กรุงเทพฯ--4 มี.ค.--ก.ล.ต.
สำนักงาน ก.ล.ต. ปรับปรุงสูตรการคำนวณ P/E ratio ที่ใช้ประกอบกับ Turnover List ในการกำหนดรายชื่อหุ้นที่บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ต้องจัดทำรายงานแสดงมูลค่าการซื้อหลักทรัพย์ของลูกค้าบุคคลธรรมดาโดยไม่นับรวมถึงกำไรจากเงินลงทุน
ตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. ได้เผยแพร่รายชื่อหุ้นที่อยู่ใน Turnover List ซึ่งเป็นหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไปสำหรับหุ้นใน SET หรือ 20 ล้านบาทขึ้นไปสำหรับหุ้นใน mai และมีอัตราหมุนเวียน (turnover) ตั้งแต่ 30% ขึ้นไป โดยให้ บล. จัดทำรายงานที่แสดงมูลค่าการซื้อหุ้นของลูกค้าประเภทบุคคลธรรมดาสำหรับหุ้นที่อยู่ใน Turnover List ซึ่งมี P/E ratio มากกว่า 100 เท่า หรือหุ้นของบริษัทที่มีผลการดำเนินงานขาดทุน หรือหุ้นที่อยู่ในหมวด REHABCO และจัดส่งให้สำนักงาน ก.ล.ต. เป็นรายสัปดาห์ อีกทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็ได้ใช้ข้อมูลนี้ในการกำหนดหลักทรัพย์ที่ต้องวางเงินสด 100% ในการซื้อด้วย นั้น
เพื่อเพิ่มความระมัดระวังในการตัดสินใจลงทุนของผู้ลงทุน และความสามารถในการบริหารความเสี่ยงของ บล. สำนักงาน ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ฯ และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จึงเห็นร่วมกันที่จะปรับปรุงข้อมูลตัวเลขกำไรสุทธิ (earning) ที่ใช้ในการคำนวณ P/E ratio ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยกำหนดให้กำไรสุทธิต้องไม่รวมกำไรจากเงินลงทุน เพื่อให้ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงกำไรที่ได้จากการประกอบธุรกิจปกติของบริษัท อย่างไรก็ดี สำหรับบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการลงทุนเป็นปกติอยู่แล้ว ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกัน และบริษัท holding ที่มีบริษัทลูกเป็นบริษัทหลักทรัพย์ หรือบริษัทประกันภัย เป็นต้น ยังคงใช้สูตรการคำนวณเดิม ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. จะเริ่มใช้สูตรการคำนวณนี้ในการเผยแพร่รายชื่อหลักทรัพย์ใน Turnover List บนเว็บไซต์ www.sec.or.th ตั้งแต่
วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม 2552 เป็นต้นไป