กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
บิ๊กซี ตอกย้ำกระแสความแรงของสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ เปิดตัวสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ใหม่ “แฮปปี้บาท” เน้นสินค้าในชีวิตประจำวัน
นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากขึ้น จากปัจจัยทางเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคหันมาหาทางเลือกที่ประหยัดกว่า อีกทั้งสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ได้มีการปรับปรุงคุณภาพและ ความหลากหลายของสินค้า ส่งผลให้ผู้บริโภคมีการยอมรับมากขึ้นยิ่งในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันและค่าครองชีพที่สูงขึ้น บิ๊กซีเล็งเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ จึงมีนโยบายการเพิ่มสินค้าเฮาส์แบรนด์ให้มี ความหลากหลายครอบคลุมทุกไลน์ผลิตภัณท์และมีราคาที่ประหยัดมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการที่สอดรับกับเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันที่ผู้บริโภคต้องมีการวางแผนการใช้จ่ายอย่างประหยัด
ล่าสุด บิ๊กซีได้เปิดตัวสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ใหม่ตรา “แฮปปี้บาท” มาทำตลาด Mass เพื่อเป็นการขยายฐานการตลาดให้ครอบคลุมความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ซึ่งนับเป็นสินค้าเฮ้าส์แบรนด์อันดับสองของบิ๊กซีที่ได้รับการวางตำแหน่งทางการตลาดไว้ที่ P Pricing หรือเน้นทางด้านราคาประหยัดเป็นหลัก แต่ในขณะเดียวกันบิ๊กซีก็ยังให้ความใส่ใจในเรื่องคุณภาพของสินค้าแฮปปี้บาทคือ สินค้าทุกตัวจะยังมีมาตรฐานตามที่กฎหมายได้ระบุไว้ทั้งมาตรฐานขององค์กรอาหารและยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ทั้งหมด โดยได้ ทุ่มงบประมาณกว่า 20 ล้านบาทในการผลิตและบริหารสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ใหม่นี้โดยเฉพาะ
“บิ๊กซีให้ความสำคัญกับตลาดสินค้าเฮ้าส์แบรนด์มาก ทำให้สินค้าเฮ้าส์แบรนด์ของบิ๊กซีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบิ๊กซีได้มีการพัฒนาสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ทั้งด้านความหลากหลายและคุณภาพ โดยเมื่อปีที่ผ่านมา บิ๊กซีได้เปิดตัวสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ตรา “บิ๊กซี” ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดี มีลูกค้าให้ความสนใจสอบถามและเลือกซื้อ เป็นเพราะปัจจัยสำคัญคือ คุณภาพของสินค้าไม่แตกต่างจากสินค้าที่มีชื่อเสียงแต่มีราคาประหยัดกว่า ซึ่งในปีนี้ บิ๊กซีมองว่า ยังมีช่องว่างที่ยังสามารถส่งสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ที่เป็นแบรนด์ใหม่ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีราคาถูก เพื่อตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าในช่วงภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน “แฮปปี้บาท” เป็นสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิดสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ราคาประหยัดมากขึ้น ด้วยบรรจุภัณฑ์ที่เรียบง่าย แต่คงด้วยคุณภาพตามมาตรฐานเดิม โดยเน้นที่สินค้าในชีวิตประจำวัน” นางสาวจริยากล่าว
“แฮปปี้บาท” เป็นสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ที่ราคาประหยัดมากขึ้น ประกอบด้วยสินค้าอุปโภค (Non-food) สินค้าบริโภค (Dry food) และสินค้าอาหารสด (Fresh food) โดยบิ๊กซีจะทยอยเปิดตัวประเภทสินค้าให้ครอบคลุมทุกไลน์ อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีจำนวนสินค้าอยู่ทั้งสิ้น 73 รายการ โดยบิ๊กซีตั้งเป้าหมายว่าภายในปีนี้จะมีสินค้าตรา “แฮปปี้บาท” จำนวนทั้งสิ้น 200 รายการ ทั้งนี้ ราคาสินค้าแบรนด์แฮปปี้บาทจะถูกกว่าสินค้าทั่วไปประมาณ 40% การทำตลาดสินค้าตรา “แฮปปี้บาท” นั้นจะเน้นสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก ได้แก่ ลูกค้าร้านอาหารและภัตตาคาร ลูกค้ากลุ่ม SME และแม่บ้านทั่วไป
นางสาวจริยากล่าวต่อไปว่า “แฮปปี้บาท” จะเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เรียบง่ายเพื่อลดต้นทุนในการผลิต โดยเน้น การใช้สีที่ฉลากเพียงแค่ 3 สี คือ สีแดง สีเขียว และสีขาว ซึ่งสีทั้งสามสีนี้ก็สอดคล้องกับแบรนด์บิ๊กซีที่ สื่อถึงความเป็นผู้นำทางด้านราคาประหยัด แต่ในขณะเดียวกันฉลากสินค้ายังคงมีรายละเอียดครบถ้วนตามมาตรฐานสินค้า อาทิ การระบุส่วนประกอบของสินค้า วันที่ผลิต วันหมดอายุของสินค้าอย่างครบถ้วน และใน ด้านการควบคุมคุณภาพของสินค้าก่อนที่จะนำสินค้าออกสู่ตลาด บิ๊กซีได้จัดระบบควบคุมคุณภาพสินค้า ตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด โดยจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบโรงงานผู้ผลิต มีการทดสอบคุณภาพของสินค้าและรสชาติต่างๆ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าตรา “แฮปปี้บาท” นี้จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับกลุ่มลูกค้าที่นิยมสินค้าเฮ้าส์แบรนด์อยู่แล้ว โดยให้ความสำคัญด้านราคาและคุณภาพของสินค้า
พิเศษสำหรับช่วงเปิดตัวสินค้า บิ๊กซียังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย “แฮปปี้บาท” อาทิ โปรโมชั่นลดราคาพิเศษหรือการแจกสินค้าตัวอย่างเพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองสินค้า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
“เรามั่นใจว่า “แฮปปี้บาท” จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า เพราะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ด้วยจุดเด่นที่ราคาประหยัดมากกว่าในคุณภาพที่ได้มาตรฐาน บิ๊กซีคาดว่าการเปิดตัวสินค้าตรา “แฮปปี้บาท” จะช่วยเพิ่มยอดขายของกลุ่มสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ให้กับบิ๊กซีเพิ่มขึ้นอีก 30%” นางสาวจริยากล่าวทิ้งท้าย
บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ฯ: BIGC) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2536
เป็นผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในรูปแบบซูเปอร์เซ็นเตอร์ ชื่อ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ซึ่งจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภค
และบริโภคที่หลากหลายในราคาสมเหตุสมผล ภายใต้สโลแกน “เราให้คุณมากกว่าคำว่าถูก” เพื่อสร้างความพึงพอใจ
ในระดับสูงสุดแก่ผู้บริโภค ปัจจุบันมีสาขาที่เปิดให้บริการจำนวน 66 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้ที่ www.bigc.co.th
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อที่ อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
สาธิดา ศรีธัญญาธรณ์ / สุภาภรณ์ สุธรรมโกศล
โทร: 0 2252 9871-7