เปิดตัว Science Park โคราช “พี่เลี้ยง” ผู้ประกอบการธุรกิจภาคอีสาน

ข่าวทั่วไป Monday March 2, 2009 15:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--สวทช. รมว.วิทย์ฯ เปิดตัว “อุทยาวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี” รุกพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หวังผลักดันงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ให้กว้างขวางมากขึ้น หนุนผู้ประกอบการ ยกระดับเทคโนโลยี และพัฒนาผลิตภัณฑ์ ต่อยอดอุตสาหกรรมไทยด้วย ว &ท พร้อมบ่มเพาะผู้ประกอบการใหม่ในพื้นที่อีสานล่าง เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ณ บริเวณวาไรตี้ฮอล์ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ จังหวัดนครราชสีมา ได้จัดให้มีการเปิดตัวอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีขึ้น ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี(TMC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ภายใต้การสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) โดยอุทยานวิทยาศาสตร์ หรือที่เรียกว่าSciencePark แห่งนี้จัดตั้งขึ้นภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เพื่อให้บริการแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม(SMEs) และประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่างได้รู้จักและเข้าถึงบริการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากขึ้น โดยมี ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึงการเปิดอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.)หรือ Science Park - มทส. ครั้งนี้ว่า เนื่องด้วยรัฐบาลมีนโยบายให้ความสำคัญกับการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยการสนับสนุนการวิจัย และพัฒนา การถ่ายทอดเทคโนโลยีและความรู้สู่ภูมิภาคและระดับท้องถิ่น จึงได้มีการจัดตั้งอุทยานวิทยาศาสตร์ในส่วนภูมิภาคขึ้น และมอบหมายให้ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (TMC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการร่วมกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.)หรือ Science Park - มทส. แห่งนี้ ได้เริ่มเปิดดำเนินการเมื่อปี 2551 ที่ผ่านมา นับถึงวันนี้ผ่านมาแล้วหนึ่งปีเต็ม และได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการในพื้นที่เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) กล่าวถึงการจัดตั้ง Science Park - มทส. หรือ SP-SUT ในครั้งนี้ว่า “ เป็นหนึ่งในเครือข่ายที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการวิจัย และพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นเครื่องมือในการยกระดับการผลิต เพิ่มมูลค่าและมาตรฐานให้กับสินค้าและอุตสาหกรรม รวมถึงการส่งเสริให้เกิดการพัฒนาผลงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ โดยการใช้เทคโนโลยีในธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพและความเข้มแข็งทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ ” สำหรับบริการต่างๆในSP-SUT ประกอบด้วย บริการด้านการวิจัยและพัฒนา , บริการจัดหาผู้เชี่ยวชาญและให้คำปรึกษาเฉพาะทาง เช่น ด้านการตลาด , การประกอบธุรกิจ ฯลฯ เพื่อเพิ่มผลผลิตและขีดความสามารถทางนวัตกรรมและทางเทคโนโลยี , บริการวิเคราะห์ทดสอบ ได้แก่ การให้บริการวิเคราะห์ทดสอบในเชิงเทคนิค และการพัฒนาคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ และการถ่ายทอดเทคโนโลยี โดยการนำงานวิจัยออกสู่เชิงพาณิชย์ หรือนำไปดำเนินการวิจัยต่อยอด เพื่อให้เกิดการนำเทคโนโลยีไปสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์และนำเทคโนโลยีไปพัฒนาชุมชน นอกจากนี้ยังมีบริการด้านสถานที่ อุปกรณ์และเครื่องมือวิจัย โดยให้เอกชนมาใช้บริการเครื่องมือ อุปกรณ์ที่จำเป็นในการวิจัยและพัฒนา โดยการใช้ทรัพยากรร่วมกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการลงทุน และการประกันทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งนี้เพื่อ ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยีรวมถึงการยกระดับอุตสาหกรรมด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งนี้การบริการดังกล่าวข้างต้นจะดำเนินการโดยผ่านหน่วยงานต่างๆ ภายใน มทส. ซึ่งประกอบกันเป็นอุทยานวิทยาศาสตร์ — มทส. (SP-SUT) อาทิ หน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจ(UBI) สำนักงานจัดการทรัพย์สินทางปัญญา (IPMO) โครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (iTAP) โครงการคลินิกเทคโนโลยี ศูนย์เครื่องมือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (LAB) และโครงการสนับสนุนด้านเงินทุนในการวิจัยให้กับธุรกิจเอกชน(CD) สำหรับการให้บริการตลอดระยะเวลากว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา ดร.มัลลิกา สังข์สนิท ผู้จัดการสำนักงานอุทยานวิทยาศาสตร์ มทส. กล่าวว่า อุตสาหกรรมหลักที่เข้ามาใช้บริการจากอุทยานวิทยาศาสตร์ มทส. (SP-SUT ) มีอยู่ 3 กลุ่ม คือ อุตสาหกรรมการเกษตรและอาหาร อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และขนส่ง และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และการสื่อสาร โดยการดำเนินงานในส่วนของหน่วยบ่มเพาะธุรกิจได้ให้บริการแก่ผู้ประกอบการใหม่ที่ดำเนินกิจการมาแล้วไม่เกิน 3 ปี จำนวน 18 ราย ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการรายเล็กๆ ส่วนผู้ประกอบการที่เข้ามาขอรับบริการด้านการพัฒนาเทคโนโลยีจากโครงการ iTAP มีจำนวน 23 ราย ส่วนการเข้ามาใช้บริการให้คำปรึกษาด้านทรัพย์สินทางปัญญามีกว่า 72 ราย และมีการยื่นจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว 25 ราย ทางด้านการให้บริการของโครงการคลินิกเทคโนโลยี ฯ ( LAB ) มีผู้ประกอบการเข้ามาใช้บริการด้านวิเคราะห์ทดสอบทางห้องปฏิบัติการ เป็นจำนวนกว่า 500 ราย และคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้ามาใช้บริการต่างๆ จากอุทยานวิทยาศาสตร์-มทส.(SP-SUT ) อย่างต่อเนื่องและมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นในอนาคต “ เนื่องจากผู้ประกอบการเห็นว่า เราช่วยได้จริง ที่ผ่านมาเมื่อผู้ประกอบการไปหาหน่วยงานรัฐให้ช่วยเหลืออาจช่วยได้ไม่ถูกจุด แต่อุทยานวิทยาศาสตร์-มทส.ที่เปิดดำเนินการมานี้สามารถช่วยผู้ประกอบการได้ทั้งกระบวนการ จนกระทั่งสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเอง และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ โดยใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้าไปช่วย ” ดร.มัลลิกา กล่าว ผู้จัดการสำนักงานอุทยานวิทยาศาสตร์-มทส. หวังอย่างยิ่งว่า “ อยากให้บริการธุรกิจมีเทคโนโลยีชั้นสูงขึ้น เพราะผู้ประกอบการที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงจะสร้างมูลค่าเพิ่มทางการตลาดได้มากขึ้น และนำไปสู่การผลักดันในเชิงเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นด้วย ” อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวอุทยานวิทยาศาสตร์-มทส.(SP-SUT )ในครั้งนี้ นอกจากเป็นการแนะนำตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ยังมีผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการกับศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ(UBI) และ โครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (iTAP) นำผลงานที่เกิดจากการเข้ารับบริการจากอุทยานวิทยาศาสตร์-มทส. (SP-SUT)มาร่วมจัดแสดงภายในงาน รวมถึงการนำผลการวิจัยต่างๆในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์จากห้องปฏิบัติการนำเสนอสู่สาธารณชนในวงกว้าง เพื่อหวังต่อยอดจากผู้ประกอบการธุรกิจไทยในอนาคต อาทิ ผู้ผลิตนมเกษตรอินทร์ที่เข้าร่วมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีระดับเมลาโทนินธรรมชาติสูงออกจำหน่ายเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค , ผู้ผลิตน้ำมันสกัดจากจมูกข้าวและรำข้าวชนิดแคปซูล ที่กำลังทำวิจัยสกัดสาร Oryzanol ในปริมาณที่เพิ่มขึ้นจากจมูกข้าวและรำข้าว , การวิจัยบรรจุภัณฑ์จากพืชธรรมชาติผสมกับพลาสติกในปริมาณที่น้อยลง ช่วยให้เกิดการย่อยสลายได้ง่ายขึ้น เป็นต้น โดยผู้ประกอบการเหล่านี้คือตัวอย่างที่ได้รับประโยชน์จากการเข้ามาใช้บริการอุทยานวิทยาศาสตร์-มทส.(SP-SUT) และนำไปสู่รูปธรรมของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น ทั้งนี้ อุทยานวิทยาศาสตร์ในส่วนภูมิภาค คือ อีกหนึ่งกลไกลหลักในการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาสู่เชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างโอกาสในการแข่งขันให้กับวิสาหกิจไทยได้ยืนอยู่ในท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ และสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืนผู้สนใจและต้องการประกอบธุรกิจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อาคารสุรพัฒน์ 1 เทคโนธานี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา โทร. 044-224823 หรือ www.sp.sut.ac.th สำหรับผู้ที่ต้องการขอรับการช่วยเหลือและสนับสนุนจากโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (iTAP) เครือข่าย มทส. ติดต่อได้ที่หมายเลข 044-224-921 , 044-224-947 แฟ็กซ์ 044-224-814 หรือ www.technopolis.sut.ac.th/itap สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โครงการ iTAP (สวทช.) โทร. 02-270-1350-4 ต่อ 115 (คุณนก)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ