BEX รับตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนรวม 48,200 ล้านบาท เข้าซื้อขายวันที่ 2 และ 7 พ.ย.

ข่าวทั่วไป Thursday November 2, 2006 11:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 พ.ย.--ตลท.
ดร. สันติ กีระนันทน์ ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้ (Bond Electronic Exchange หรือ BEX) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุมัติรับพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 40,000 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท ดีเอดี เอสพีวี จำกัด รวม มูลค่า 8,200 ล้านบาท เข้าจดทะเบียนและซื้อขายใน BEX วันที่ 2 และ 7 พฤศจิกายน 2549 ดังนี้
1. พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย มูลค่า 40,000 ล้านบาท ประกอบด้วย:
- งวดที่ S4/7/49 ชื่อย่อ “CB06N13A” มูลค่า 25,000 ล้านบาท อายุ 7 วัน ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 13 พฤศจิกายน 2549 เริ่มซื้อขายวันที่ 2 พฤศจิกายน 2549
- งวดที่ 19/364/49 ชื่อย่อ “CB07N08A” มูลค่า 15,000 ล้านบาท อายุ 364 วัน ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 8 พฤศจิกายน 2550 เริ่มซื้อขายวันที่ 7 พฤศจิกายน 2549
2. หุ้นกู้ที่ออกภายใต้โครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ของบริษัท ดีเอดี เอสพีวี จำกัด ครั้งที่ 1/2549 มูลค่า 8,200 ล้านบาท เป็นหุ้นกู้ไม่มีประกัน ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA (tha) โดยบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2549 เริ่มซื้อขายวันที่ 7 พฤศจิกายน 2549 ประกอบด้วย:
- หุ้นกู้ชุดที่ 1 มูลค่า 2,200 ล้านบาท ชื่อย่อ “DAD20NB” อายุ 14 ปี 1 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 6.05 ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 2 มูลค่า 6,000 ล้านบาท ชื่อย่อ “DAD25NB” อายุ 19 ปี 1 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 6.50 ต่อปี
การเข้าจดทะเบียนของพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยและหุ้นกู้ของบริษัท ดีเอดี เอสพีวี จำกัดในครั้งนี้จะส่งผลให้มูลค่าคงค้างรวมในตลาดตราสารหนี้ BEX เพิ่มขึ้นเป็น 3.4814 ล้านล้านบาท โดยในจำนวนนี้ เป็นตราสารหนี้ ที่ออกโดยภาครัฐมูลค่า 3.137 ล้านล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 90.10)
“ณ วันที่ 1 พ.ย. 2549 อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล (Government Bond Yield) อายุ 14 ปี เท่ากับร้อยละ 5.27 ต่อปี และผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 19 ปีเท่ากับร้อยละ 5.35 ต่อปี ดังนั้น การลงทุนในตราสารหนี้จึงเป็น อีกทางเลือกหนึ่งของการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ โดยหากผู้ลงทุนสนใจเป็นเจ้าของหุ้นกู้หรือพันธบัตร ก็สามารถลงทุนผ่าน BEX ได้” ดร. สันติกล่าว
ผู้สนใจทางเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ สามารถติดตามข้อมูลตราสารหนี้ประเภทต่างๆ ได้จากเว็บไซต์ตลาดตราสารหนี้ที่ www.bex.or.th หรือศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ที่ www.thaimutualfund.com รวมทั้งติดต่อบริษัทจัดการกองทุนและบริษัทหลักทรัพย์ได้ทุกแห่ง
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 / กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049 / วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ