและโอกาสทางการตลาด ความพร้อมของธุรกิจและกลยุทธ์ในการส่งเสริมธุรกิจดังกล่าว รวมทั้งแนวทางการจับคู่ทางธุรกิจและการออกแบบโปรแกรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพให้เป็นที่สนใจ นายสันติชัย เอื้อจงประสิทธิ์ รองผู้ว่าการ ททท. ฝ่ายสินค้าท่องเที่ยว กล่าวถึงแผนงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health Tourism) ที่ได้บรรจุอยู่ในแผนตลาดการท่องเที่ยวในการนำเสนอสินค้าด้าน wellness & spa ซึ่งรวมเอากิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจากพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ อาทิ ภูโคลน น้ำตกร้อนคลองท่อม บ่อน้ำร้อน น้ำแร่จากธรรมชาติ รวมทั้งการบำบัดรักษา การนวดไทย การตรวจเช็คสุขภาพตามโรงพยาบาลเอกชนที่เปิดให้บริการ ฯลฯ ล้วนเป็นการเสนอทางเลือกที่หลากหลายและมูลค่าเพิ่มทางการท่องเที่ยว นอกจากการประชาสัมพันธ์ข้อมูลเพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นแล้ว ททท.ยังได้ร่วมผลักดันในเรื่องของมาตรฐานและคุณภาพการบริการเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวให้พร้อมกับการที่จะก้าวสู่ความเป็นศูนย์กลางสุขภาพของเอเชีย (Medical Hub of Asia) ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ สำหรับสถานการณ์ตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของประเทศไทย ปัจจุบันเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมาก มีการขยายตัวของธุรกิจเพื่อรองรับกับความต้องการ ที่สามารถทำรายได้ให้แก่ประเทศในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 40 ต่อปี อัตราขยายตัวของผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 25% โดยสัดส่วนของผู้ใช้บริการ 80% ใช้บริการนวดหรือสปาทั่วไป (Day Spa) 15% ใช้บริการของโรงแรมรีสอร์ท (HotelResort Spa) และ 5 % อยู่ในกลุ่ม Destination Spa ที่มาเพื่อบำบัดรักษาสุขภาพโดยเฉพาะ ทั้งนี้ตลาดเอเชียแปซิฟิคจัดเป็นตลาดสำคัญที่สุดรวมถึงตลาดตะวันออกกลาง เพราะมีแนวโน้มการขยายตัวมากกว่าตลาดอื่น ๆ เนื่องจากการเดินทางสะดวก ประชากรมีกำลังซื้อสูง ดังนั้นการพัฒนาที่มุ่งเน้นในด้านคุณภาพการบริการ จึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการขยายโอกาสทางการตลาดและให้ประโยชน์แก่ผู้ประกอบการโดยตรง แหล่งข่าว กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ ททท. โทร. 0-2250-5500 ต่อ 1555-1563--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ