กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--มูลนิธิสยามกัมมาจล
เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กๆ ทำให้บรรยากาศหน้าห้องผู้ป่วยทหารที่ได้รับบาดเจ็บจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เริ่มคึกคัก แต่เสียงเหล่านั้นต้องเงียบสงัดลงทันทีเมื่อสายตาของทุกคนจับจ้องไปที่เตียงนอนของผู้ป่วยทหารที่บางรายขาขาด บางรายแขนขาด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากระเบิดระหว่างปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
“เวลาที่เราสุขสบายอยู่ที่บ้าน หรือในขณะที่เรากำลังเดินห้าง ร้องเพลงกันนั้น เรายังมีทหารที่ต้องถือปืนเพื่อรักษาความปลอดภัยอยู่ภาคใต้ หนูและเพื่อนๆ ได้ตระหนักถึงคำว่าต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”
น้ำเสียงจากความอิ่มใจของ “น้องชฎา” หรือ นางสาวปนัสยา สุมนวรางกูร และ “น้องขวัญ”หรือ นางสาวธนภรณ์ สาลีผล นักเรียนชั้น ม.3/3 ช่วยกันเล่าถึงภาพที่อยู่ตรงหน้าว่าเมื่อหนูเห็นภาพพี่ๆ ทหารแล้วก็รู้สึกสงสาร และเห็นใจอย่างมาก จากคนปกติที่แข็งแรงและเป็นรั้วของชาติ วันหนึ่งต้องมาสูญเสียอวัยวะสำคัญเพื่อปกป้องประเทศของเรา หนูและเพื่อนได้เข้าไปพูดคุยกับคุณลุงทหารบอกว่าไปปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดนราธิวาสได้เพียง 8 วัน ในขณะปฏิบัติหน้าที่กลับมีระเบิดเกิดขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้กระดูกขาซ้ายของลุงแตก ต้องเข้ารับการรักษาโดยการทำกายภาพบำบัดและต่อกระดูกใหม่ โชคดีที่คุณลุงยังมีขาครบทั้งสองข้าง ชฎาได้ให้กำลังใจ พร้อมกับทำกิจกรรมแต่งแต้มการ์ดวันวาเลนไทน์ที่คุณลุงตั้งใจส่งให้กับลูกสาวคนเดียวของลุง ยิ่งทำให้ชฎาและขวัญประทับใจในตัวคุณลุงที่ต้องปกป้องรักษาประเทศโดยยึดคำว่าหน้าที่ต้องมาก่อน ถึงแม้ว่าจะต้องจากครอบครัวที่รักไปเพื่อปกป้องและดูแลคนทั้งประเทศ
“หนูรู้สึกดีใจมากที่ตนเองเกิดมาสมบูรณ์และเป็นเด็กที่แข็งแรง ไม่มีโรคติดตัวมาตั้งแต่เกิด ต่างกับเด็กหลายคนที่ต้องนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลโดยไม่มีวันรู้เลยว่าตัวเองจะได้ออกจากโรงพยาบาลวันไหน ทุกคนอยากเรียนอยากไปหาเพื่อน และคุณครู หนูและเพื่อนๆ มีโอกาสดีที่ได้เรียนและหลังจากนี้ต่อไปพวกเราจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุดคะ”
“น้องแชมพู” หรือ เด็กหญิงอรจิรา บูรณะบุญวงศ์ และ “น้องพิมพ์” หรือ เด็กหญิงพิมพ์นิดา อิ่มอกใจ นักเรียนชั้น ม.2/1 เล่าให้ฟังว่าในช่วงบ่ายพวกเราไปที่โรงพยาบาลเด็กและได้ทำกิจกรรมดูแลผู้ป่วยเด็ก ซึ่งแตกต่างกับที่เราเคยเห็นตามรายการโทรทัศน์ เราเห็นภาพน้องผู้ป่วยตัวเล็กและมีร่างกายที่ผ่ายผอม นอนอยู่บนเตียง มีสายน้ำเกลือ ระโยงระยางเต็มไปหมดยิ่งทำให้รู้สึกสงสาร เมื่อได้ดูแลและพูดคุยก็ทำให้น้องหายเหงา อยากให้น้องได้คลายความเครียดจากโรคที่เป็นอยู่ ส่วนเราก็ได้รับความสุขใจ อิ่มใจ ที่เราได้ทำอะไรให้กับคนอื่นบ้าง
จากที่ได้ไปสัมผัส ทำให้อรจิราและเพื่อนต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อรจิราเล่าต่อไปว่าวันนี้พวกเรารู้สึกดีใจมากที่ตนเองเกิดมาสมบูรณ์แข็งแรง และไม่มีโรคติดตัวมาตั้งแต่เกิด ต่างกับเด็กหลายคนที่ต้องนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลโดยไม่มีวันรู้เลยว่าตัวเองจะได้ออกจากโรงพยาบาลวันไหน ทุกคนอยากเรียนอยากไปหาเพื่อน และคุณครู ที่โรงเรียน จากนี้ต่อไปพวกเราจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด
อยากให้เพื่อนทุกคนได้มาร่วมกิจกรรมดูแลผู้ป่วยกัน จะได้เรียนรู้ว่าชีวิตเรามีค่า ซึ่งใช้เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง แทนที่จะเอาเวลาไปเดินห้าง ดูหนัง ร้องเพลง หาความสุขให้ตัวเองลองมาให้ความสุขกับคนอื่นดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าความสุขใจจากการให้ มันมีความสุขมากกว่าการรับเป็นไหนๆ าขอขอบคุณมูลนิธิสยามกัมมาจล และมูลนิธิกระจกเงาที่มีกิจกรรมดีๆ พวกเราได้รู้ว่าการได้อาสาช่วยงานคนอื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนนั้นเป็นสิ่งที่ดี
เนื่องจากปัจจุบันเด็กที่มีจิตสาธารณะหรือเด็กที่คิดจะทำประโยชน์ให้กับส่วนรวมมีค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะเด็กสาธิตฯ ซึ่งส่วนใหญ่มักถูกมองว่าเป็นเด็กที่มีฐานะดีแต่ไม่เคยทำประโยชน์ให้สังคม แท้ที่จริงแล้วเด็กๆ ไม่มีโอกาสที่จะได้ทำมากกว่า ฉะนั้นจุดประสงค์ของกิจกรรมนี้คืออยากให้เด็กได้ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม รู้จักการให้มากกว่าการรับ ทั้งในและนอกโรงเรียน อาจารย์สรัญญา ปัญญะสุทธิ์ หมวดสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร เล่าให้ฟังว่า แต่เดิมโรงเรียนมีโครงการจิตอาสาที่ทำร่วมกับมูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) อาทิ กิจกรรมจิตอาสาเพื่อชุมชน ณ อ.แพรกหนามแดง จ.สมุทรสงคราม เด็กๆ ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนในชุมชนแพรกหนามแดง การประกอบอาชีพ การทำนาปลอดสาร การเผาถ่าน ล่าสุดทางมูลนิธิสยามกัมมาจลร่วมกับมูลนิธิกระจกเงาจัดกิจกรรม “โรงพยาบาลสร้างสุข” ซึ่งถือเป็นกิจกรรมจิตอาสาครั้งที่สอง
หลังเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ทำให้เด็กหลายคนเปลี่ยนความคิดไปในทางที่ดีขึ้น รู้จักรักตนเอง พร้อมกับอยากทำประโยชน์ให้สังคม บ้านเมืองมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ในฐานะครูย่อมอิ่มเอิบใจที่เห็นลูกศิษย์ได้ทำกิจกรรมดีๆ เช่นนี้ ทำให้ครูได้เห็นเด็กๆ ในอีกแง่มุมหนึ่งที่เราเองยังไม่เคยได้เห็นทั้งที่สอนหนังสือเค้ามาเป็นเวลาหลายปีแล้วก็ตาม ครูรู้สึกว่าลูกศิษย์มีความสุขและเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นครูก็ดีใจที่สุดแล้วคะ
โรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร ยังคงเดินหน้าสนับสนุนกิจกรรมจิตอาสาอย่างต่อเนื่อง อาทิ กิจกรรมปลูกกล้วยป่า ในจังหวัดเชียงราย การอ่านนิทานให้เด็กจากบ้านเด็กตาบอด และยังมีกิจกรรมที่ส่งเสริมจิตอาสาในโรงเรียนอีกมากมายคะ
ข้อมูลโดย มูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
โทร.0-2270-1350-4