ปี 2551 บริษัทจดทะเบียนจ่ายปันผลรวมเกือบสองแสนล้านบาท

ข่าวทั่วไป Tuesday March 10, 2009 16:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 มี.ค.--ตลท. บริษัทจดทะเบียนใน SET และ mai ประกาศจ่ายปันผลประจำปี 2551 รวมมูลค่า 186,764 ล้านบาท หรือร้อยละ 56 ของกำไรสุทธิรวม โดยอัตราผลตอบแทนจากปันผลเฉลี่ยของ SET อยู่ที่ร้อยละ 6.65 เผยกลุ่มบจ. ใน SET ที่มีอัตราผลตอบแทนจากการจ่ายปันผล (Dividend Yield) สูงสุด 3 อันดับแรก คือ กลุ่มวัตถุดิบและสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และกลุ่มบริการ ด้านบริษัทจดทะเบียนใน mai มีมูลค่าปันผลรวม 1,039 ล้านบาท หรือร้อยละ 47 ของกำไรสุทธิรวม โดยอัตราผลตอบแทนจากปันผลเฉลี่ยของ mai อยู่ที่ร้อยละ 6.88 โดยบริษัทที่มี Dividend Yield สูงสุด 3 อันดับแรก คือ บมจ. สตีล อินเตอร์เทค (STEEL) บมจ. ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) และ บมจ.ปิโก (ไทยแลนด์) (PICO) นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ณ วันที่ 2 มีนาคม 2552 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) รวม 272 บริษัท หรือร้อยละ 52 ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 521 บริษัท [ไม่รวมบริษัทจดทะเบียนกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน (Non-Compliance:NC) และกลุ่มที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด (Non-Performing Group : NPG) ] ประกาศจ่ายปันผลประจำปี 2551 โดยมีมูลค่าปันผลที่ประกาศจ่ายรวมกันสูงถึง186,764 ล้านบาท หรือร้อยละ56 ของกำไรสุทธิรวมของบริษัทดังกล่าว ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนจากปันผลเฉลี่ยของ SET และ mai (Average Dividend Yield) อยู่ที่ร้อยละ 6.65 “ ณ วันที่ 2 มีนาคม 2552 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ( SET) ที่จ่ายปันผลมีจำนวน 240 บริษัท โดยมีมูลค่าปันผลที่ประกาศจ่ายรวมกันสูงถึง 185,725 ล้านบาท โดยอัตราผลตอบแทนจากปันผลเฉลี่ยของ SET (Average Dividend Yield) อยู่ที่ร้อยละ 6.65 ” นางภัทรียากล่าว กลุ่มอุตสาหกรรมที่มี Dividend Yield สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) กลุ่มวัตถุดิบและสินค้าอุตสาหกรรม มี Dividend Yield เท่ากับร้อยละ 12.65 โดยหมวดวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักรมี Dividend Yield สูงสุดเท่ากับร้อยละ 14.41 และรองลงมาคือ หมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ เท่ากับร้อยละ 13.43 2) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง มีDividend Yield เท่ากับร้อยละ 8.09 โดยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มี Dividend Yield สูงสุดเท่ากับร้อยละ 9.67 และรองลงมาคือหมวดวัสดุก่อสร้างเท่ากับร้อยละ 7.85 และ 3) กลุ่มบริการ มี Dividend Yield เท่ากับร้อยละ 7.36 โดยหมวดขนส่งและโลจิสติกส์มี Dividend Yield สูงสุดเท่ากับร้อยละ 16.95 รองลงมาคือหมวดพาณิชย์เท่ากับร้อยละ 6.51 “ สำหรับบริษัทจดทะเบียนใน mai ที่ประกาศจ่ายปันผลประจำปี 2551 แล้วมีจำนวน 32 บริษัท จากทั้งหมด 51 บริษัท รวมมูลค่าปันผลจำนวน 1,039 ล้านบาท หรือร้อยละ 47 ของกำไรสุทธิรวม และคิดเป็น Dividend Yield เฉลี่ยร้อยละ 6.88 สำหรับบริษัทที่มีอัตราส่วนปันผลตอบแทนสูงสุด 3 อันดับแรก บมจ. สตีล อินเตอร์เทค (STEEL) ร้อยละ 18.12 บมจ. ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) ร้อยละ 15.23 และ บมจ.ปิโก (ไทยแลนด์) (PICO) ร้อยละ 15.20 ตามลำดับ” สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมใน SET ที่มีมูลค่าการจ่ายปันผลรวมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) กลุ่มทรัพยากร จ่ายปันผลรวม 65,768 ล้านบาท ซึ่งบมจ.ปตท. ( PTT) มีมูลค่าปันผลจ่ายสูงสุด 22,562.43 ล้านบาท (ปันผลในอัตราหุ้นละ 8.00 บาท) และมี Dividend Yield เท่ากับร้อยละ 5.29 2) กลุ่มเทคโนโลยี จ่ายปันผลมูลค่ารวม 30,112 ล้านบาท โดยบมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) มีมูลค่าปันผลจ่ายสูงสุด 18,658.96 ล้านบาท (ปันผลในอัตราหุ้นละ 6.30 บาท) มี Dividend Yield เท่ากับร้อยละ 7.73 3) กลุ่มธุรกิจการเงิน มีมูลค่าปันผลรวม 24,122 ล้านบาท โดยธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) มีมูลค่าปันผลจ่ายสูงสุด 5,726.53 ล้านบาท (ปันผลในอัตราหุ้นละ 3.00 บาท) มี Dividend Yield เท่ากับร้อยละ 4.26 4) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง มีมูลค่ารวม 23,528 ล้านบาท โดย บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) มีมูลค่าปันผลจ่ายสูงสุด 9,000 ล้านบาท (ปันผลในอัตราหุ้นละ 7.50 บาท) มี Dividend Yield เท่ากับร้อยละ 7.58 และ 5) กลุ่มบริการ จ่ายปันผลมูลค่ารวม 21,482 ล้านบาท โดย บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) มีมูลค่าปันผลจ่ายสูงสุด 3,685.71 ล้านบาท (ปันผลในอัตราหุ้นละ 2.58 บาท) มี Dividend Yield เท่ากับร้อยละ 17.09 ทั้งนี้ ยังมีบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ระหว่างการพิจารณาจ่ายปันผลและจะทยอยประกาศให้ทราบเป็นระยะ ซึ่งผู้ลงทุนสามารถติดตามข้อมูลการจ่ายปันผลได้จากเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ www.set.or.th และเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ที่ www.mai.or.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ