กรุงเทพฯ--7 ต.ค.--อินดัสเทรียล ดีไซน์ เน็ทเวิร์ค
อุตฯ เครื่องใช้ในครัวเรือนไทย มั่นใจ BIG & BIH ต่อยอดส่งออกทะลุ 45,000 ล้านบาท โตเพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้ว 3-5 % ดันรายได้ไตรมาสสุดท้ายพุ่ง ดึงผู้ประกอบการทั่วโลกเข้ามาเลือกซื้อสินค้านำไปขายปีหน้า เชื่อศักยภาพไทยไม่เป็นรองใครในเอเชีย แนะผู้ประกอบการขนาดกลางเร่งปั้นแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับ หวังลุยตลาดใหญ่จีน-อินเดีย เพราะโอกาสขยายตัวมีมาก ชี้คุณภาพสินค้าหลากหลายดีไซน์เฉียบครองใจตลาด
นายสุพัฒน์ ศรีวรรณวิทย์ นายกสมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย เปิดเผยว่า ตัวเลขยอดขายของตลาดสินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทย ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน ที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 3-5 % และคาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้จะมีมูลค่าตลาดรวมทั้งสิ้นประมาณ 45,000 ล้านบาท โดยมีตลาดหลักคือ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส เป็นต้น และในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 3-5 %
สำหรับงานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน เดือนตุลาคม 2548 (Bangkok International Gift Fair & Bangkok International Houseware Fair : October 2005) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 17-22 ตุลาคมนี้ นายสุพัฒน์กล่าวว่า จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นยอดขายทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยตลาดในประเทศ เป็นช่วงเวลาของการขายสินค้าที่ผู้บริโภคจะเลือกซื้อของขวัญและของใช้ต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ มั่นใจว่าผู้ประกอบการจะขายสินค้าได้เพิ่มขึ้น และกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายได้เป็นอย่างดี ขณะที่ในส่วนของตลาดต่างประเทศ ถือเป็นช่วงเวลาที่ผู้ซื้อรายใหญ่จากทั่วโลกเดินทางเข้ามาร่วมงานแสดงสินค้าในภูมิภาคเอเชีย เพื่อคัดเลือกสินค้านำไปขายในปีหน้า
นายกสมาคมการค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทยกล่าวต่อถึงนโยบายเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ของรัฐบาลว่า ถือว่าเป็นการมองการณ์ไกลมาก และไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดเครื่องใช้ในครัวเรือนไทยแต่อย่างใด เนื่องจากอุตสาหกรรมประเภทนี้ใช้เทคโนโลยีไม่ซับซ้อน ทำให้ผู้ประกอบการในประเทศได้เปรียบกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องของต้นทุนค่าแรงงานที่ถูกกว่า ผู้ประกอบการรายใหญ่เข้าไปแข่งขันในตลาดโลกได้เป็นอย่างดี เพราะมีความสามารถและมีจุดแข็งในการพัฒนารูปแบบและคุณภาพของสินค้า ซึ่งในส่วนของสมาคมฯ พยายามผลักดันให้ผู้ประกอบการขนาดกลางสร้างแบรนด์สินค้าขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ในเรื่องของชื่อผลิตภัณฑ์และคุณภาพของสินค้ามากขึ้น
“จีนและอินเดียเป็นตลาดใหญ่มาก ประเทศเหล่านี้มีความสามารถผลิตสินค้าในราคาที่ต่ำกว่าเรามาก ดังนั้นการเข้าไปเจาะตลาดเหล่านี้ ผู้ประกอบการขนาดกลางต้องปรับตัว และเน้นการพัฒนารูปแบบ คุณภาพสินค้าควบคู่ไปกับการสร้างแบรนด์ เนื่องจากเศรษฐกิจจีนในขณะนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประชากรมีกำลังซื้อสูงขึ้น พฤติกรรมของผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนไป จากการเลือกซื้อสินค้าราคาถูก จะเปลี่ยนมาเน้นซื้อสินค้าที่ดีมีคุณภาพ เราจึงต้องผลักดันให้ผู้ประกอบการสร้างชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อให้เขายอมรับ ซึ่งจะเป็นโอกาสในการขยายตลาดในอนาคต” นายสุพัฒน์กล่าว
ปัจจุบันตลาดสินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนไทยได้รับการยอมรับ และสามารถเข้าไปแข่งขันทำตลาดในภูมิภาคเอเชียและตลาดโลกได้เป็นอย่างดี โดยรูปแบบของสินค้ามีการพัฒนาและออกแบบให้ตรงกับความต้องการของแต่ละประเทศ ซึ่งดีไซเนอร์ไทยมีการพัฒนาในงานออกแบบที่สวยงามอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้เปรียบในเรื่องของคุณภาพสินค้า และที่สำคัญคือ ผู้ประกอบการไทยสามารถรักษาเวลาในการส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าได้ตรงเวลา
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
บริษัท อินดัสเทรียล ดีไซน์ เน็ทเวิร์ค จำกัด
โทร 02-203-0522--จบ--