กรุงเทพฯ--10 มี.ค.--คต.
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2551 European Chemical Agency (ECHA) ได้ประกาศเปิดรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณชนต่อร่างรายชื่อสารเคมีที่มีความน่าห่วงกังวลสูงชุดแรกจำนวน 7 รายการจาก 15 รายการ คือ 1.) 5-tert-butyl-2,4,6-trinitro-m-xylene (musk xylene) 2.) Alkanes,C10-13,chloro (Shortchain Chlorinated Parafins; SCCPs) 3.) 4,41-Diamano diphenyl methane (MDA) 4.) Dibutyl phthalate (DBP) 5.) Hexabromocyclododecane (HBCDD) and all major diastereoisomer identified 6.) Bis (2-ethylhexyl) phthalate (DEHP) และ 7.) Benzyl butyl phthalate (BBP) และจะปรากฏอยู่ใน Annex XIV หรือ Authorisation List ตามระเบียบ REACH โดยต้องยื่นรายงานประเมินความเสี่ยงของสารเคมี (Chemical Safety Report: CSR) และวิเคราะห์ทางเลือกหรือเทคโนโลยีอื่นที่สามารถทดแทนสารดังกล่าวเพื่อขออนุญาตก่อนใช้งานและต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับขั้นตอนดังกล่าวทุกครั้ง
สำหรับสารเคมีใน Candidate List ที่เหลืออยู่จำนวน 8 รายการทาง ECHA อาจนำกลับมาพิจารณาได้อีกในการจัดลำดับความสำคัญครั้งต่อไป ECHA ได้ประเมินข้อมูลที่มีอยู่ของสารเคมีใน Candidate List ตามเกณฑ์ต่อไปนี้ คือ 1.) คุณสมบัติของสาร 2.) ลักษณะการใช้ประโยชน์ และ 3.) ปริมาณการใช้ประโยชน์ที่ต้องขึ้นกับการขออนุญาต อย่างไรก็ดีเมื่อได้รับฟังข้อคิดเห็นสาธารณะแล้ว ECHA อาจแก้ไขร่างข้อกำหนดข้างต้นอีกครั้ง โดยจะพิจารณาความเห็นของคณะกรรมการจากประเทศสมาชิกด้วย หลังจากนั้น จะยื่นข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมาธิการเพื่อตัดสินใจในขั้นสุดท้าย นอกจากนี้ ECHA ได้เสนอให้ข้อกำหนดสำหรับการยื่นใบสมัครการขออนุญาตใช้สารเคมีควรอยู่ระหว่าง 24 - 30 เดือน และหลังจากรายชื่อสารข้างต้นได้บรรจุไว้ใน Annex XIV (สารเคมีที่มีความ น่าห่วงกังวลสูง) แล้วจะไม่สามารถใช้สารเหล่านั้นเป็นเวลา 42 - 48 เดือนไปแล้ว รวมทั้งยังได้เสนอให้รวมการยกเว้นการใช้ประโยชน์สารเคมีที่มีลำดับความสำคัญสูงที่ได้รับการอนุญาตภายใต้เงื่อนไขเฉพาะไว้ในกฎหมายปัจจุบันของคำสั่งว่าด้วยข้อจำกัดการตลาดและการใช้ประโยชน์ (Restrictions on Marketing and Use Directive 76/769/EEC)
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า การยื่นขออนุญาตใช้ประโยชน์สารใน Annex XIV ดังกล่าว จะได้รับอนุญาตหากผู้ยื่นสามารถแสดงให้เห็นว่า ความเสี่ยงจากการใช้ประโยชน์จากสารนั้นมีการควบคุมที่เพียงพอ ซึ่งเกณฑ์การควบคุมอย่างเพียงพอนี้จะไม่ใช้กับสารซึ่งกำหนดเพดานเป็นไปไม่ได้ และสารที่มีคุณสมบัติ PBT หรือ vPvB และแม้ว่าความเสี่ยงไม่ได้รับการควบคุมอย่างเพียงพอ ก็สามารถอนุญาตให้ใช้สารได้หากพิสูจน์ได้ว่าประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมมีมากกว่าความเสี่ยง และยังไม่มีเทคโนโลยีหรือสารทดแทนสำหรับผู้ใช้สารเคมีสุดท้ายจะใช้สารเคมีเหล่านี้ได้เฉพาะการใช้ประโยชน์ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น โดยกรณีที่ซื้อสารจากบริษัทที่ได้รับการอนุญาตการใช้ประโยชน์นั้นแล้ว จะต้องแจ้งต่อ ECHA ด้วย หรือหากยังไม่มีการขออนุญาตก็ต้องยื่นขออนุญาตใช้ประโยชน์สารเองด้วยตนเอง สำหรับกำหนดเวลาการทบทวนการใช้ประโยชน์สารเคมีที่ขึ้นกับขั้นตอนการขออนุญาต และจะพิจารณาบนพื้นฐานของการใช้ประโยชน์สารในแต่ละกรณีไป
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่สนใจจะให้ข้อคิดเห็นต่อร่างรายชื่อสารเคมีใน Authorisation List โดยเฉพาะประเด็นการใช้ประโยชน์สารที่ควรได้รับการยกเว้นจากข้อกำหนดการขออนุญาต สามารถยื่นข้อคิดเห็นผ่าน Web Forms ของเว็บไซท์ ECHA ได้จนถึงวันที่ 14 เมษายน 2552