กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ประกาศคงอันดับเครดิตสนับสนุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (“BAAC”) ซึ่งเป็นธนาคารซึ่งดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ที่ ‘2’ การสนับสนุนจากภาครัฐมีความจำเป็นต่อ BAAC เนื่องจากธนาคารประกอบธุรกิจธนาคารสำหรับภาคเกษตรกรรมซึ่งมีลักษณะการผลิตเป็นฤดูกาล และธนาคารได้ดำเนินงานเพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลในการปล่อยสินเชื่อต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการปล่อยสินเชื่อที่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในเชิงพาณิชย์ BAAC ยังได้ขยายขอบเขตการประกอบธุรกิจของธนาคาร โดยการพัฒนาและปล่อยกู้ให้ภาคการผลิตอื่นในชุมชนชนบท ซึ่งได้รวมถึงสหกรณ์และธุรกิจขนาดเล็กต่างๆในรูปแบบอื่นๆ เมื่อพิจารณาถึงการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นที่ได้ชำระแล้วเกือบทั้งหมดของ BAAC รวมทั้งความสำคัญของธนาคารต่อภาคชนบทของประเทศ ฟิทช์เชื่อว่ามีความเป็นไปได้อย่างสูงที่ธนาคารจะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐหากต้องการความช่วยเหลือ การเปลี่ยนแปลงใดๆในสัดส่วนการถือหุ้นหรือการสนับสนุนจากรัฐบาลอาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของธนาคาร
ในปีงบประมาณ 2548/2549 (สิ้นสุดปีงบประมาณ ณ เดือนมีนาคม 2549) ผลกำไรสุทธิของ BAAC ปรับตัวดีขึ้นเป็น 1.8 พันล้านบาท จาก 1.6 พันล้านบาท ในปีงบประมาณ 2547/2548 ซึ่งมีโดยส่วนใหญ่แล้ว มีสาเหตุมาจากการเติบโตของสินเชื่อและรายได้จากค่าธรรมเนียมและการปริวรรตเงินตราต่างประเทศที่สูงขึ้น อัตรากำไรส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิของธนาคารก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 5.38% ในปีงบประมาณ 2548/2549 จาก 5.37% ในปีงบประมาณก่อนหน้า ผลกำไรก่อนการตั้งสำรองหนี้สูญของ BAAC ก็ปรับตัวเพิ่มสูงยิ่งกว่าการเพิ่มขึ้นของผลกำไรสุทธิของธนาคาร โดยการตั้งสำรองหนี้สูญของธนาคารที่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนี้ สืบเนื่องมาจากแผนการระยะ 3 ปี ที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสถานะของระดับสำรองหนี้สูญของธนาคาร
ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2549 สินเชื่อค้างชำระได้ลดลงเป็น 23.5 พันล้านบาท หรือ 5.6% ของสินเชื่อทั้งหมด จาก 25.5 พันล้านบาท หรือ 6.7% ในปีก่อนหน้า อันเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างหนี้ อย่างไรก็ตาม BAAC ทำการรายงานสินเชื่อค้างชำระภายหลังจากสินเชื่อดังกล่าวค้างชำระมากกว่า 1 ปี เพื่อสะท้อนถึงลักษณะของธุรกิจต่างๆในภาคเกษตรกรรมที่มีการผลิตเป็นฤดูกาล ดังนั้น ระดับของสินเชื่อค้างชำระ หากนับตามหลักเกณฑ์ที่เข้มงวดกว่า น่าจะสูงกว่าที่รายงานอย่างมีนัยสำคัญ
ณ สิ้นเดือน มีนาคม 2548 BAAC มีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสำหรับสินเชื่อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระที่ระดับ 45.3 พันล้านบาท และค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสำหรับสินเชื่อค้างชำระที่ระดับ 36 พันล้านบาท ซึ่งเทียบเท่ากับระดับสำรองหนี้สูญประมาณ 12.2% ของสินเชื่อไม่ค้างชำระและ 73.9% ของสินเชื่อค้างชำระ ตามลำดับ BAAC ยังมีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มเติมสำหรับสินเชื่อที่ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ที่ระดับ 18.6 พันล้านบาท ฟิทช์กล่าวว่าเมื่อพิจารณาถึงการเติบโตของสินเชื่ออย่างแข็งแกร่ง บทบาทในการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล และความผันผวนในภาคเกษตรกรรมแล้ว ข้อกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในด้านคุณภาพสินทรัพย์ยังคงมีอยู่
อัตราส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์ของ BAAC อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ถึงแม้ว่ามันลดลงเป็น 9.2% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2549 จาก 10.4% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2548 เนื่องจากการเติบโตของสินทรัพย์ที่สูงและการจ่ายเงินปันผล
BAAC ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2509 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เกษตรกรและสหกรณ์การเกษตร โดยการช่วยเหลือดังกล่าวจะสอดคล้องกับนโยบายต่างๆของรัฐบาล พระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้ให้อำนาจแก่คณะรัฐมนตรีในการแต่งตั้งและถอดถอนกรรมการต่างๆ โดยมีพื้นฐานมาจากคำแนะนำของกระทรวงการคลัง จัดตั้งข้อบังคับสำหรับการบริหารนโยบายต่างๆของธนาคาร และกำกับดูแลการบริหารงานโดยทั่วไปของธนาคาร ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบต่างๆ แม้ว่าอำนาจหน้าที่ต่างๆนี้ ได้กระทำโดยธนาคารแห่งประเทศไทยในปัจจุบัน ในปี 2549 ได้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติเพื่ออนุญาตให้ BAAC ขยายขอบเขตความช่วยเหลือทางการเงินของธนาคารไปสู่ภาคการผลิตอื่นที่ไม่ใช่ภาคเกษตรกรรมโดยมีข้อจำกัดต่างๆ ในปัจจุบัน กระทรวงการคลังถือหุ้นในสัดส่วน 99% ของหุ้นที่ได้ชำระแล้วทั้งหมดของธนาคาร โดยสหกรณ์การเกษตรต่างๆถือหุ้นที่เหลือในสัดส่วนที่น้อยมาก BAAC มีเครือข่ายสาขาซึ่งตั้งอยู่ชนบทที่มากถึง 600 สาขา
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุน หรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน
ติดต่อ
ชัยพัฒน์ ไพฑูรย์, Vincent Milton, กรุงเทพฯ +662 655 4762/4759
David Marshall, ฮ่องกง +852 2263 9963