กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
บิ๊กซีโชว์กำไร 2,852 ล้าน โตเพิ่มขึ้นถึง 14% จากปีก่อน โดยมีจุดเด่นที่สำคัญในปี 2551 คือ
- การเติบโตของยอดขายที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 9.2% และรายได้จากค่าเช่าเติบโต 15.4%
- การขยายสาขาอย่างรวดเร็ว จำนวน 12 สาขา จากเดิมที่วางแผนไว้ 8 สาขา
- อัตรากำไรจากการดำเนินงานสูงมากถึง 5.9% ของยอดขาย
- อัตราผลตอบแทนของการลงทุนจากเงินลงทุนรวมสูงถึง 13.8%
โดยผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในปี 2551 มีกำไรสุทธิจำนวน 2,852 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 349 ล้านบาท หรือ 14% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2550 ซึ่งมีกำไรสุทธิจำนวน 2,502 ล้านบาท
บิ๊กซีมียอดขายจำนวน 67,292 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 จำนวน 5,692 ล้านบาทหรือ 9.2% เนื่องมาจากการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่องและการขยายฐานลูกค้าจากการเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้น ขณะที่มีรายได้ค่าเช่าและค่าบริการ 3,148 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 จำนวน 421 ล้านบาทหรือ 15.4 % จากการขยายพื้นที่ให้เช่าจากการเปิดสาขาใหม่
“ในปีที่ผ่านมาถือว่า บิ๊กซีประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยบิ๊กซีได้มีการลงทุนประมาณรวม 5,500 ล้านบาท ในการขยายสาขาใหม่รวม 12 สาขาจากเดิมที่วางแผนไว้ 8 สาขา คือ สาขาอยุธยา สาขาบ้านโป่ง สาขาสุโขทัย สาขาชัยภูมิ สาขาเพชรบูรณ์ สาขากระบี่ สาขานวนคร สาขารังสิตคลอง 6 สาขายโสธร สาขาสระแก้ว สาขาวารินชำราบ และสาขามหาสารคาม และมีการปรับปรุงสาขาเดิมจำนวน 4 สาขา พร้อมทั้งการจัดโปรโมชั่นและแคมเปญต่างๆ ทั้งในช่วงเทศกาลและนอกเทศกาลต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายของแต่ละสาขา ส่งผลให้ ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ มีการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้บริษัทฯ ต้องเผชิญกับสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและสภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในปีที่ผ่านมา” นายอีฟ แบร์กนาร์ เบรบ็อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าว
“ในภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ ภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำด้านราคาของบิ๊กซีช่วยให้ผู้บริโภคยังมีความมั่นใจและตัดสินใจในการมาซื้อสินค้าที่บิ๊กซี เนื่องจากบิ๊กซีจำหน่ายสินค้าในชีวิตประจำวัน ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าแบรนด์เนมและเฮ้าส์แบรนด์ รวมถึงการที่บริษัทได้มีการวางกลยุทธ์ในการทำธุรกิจและการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ และการกระจายตลาดไปยังตลาดใหม่ๆ ในสาขาใหม่ของบิ๊กซีทั่งประเทศ ทำให้บิ๊กซีสามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็รักษาฐานลูกค้าเดิมไว้”
“สำหรับปี 2552 บิ๊กซียังคงมุ่งเน้นการดำเนินกลยุทธ์ด้านราคา ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วยกลยุทธ์ซีอาร์เอ็ม ไม่ว่าจะเป็นการออกบัตรช้อปโทรฟรีที่ร่วมกับมือถือทุกค่ายเพื่อให้ค่าโทรฟรีกับลูกค้า การแจ้งข่าวสารกับลูกค้าผ่านเอสเอ็มเอสพร้อมให้ส่วนลดต่างๆ แก่สมาชิก เพื่อให้ลูกค้าเชื่อมั่นและพึงพอใจในการมาซื้อสินค้าที่บิ๊กซี ขณะเดียวกันก็มีการบริหารและควบคุมต้นทุนการดำเนินงาน โดยเฉพาะด้านขนส่งและระบบลอจิสติกส์ ซึ่งเราเชื่อว่า จะทำให้บิ๊กซียังคงมีการเติบโตเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา” นายอีฟกล่าวในตอนท้าย
บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ฯ: BIGC) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2536 เป็นผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในรูปแบบซูเปอร์เซ็นเตอร์ ภายใต้ชื่อ “บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์” ซึ่งจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคที่หลากหลายในราคาสมเหตุสมผลภายใต้สโลแกน “เราให้คุณมากกว่าคำว่าถูก” เพื่อสร้างความพึงพอใจแก่ผู้บริโภค ปัจจุบันมีสาขาที่เปิดให้บริการจำนวน 66 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้ที่ www.bigc.co.th
รายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
สาธิดา ศรีธัญญาธรณ์ หรือ สุภาภรณ์ สุธรรมโกศล
อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
โทร. 0 2252 9871