บอร์ดเอสเอ็มอี แบงก์ ผ่าตัดโครงสร้างองค์กร เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และรองรับนโยบายรัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 26, 2009 17:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ก.พ.--เอสเอ็มอี แบงก์ เอสเอ็มอี แบงก์ ปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อให้การทำงานเกิดความคล่องตัว เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ผู้ประกอบการ SMEs ได้รวดเร็วขึ้น มีผลตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552 เป็นต้นไป นายวิชญะ วิถีธรรม โฆษกคณะกรรมการ ธพว. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอี แบงก์) เปิดเผยถึง คณะกรรมการธนาคารได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรของธนาคารใหม่ มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.2552 โดยแบ่งเป็น6 สายงานหลัก คือ สายงานด้านสินเชื่อ สายงานสาขาและพัฒนาผู้ประกอบการ สายงานบริหารเงินและบัญชี สายงานปฏิบัติการ สายงานบริหารความเสี่ยง และสายงานบริหารสินทรัพย์ โดยการจัดองค์กรครั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเชิงรุกของธนาคาร โดยจัดแบ่งสายงานให้เกิดความกระชับเพื่อให้ทำงานได้คล่องตัวสามารถตอบสนองการให้บริการสู่ผู้ประกอบการ SMEs ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ เช่นนี้ เอสเอ็มอี แบงก์ ในฐานะเป็นสถาบันการเงินและกลไกของรัฐ ต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถอยู่รอดและเข้าถึงแหล่งทุนได้ นอกจากนี้ การปรับโครงสร้างครั้งนี้ ยังยึดหลักการนำทรัพยากรบุคคลในระดับผู้บริหารของธนาคารที่มีอยู่ มาปฏิบัติหน้าที่ทุกคน เพื่อที่จะช่วยกันทำงานให้องค์กรบรรลุเป้าหมายปี 2552 ตามที่วางไว้ ทั้งในด้านการให้บริการสินเชื่อ และบทบาทสำคัญในการเข้าไปช่วยพัฒนาผู้ประกอบการทั้งก่อนและหลังอนุมัติสินเชื่อ โดยผู้ประกอบการ SMEs ที่ยื่นขอสินเชื่อแล้วหากไม่ผ่านการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจากธนาคาร ต่อไปนี้ธนาคารมีนโยบายชัดเจนในการพัฒนาศักยภาพ “ไม่ทอดทิ้งลูกค้า” โดยทั้งฝ่ายสินเชื่อ และสาขา จะส่งลูกค้าที่มีโครงการ/กิจการที่ไม่ผ่านเกณฑ์คุณภาพสินเชื่อ แต่พร้อมจะร่วมมือในการปรับปรุงและพัฒนาเพื่อกลับมาขอกู้ใหม่อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากยิ่งขึ้น” โฆษกคณะกรรมการ ธพว. กล่าวในที่สุด ข้อมูลเพิ่มกรุณาติดต่อ ฝ่ายสื่อสารองค์กร 0-2265-3601-4

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ