กรุงเทพฯ--10 มี.ค.--สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้เปิดเผยถึงผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2552 รัฐบาลจัดเก็บรายได้ 82,430 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 23,481 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้ 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2552 (ตุลาคม 2551 — กุมภาพันธ์ 2552) จัดเก็บได้ 451,527 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 88,586 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
1. เดือนกุมภาพันธ์ 2552 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 82,430 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตาม เอกสารงบประมาณเป็นจำนวน 23,481 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.2 (ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 29.1) ภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีรถยนต์ และอากรขาเข้าโดยภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 14,231 ล้านบาท หรือร้อยละ 32.1 เนื่องจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการนำเข้าสินค้าต่ำกว่าประมาณการถึงร้อยละ 50 ซึ่งสอดคล้องกับผลการจัดเก็บอากรขาเข้าที่ต่ำกว่าประมาณ การ 2,627 ล้านบาท หรือร้อยละ 35.5 นอกจากนั้น ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการบริโภคในประเทศก็ต่ำกว่า ประมาณการถึงร้อยละ 16.9 สำหรับภาษีรถยนต์จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 2,427 ล้านบาท หรือร้อยละ 47.6 เนื่องจากข่าวผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรถยนต์ขอปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปก่อน
2. ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2552 (ตุลาคม 2551 — กุมภาพันธ์ 2552) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 451,527 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 88,586 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.4 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 16.2) ซึ่งเป็นผลจากการจัดเก็บภาษีของ 3 กรมหลัก และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจที่ต่ำกว่าประมาณการ ประกอบกับการคืนภาษีของกรมสรรพากรที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง
ผลการจัดเก็บรายได้ตามหน่วยงานจัดเก็บสรุปได้ ดังนี้
2.1 กรมสรรพากร จัดเก็บได้รวม 366,165 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสาร งบประมาณ 33,542 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8.4 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 7.5) ภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่า ประมาณการที่สำคัญได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 34,282 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.8 สาเหตุสำคัญมาจากการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าและการบริโภคในประเทศที่ต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 27.8 และ 5.4 ตามลำดับ (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ18.9 และ 2.3 ตามลำดับ) นอกจากนี้ การจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดายังต่ำกว่าประมาณการจำนวน 4,191 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.9 เป็นผลจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ลดต่ำลง แต่อย่างไรก็ดี ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมและภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ
2.2 กรมสรรพสามิต จัดเก็บได้รวม 93,994 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสาร งบประมาณ 30,711 ล้านบาท หรือร้อยละ 24.6 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 21.9) โดยสาเหตุสำคัญมาจากการจัดเก็บภาษีน้ำมันที่ต่ำกว่าประมาณการถึง 19,125 ล้านบาท หรือร้อยละ 57.9 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลและแก๊สโซฮอล์ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2552 และภาษีสรรพสามิตรถยนต์ที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 6,996 ล้านบาท หรือร้อยละ 25.7
2.3 กรมศุลกากร จัดเก็บได้รวม 35,425 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 6,325 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15.1 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 13.5) เนื่องจากอากรขาเข้าจัดเก็บได้ต่ำกว่า ประมาณการ 6,430 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.8 เป็นผลจากการหดตัวของมูลค่าการนำเข้าสินค้าเป็นสำคัญ โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2552 (ตุลาคม 2551 — มกราคม 2552) มูลค่าการนำเข้าในรูปเงินดอลลาร์ สรอ. และเงินบาทต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 6.1 และ 4.8 ตามลำดับ
2.4 รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้ 27,268 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 6,477 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.2 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 32.9) โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ขอเลื่อนการนำส่งรายได้ออกไป รวมทั้ง บมจ.ทีโอที ยังไม่สามารถนำส่งเงินปันผลได้
2.5 หน่วยงานอื่น นำส่งรายได้รวม 40,284 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 2,995 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.0 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 21.9) เนื่องจากในช่วงต้นปีงบประมาณ การจัดเก็บค่าภาคหลวงปิโตรเลียมยังได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ยังอยู่ในระดับสูง
2.6 การคืนภาษีของกรมสรรพากร 95,328 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 15,608 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.6 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 29.4) ประกอบด้วยการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่สูงกว่าประมาณการ 9,377 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.1 และการคืนภาษีอื่น ๆ สูงกว่าประมาณการ 6,231 ล้านบาท หรือร้อยละ 76.3
3. สรุป
จากผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2552 ที่ต่ำกว่าประมาณการ 88,586 ล้านบาท นั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่หดตัวลงที่ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ
นอกจากนี้ ยังเป็นผลจากนโยบายของรัฐบาลในการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันจาก 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤติเพื่อคนไทยทุกคน ในช่วงเดือนตุลาคม 2551- มกราคม 2552 อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังจะดูแลฐานะทางการคลังและรักษาวินัยทางการคลัง เพื่อรักษาการใช้จ่ายของรัฐบาลให้เป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
สำนักนโยบายการคลัง
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร 02 273 9020 ต่อ 3500 และ 3545