กรุงเทพฯ--10 มี.ค.--สวทช.
จากสภาวะเศรษฐกิจโลกส่งผลถึงการผลิตสินค้าส่งออกแทบทุกอุตสาหกรรม อาทิในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องเร่งปรับตัวทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ไทยจึงต้องระดมสมองวางแผนการผลิตเพื่อสร้าง “กลยุทธ์” ทางการตลาด โครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย(iTAP) สวทช.ในฐานะหน่วยงานภาครัฐจึงร่วมสนับสนุนการจัดทำแผนที่นำทางเชิงกลยุทธ์สำหรับอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไทยที่ยั่งยืน โดยได้ร่วมมือกับศูนย์คาดการณ์เทคโนโลยีเอเปค(APEC Center for Technology Foresight) เพื่อนำเสนอ Road Map ให้กับวงการเฟอร์นิเจอร์ไทย
นายจิรวัฒน์ ตั้งกิจงามวงศ์ เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทย ตัวแทนในการนำเสนอแผนที่นำทางครั้งนี้ กล่าวว่า แผนที่นำทางในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไทยได้นำเสนอแนวโน้มของการผลิตและออกแบบผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ใน 10 ปีข้างหน้า อาทิ ลักษณะของผลิตภัณฑ์จะตอบสนองต่อความต้องการใช้สอยตามวิถีชีวิตรูปแบบใหม่และตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะของลูกค้า ในแต่ละกลุ่ม เช่น ผู้สูงอายุ ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่จำกัด (คอนโดมิเนียม หอพัก) อีกทั้งจะรองรับรูปแบบการจัดหาแบบใหม่ เช่น การเช่าเฟอร์นิเจอร์ มากขึ้น ซึ่งต้องดูแลเรื่องการซ่อมแซม รวมถึงต้องตอบสนองกฎระเบียบทางการค้าอย่างความปลอดภัย การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เน้นการใช้วัตถุดิบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงราคาผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่า
การนำเสนอแผนที่ดังกล่าวยังได้มองคู่แข่งสำคัญของไทย เช่น จีน ซึ่งกำลังพัฒนาเครื่องจักรของตนเองได้ แต่ผู้ประกอบการไทยยังคงเป็นผู้บริโภคซื้อเครื่องจักรส่วนใหญ่โดยไม่มีเทคโนโลยีการสร้างเครื่องจักรเป็นของตนเอง อีกทั้งจีนและเวียดนาม ยังมีการพัฒนาการปลูกไม้ยางพาราเพื่อเป็นวัตถุดิบ รวมทั้งเรื่อง FTA (เขตการค้าเสรี)ทำให้มีข้อบังคับมากขึ้น ประเทศไทยจึงต้องพัฒนาคุณภาพมาตรฐานสำหรับการแข่งขันเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ด้านแนวโน้มการผลิตและการออกแบบผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ใน 10 ปีข้างหน้านี้ ได้แก่ ลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนต่ำ แนวโน้มการผลิตและออกแบบจึงพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ที่สามารถขายได้ในทุกประเทศทั่วโลก ปรับกฎระเบียบควบคุมการใช้ไม้ ลดการใช้ไม้ธรรมชาติเป็นวัตถุดิบ โดยหันมาพัฒนาไม้สังเคราะห์ และพัฒนาเทคโนโลยีการนำเศษไม้มาใช้ประโยชน์ในด้านอื่น เช่น การทำเชื้อเพลิง รวมทั้งการพัฒนาความสามารถในการเลือกซื้อเครื่องจักรอุปกรณ์และพัฒนาความรู้ความเข้าใจในการใช้เครื่องจักร เพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ในกระบวนการผลิตได้สูงสุด
Road Map ยังได้นำเสนอประเภทของเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ อาทิ เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนากระบวนการผลิต อย่างการนำเทคโนโลยีความร้อนสูงเข้ามาช่วยหรือ วิธี Heat Treatment , เทคโนโลยีการประกอบไม้โดยไม่ใช้กาว (binderless) , เทคนิคในการเข้าไม้ (joint) โดยไม่ใช้วัตถุประสานและวัสดุที่ใช้ทดแทนกาวจากวัสดุธรรมชาติ เป็นต้น หรือ เทคโนโลยีซอฟต์แวร์ก็ยังมีส่วนสำคัญสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งแผนที่นำทางในครั้งนี้ได้นำเสนอปัจจัยในการเลือกใช้ซอฟต์แวร์ว่า ผู้ประกอบการควรคำนึงถึงขนาดธุรกิจ ความยืดหยุ่นของโปรแกรมให้สามารถใช้งานได้หลากหลายประเภท รวมทั้งการคำนึงถึงราคาและลิขสิทธิ์ในการใช้งาน
การสร้างกลยุทธ์สำหรับการทำแผนที่นำทางเชิงกลยุทธ์สำหรับอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ในครั้งนี้ยังได้นำเสนอแผนการทำงานในระยะสั้นซึ่งต้องมีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดในปัจจุบัน เช่นการพัฒนาคลัสเตอร์ในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ให้เข้มแข็ง อย่างการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลทั้งในด้านการตลาด มาตรฐานและเทคโนโลยี รวมถึงพัฒนาหน่วยงานมาตรฐานสิ่งแวดล้อม การปรับแก้กฎระเบียบภาครัฐที่เอื้อให้มีการใช้ประโยชน์จากไม้มากขึ้นโดยร่วมมือกับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ การพัฒนางานวิจัยและพัฒนาเพื่อให้เกิดนวัตกรรม โดยอาศัยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและยังเป็นการสร้างกำลังคนสำหรับอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ในอนาคต หรือการพัฒนาตลาดของผลิตภัณฑ์เฉพาะ เช่น ตลาดเฟอร์นิเจอร์ที่มีเอกลักษณ์ของศิลปะไทยโดยร่วมกับกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งเรื่องของการพัฒนามาตรฐานการผลิตให้เทียบเท่ากับมาตรฐานนานาชาติ เช่น REACH, California Act หรือการพัฒนาตลาดในประเทศให้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
นอกจากนี้ยังได้นำเสนอแผนการทำงานในระยะยาวเพื่อยกระดับความสามารถของอุตสาหกรรมไทย เช่น การเพิ่มความสามารถในการแข่งขันโดยการพัฒนาความสามารถด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ การสนับสนุนให้ผู้ประกอบการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้นโดยคาดหวังว่าแผนที่นำทางเหล่านี้จะสามารถเสริมศักยภาพการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไทยปรับตัวอยู่รอด ท่ามกลางเศรษฐกิจในปัจจุบันและวางแผนการทำงานต่อไปในอนาคต เพื่อสร้างกลยุทธ์นำไปสู่ความยั่งยืนในที่สุด