สนช.- วช. -สสว. ผนึกกำลังจัดโชว์ผลงานนวัตกรรมฝีมือคนไทยใน “ตลาดนัดนวัตกรรม 2549”

ข่าวทั่วไป Thursday May 4, 2006 15:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 พ.ค.--เอพีพีอาร์ มีเดีย
สนช. วช. และสสว. ร่วมมือกันจัดงาน “ตลาดนัดนวัตกรรม หรือ InnoMart 2006” เพื่อเป็นเวทีแสดงผลงานนวัตกรรมที่มีศักยภาพในเชิงพาณิชย์และกระตุ้นให้เกิดการสร้างธุรกิจนวัตกรรม นอกจากนี้ ภายในงานจะมีการจัดประชุมระดับนานานชาติและนิทรรศการแสดงผลงานนวัตกรรมพลาสติกชีวภาพ หรือ InnoBioplast 2006
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จัดแถลงข่าวการจัดงานนิทรรศการ ”ตลาดนัดนวัตกรรม 2549 หรือ InnoMart 2006” ซึ่งจะจัดระหว่างวันที่ 21-24 กันยายน 2549 ณ รอยัลพารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน กรุงเทพฯ เพื่อเป็นเวทีแสดงผลงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ และผลงานนวัตกรรมที่มีศักยภาพในเชิงพาณิชย์ และเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรม โดยเชื่อมโยงผลงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ที่มีศักยภาพในเชิงพาณิชย์ และแหล่งสนับสนุนการลงทุนด้านธุรกิจนวัตกรรมทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแสวงหาเทคโนโลยีและผลงานวิจัยเพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดการลงทุนในธุรกิจใหม่ได้
“InnoMart 2006” เป็นงานนิทรรศการที่งานนิทรรศการที่รวบรวมทั้ง ผลงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ (Invention) จากหน่วยงานวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัย รวมทั้งผลงานสิ่งประดิษฐ์ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การสนับสนุนของ วช. ผลงานนวัตกรรม (Innovation) ซึ่งเกิดจากการส่งเสริมสนับสนุนของ สนช. และ ผลงานที่เกิดจากการลงทุน (Investment) ที่ได้รับการสนับสนุนของ สสว.
”การจัดงาน InnoMart 2006 ในครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนทางธุรกิจและส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบธุรกิจนวัตกรรมในประเทศ ทั้งจากการนำผลงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ และสิทธิบัตรไปพัฒนาต่อยอดในเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะก่อให้เกิดการลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ การจัดงานดังกล่าวยังเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือของ 3 หน่วยงานภาครัฐที่มีภารกิจหลักในการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาผลงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรม รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาต่อยอดในเชิงพาณิชย์
โดยตัวอย่างผลงานนวัตกรรมที่จะนำมาจัดแสดง อาทิ เสื้อซิลเวอร์นาโนฉลองครองราชย์ครบ 60 ปี ข้าวสุขภาพโอไรซ์ ระบบเพาะเลี้ยงปลาการ์ตูนเพื่อการส่งออก เครื่องแกะสลักผักและผลไม้เพื่อการส่งออก” ดร.ประวิช รัตนเพียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกล่าว
นายศุภชัย หล่อโลหการ ผู้อำนวยการ สนช. กล่าวว่า “นอกจากการแสดงผลงานนวัตกรรมของคนไทยแล้ว ภายในงานดังกล่าวยังมีการจัดประชุมระดับนานาชาติและนิทรรศการทางด้านนวัตกรรมพลาสติกชีวภาพ หรืองาน “InnoBioPlast 2006” เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาโครงการนวัตกรรมพลาสติกชีวภาพให้เป็นโครงการยุทธศาสตร์ระดับชาติ เนื่องจากเทคโนโลยีพลาสติกชีวภาพเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการพัฒนาด้านการเกษตรของประเทศไทยและสร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศ รวมถึงเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังเป็นการประกาศศักดิ์ศรีความเป็นผู้นำด้านการจัดการนวัตกรรรมของคนไทยในระดับนานาชาติ และยังช่วยเสริมสร้างภาพพจน์ที่ดีให้แก่ประเทศไทยในสายตาของประชาคมโลกอีกด้วย”
นวัตกรรมพลาสติกชีวภาพจากพืช เป็นเทคโนโลยีใหม่ในการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากพืช เช่น มันสำปะหลัง หรือข้าวโพด ให้เปลี่ยนเป็นเม็ดพลาสติก จากนั้นจึงทำการขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกนานาชนิด เช่น บรรจุภัณฑ์ ภาชนะ ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น โดยจุดเด่นสำคัญของพลาสติกชีวภาพ คือ ผลิตขึ้นจากวัตถุดิบธรรมชาติที่สร้างขึ้นใหม่ได้ สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งนวัตกรรมพลาสติกชีวภาพจะเป็นนวัตกรรมสำคัญ ที่จะเข้ามาปฎิวัติอุตสาหกรรมเกษตร รวมถึงเป็นนวัตกรรมที่จะเข้ามาทดแทนพลาสติกจากปิโตรเคมีซึ่งย่อยสลายยากและก่อให้เกิดปัญหาขยะล้นโลก
ทั้งนี้ปัจจุบันประเทศไทยต้องเสียค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะพลาสติกและโฟมที่ไม่ย่อยสลายประมาณ 2 ล้านตันต่อปี ถึง 1,000 — 1,200 ล้านบาท/ปี ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยใช้วิธีการกำจัดขยะแบบฝังกลบเป็นหลัก โดยมีการใช้วิธีการเผาอยู่เพียงบางที่เท่านั้น แต่ในอนาคตเมื่อที่ฝังกลบในประเทศหมดลงเนื่องจากขยะที่ฝังไว้ไม่สามารถย่อยสลายได้ ก็คงจำเป็นต้องใช้วิธีการเผาในการกำจัดขยะ ซึ่งปัญหาของการเผาขยะประเภทนี้ก็คือมลพิษและสารพิษที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสารไฮโดรคลอริก (HCl) สารออกไซด์ของซัลเฟอร์ (SOx) ซึ่งทำให้เกิดฝนกรด, สารออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx) ซึ่งทำให้เกิดปรากฎการณ์เรือนกระจก (Greenhouse Effect), ฝุ่นละออง (Total Suspended Particulate; TSP) ซึ่งทำให้เกิดโรคภูมิแพ้และมะเร็งปอด และสารไดออกซิน (Dioxin) ที่เป็นสารก่อมะเร็ง การนำพลาสติกชีวภาพมาใช้เพื่อทดแทนขยะพลาสติกและโฟมที่ไม่ย่อยสลาย จะทำให้เราสามารถนำสถานที่ฝังกลบกลับมาใช้ใหม่ได้หลังจากพลาสติกชีวภาพที่ฝังไว้ก่อนหน้านั้นย่อยสลายไปแล้ว เป็นการลดปัญหาเรื่องมลพิษที่จะเกิดจากการเผาขยะได้ อีกทั้งพลาสติกชีวภาพยังสามารถนำมาทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์หรือแก๊สชีวภาพ (Bio Gas) เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้อีกต่อไป
ปัจจุบันปริมาณการใช้และแนวโน้มการเติบโตของตลาดพลาสติกชีวภาพของโลกอยู่ในระดับสูงมาก
โดยยุโรปมีอัตราการบริโภค 40,000-50,000 ตันต่อปี (ตลาดโต 20% ต่อปี) ญี่ปุ่น 15,000 ตันต่อปี (ตลาดโต 100% ต่อปี) และอเมริกา 70,000 — 80,000 ตันต่อปี (ตลาดโต 16% ต่อปี)
“InnoBioPlast 2006” ครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อนำเสนอความรู้ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีด้านพลาสติกชีวภาพชั้นนำของโลก ซึ่งได้มีการประยุกต์ใช้แล้วในต่างประเทศและประสบความสำเร็จอย่างมาก เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป รวมถึงการนำเสนอผลงานวิจัย ตลอดจนแนวทางการพัฒนาต่อยอดผลงานวิจัยทั้งในด้านเทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีวัสดุ การสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในลักษณะ เครือข่ายวิสาหกิจชีวภาพ ได้แก่ ภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร เริ่มตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การปลูก ตลอดจนถึงการกำหนดแนวทางการผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพ ซึ่งเป็นการลงทุนในธุรกิจนวัตกรรม เพื่อก่อให้เกิดความเตรียมพร้อมทั้งการสร้างศักยภาพ และความเป็นผู้นำในภูมิภาคของอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพของประเทศ ให้ก้าวทันนวัตกรรมพลาสติกชีวภาพในระดับสากลได้ และเพื่อเป็นการสอดคล้องแนวโน้มด้านสิ่งแวดล้อมของโลก รวมทั้งกฏระเบียบของกลุ่มสหภาพยุโรป ในการกำหนดให้นำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์ เฉพาะวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือสามารถย่อยสลายได้ ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2549 นี้” ดร.ประวิช กล่าว
นาย ฮิโรชิ นาชิมิย่า ผู้ช่วยผู้อำนวยการภาคพื้นเอเซียแปซิฟิก โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาติ (UNEP) กล่าวว่า “การจัดงานดังกล่าวภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลไทยเป็นการดำเนินการเพื่อตอบสนองแผนนโยบายของการประชุมสุดยอดของโลกว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งทาง UNEP มีความยินดีที่ได้เห็นความร่วมมือของสนช. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และผู้ที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย ภายใต้โครงการพัฒนาพลาสติกชีวภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมให้เกิดการผลิตและการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งนโยบายนี้ได้มีความสอดคล้องกับนโยบายเชิงบูรณาการเพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้นจากลักษณะนิสัยที่เกิดจากการผลิตและบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท เอพีพีอาร์ มีเดีย จำกัด
พัชราวดี สุทธิภูล โทรศัพท์ 0-2655-6633 / 0-1817-7094 อีเมล์: patcharavadee@apprmedia.com
บุษกร ศรีสงเคราะห์ โทรศัพท์ 0-2655-6633/ 0-1911-0931 อีเมล์: busakorn@apprmedia.com
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
คุณอาศยา ศิริเอาทารย์ โทรศัพท์ 0-2644-6000 ต่อ 123 อีเมล์: asaya@nia.or.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ