กรุงเทพฯ--12 มี.ค.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์
ประกันภัยศรีเมือง ผลประกอบการปี2551เติบโตเกินคาด มั่นใจมุ่งสร้างตลาดภายในประเทศ เน้นพัฒนาบริการครบวงจร ตอบสนองลูกค้ารับกระแสเศรษฐกิจชะลอตัว
บริษัท ประกันภัยศรีเมือง จำกัด ในเครือโตเกียว มารีน บริษัทประกันวินาศภัยอันดับ 1 ในญี่ปุ่น แถลงผลประกอบการปี 2551 ประสบผลสำเร็จเกินเป้าหมาย เติบโต 26 % สูงกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยของธุรกิจประกันวินาศภัย ครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในกลุ่ม 10 บริษัทประกันภัยชั้นนำของประเทศไทย ย้ำปีนี้ยังคงมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้า พัฒนารูปแบบการบริการต่างๆให้ดียิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภค อาทิ ศูนย์บริการรับแจ้งเคลมตลอด 24 ชั่วโมง (24-Hours Claims Call Service) และการให้คำปรึกษาในการจัดการความเสี่ยง (Risk Management) แม้ว่าเศรษฐกิจชะลอตัวในปี 2552 แต่ยังมั่นใจอัตราการเจริญเติบโตด้วยการมีความพร้อมในระบบเครือข่ายบริการที่มีคุณภาพ และสถานะความมั่นคงทางการเงินของบริษัท
มร. โยอิจิ ทามากาคิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ประกันภัยศรีเมือง จำกัด เปิดเผยผลประกอบการบริษัทว่า ในปี 2551 บริษัทมีรายได้เบี้ยประกันภัยรับรวม 3.5 พันล้านบาท มีการขยายตัว 26% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตสูงกว่าตัวเลขเติบโตของธุรกิจประกันวินาศภัยซึ่งเติบโตประมาณ 5% อัตราการเติบโตส่วนใหญ่มาจาก การรับประกันภัยเบ็ดเตล็ด และการรับประกันภัยรถยนต์ ผลงานที่โดดเด่นในปีที่ผ่านมาทำให้บริษัทยังคงอยู่ในกลุ่มอันดับ 1 ใน 10 บริษัทประกันวินาศภัยชั้นนำในประเทศไทย มร.โยอิจิ ทามากาคิ ยังให้ความเห็นถึงผลการดำเนินงานของบริษัทในด้านต่างๆดังนี้ “ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีความสัมพันธ์อันดีกับพันธมิตรหลัก อันได้แก่ บริษัท รถยนต์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งความสัมพันธ์อันดีนี้เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จในการทำตลาด ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด แม้ว่า เรามีอัตราการขยายตัวที่น่าพึงพอใจในปีที่ผ่านมา แต่เราก็ดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ บริษัทไม่กำหนดเป้าหมายให้ส่วนแบ่งการตลาดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่เป้าหมายสูงสุดของบริษัทฯคือ การได้เป็นบริษัทที่ได้รับการเลือกและได้รับความไว้วางใจสูงสุดจากลูกค้าของเรา”
ในปี 2551 สัดส่วนการรับประกันภัยของบริษัทแบ่งเป็น การรับประกันอัคคีภัย 24%, เบ็ดเตล็ด 11%, รถยนต์ 46%, และ ประกันภัยขนส่งทางทะเล 19% ในจำนวนนี้เป็นลูกค้าองค์กร (กลุ่มบริษัทจากญี่ปุ่น) และลูกค้ารายย่อยในสัดส่วน 53:47 เป็นที่รับรู้กันว่าในอดีตที่ผ่านมาบริษัทประกันภัยศรีเมือง มีความชำนาญในการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าองค์กรจากประเทศญี่ปุ่นที่ลงทุนในประเทศไทย แต่ในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับแล้วว่าบริษัทประกันภัยศรีเมืองมีความพร้อมในการให้บริการกลุ่มลูกค้าองค์กรและลูกค้ารายย่อย โดยเน้นไปที่การรับประกันภัยรถยนต์และประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล สิ่งที่เห็นเด่นชัดก็คือการขยายตัวของสาขาในเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ซึ่งบริษัทมีสาขาทั้งหมด 16 สาขาทั่วประเทศ ที่พร้อมให้บริการ และมีการพัฒนาสินค้าใหม่ๆเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เช่น ประกันภัยบ้าน (HOME SMILE) และ ประกันภัยโรคมะเร็ง (CANCER SMILE)
มร. โยอิจิ ทามากาคิ ให้ความเห็นเกี่ยวกับทิศทางในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯว่า “ในปี 2552 นี้ จะเป็นปีที่ลำบากสำหรับทุกบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรับประกันภัยทางทะเล และ รถยนต์ ส่วนธุรกิจประกันภัยก็เป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน และผมมีความเห็นส่วนตัวว่าเป็นเรื่องค่อนข้างยากที่เราจะรักษาระดับเบี้ยรับประกันภัยให้เท่ากับปีที่ผ่านมา บางคนอาจจะให้ความเห็นว่าในช่วงนี้เป็นโอกาสของบริษัทที่มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงินอย่างเช่นบริษัทของเรา แต่อย่างไรก็ตาม ก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นเราต้องมีความอดทนที่จะรอดูสถานการณ์ และเราจะไม่หยุดยั้งการดำเนินการพัฒนา ในการให้บริการแก่ลูกค้าของเรา ส่วนทางด้านสถานะการเงินที่มั่นคงของบริษัท ผมคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บริษัทมีความได้เปรียบในการแข่งขันในสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันนี้” ทั้งนี้ มร. ทามากาคิยังเสริมว่า “ทางบริษัทประกันภัยศรีเมืองจะยังคงดำเนินแผนกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง และในปีนี้เราจะใช้หัวข้อกิจกรรมว่า “We Care We Share” โดยต้องการจะสื่อว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ทำอะไร อายุเท่าไหร่ หรือ อาศัยอยู่ที่ไหน คุณสามารถที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยอนุรักษ์โลกของเรา ความรักและความใส่ใจจะทำให้โลกน่าอยู่ เริ่มต้นด้วยเรื่องง่ายๆใกล้ตัว เช่นการปิดไฟและปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ ในช่วงพักกลางวัน สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยประเทศไทยประหยัดเงินได้เป็นจำนวนล้านบาท บริษัทประกันภัยศรีเมืองและโตเกียวมารีนกรุ๊ป ได้มีส่วนร่วมในการช่วยพัตนาสังคมในทุกๆประเทศที่ทางบริษัทได้เข้าไปดำเนินงาน และยังมีแผนการที่จะทำกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกันในทุกๆประเทศ” ทั้งนี้บริษัทประกันภัยศรีเมืองได้มีส่วนในการเป็นผู้สนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคม เริ่มตั้งแต่ปี 2547 โดยมี 3 โครงการหลักคือ โครงการสนับสนุนสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ มอบทุนการศึกษาให้กับเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ทั่วประเทศ (Tokio Marine & NCSWT Scholarship for Thai Student Program), โครงการสนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิเมาไม่ขับ พร้อมมอบทุนการศึกษาแก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจากคนเมาแล้วขับและทายาทของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ (“Don’t Drive Drunk campaign) และ โครงการปลูกป่าสร้างฝาย (Reforestation & Check-dam building) ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยร่วมมือกับสมาคมภูมินิเวศพัฒนาอย่างยั่งยืนจัดสร้างฝ่ายชะลอน้ำและปลูกป่าเพื่อการฟื้นฟูและรักษาสภาพแวดล้อมให้เกิดการสมดุลทางธรรมชาติ สิ่งเหล่านี้เป็นแค่บางส่วนที่ทางบริษัทประกันศรีเมืองได้ทำให้สังคมไทยและทำให้บริษัทเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
ด้านนายหลักชัย สุทธิชูจิต รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ประกันภัยศรีเมือง จำกัด กล่าวถึง แผนการส่งเสริมการตลาดที่มาพร้อมกับ การสร้างมูลค่าเพิ่มในการบริการ (value-added services) และ การทำแบรนด์ดิ้ง บริษัทประกันภัยศรีเมือง จะมุ่งเน้นในการใช้โครงข่ายการให้บริการ เพื่อที่จะขยายตลาดในประเทศ และ ขยายฐานลูกค้า โดย นายหลักชัยให้ความเห็นว่า “เราเตรียมพร้อมที่จะเสนอบริการใหม่ ให้กับลูกค้าในปี2552 อันได้แก่ การบริการด้านสินไหม ทางบริษัทได้ตั้งศูนย์บริการรับแจ้งเคลม24 ชั่วโมง (24 Hours Claims Call Service) เพื่อสามารถให้บริการรับแจ้งเคลมได้ตลอดเวลาแม้นอกเวลาทำการ ซึ่งบริการนี้จะมีพนักงานคอยให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ การพัฒนาบริการของเรานั้นไม่ได้เจาะจงเฉพาะการบริการกลุ่มผู้เอาประกันเท่านั้น ยังขยายไปถึงอู่ซ่อมรถในเครือด้วย เราพัฒนาแนวคิดในระบบซับพลายเชน (Supply Chain) เพื่อสร้างความรวดเร็วและอำนวยความสะดวกแก่อู่ซ่อม โดยเฉพาะในด้านการบริหารจัดการค่าสินไหมซึ่งจะช่วยให้การชำระเงินให้แก่อู่ ได้รับเงินรวดเร็วมากขึ้น สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กร ทางบริษัทมีบริการ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกและให้คำแนะนำการเรียกร้องสินไหม (Claim Guideline Service) ซึ่งระบบนี้จะให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงเว็บไซด์เฉพาะของบริษัทในการแจ้งสินไหม และสามารถดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ รวมถึงใช้ในการทำ Loss prevention ได้อีกด้วย ดังนั้นการให้คำปรึกษาในการจัดการความเสี่ยง (Risk Management) ที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นที่รับรู้โดยทั่วไปในกลุ่มลูกค้าของเรา ในการทำรายงานการจัดการความเสี่ยงสำหรับลูกค้า ทางบริษัทมีทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ (Risk Engineer) ที่มีประสบการณ์ในการวิเคราะห์ข้อมูลและมีอุปกรณ์ที่ทันสมัย เช่นเครื่อง Thermo Graphic Inspection Camera ร่วมใช้งาน จึงนำมาซึ่ง รายงานที่มีคำแนะนำ และการเสนอแนะที่นำไปสู่การลดจำนวนอุบัติเหตุ และความเสียหายต่อทรัพย์สินของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ บริษัทยังสามารถแบ่งปันแก่ลูกค้าองค์กรผ่านทางเว็บไซด์เฉพาะของบริษัท
บริษัทโตเกียวมารีนเป็นบริษัทที่ให้บริการการประกันภัยทางทะเลรายใหญ่ที่สุดในโลก และในขณะเดียวกันบริษัท ประกันภัยศรีเมืองก็เป็นผู้นำในการให้บริการประกันภัยทางทะเลอันดับหนึ่งในประเทศไทยดังนั้นลูกค้าของประกันภัยศรีเมืองจึงมั่นใจได้ถึงการให้บริการมาตรฐานระดับโลกจากบริษัทในเครือของโตเกียวมารีนทั่วโลก
“เราจะมุ่งเน้นในการพัฒนาระบบพื้นฐานในองค์กรของเรา ได้แก่ ระบบไอที, จัดการสินไหม, และระบบเครือข่ายทั่วประเทศ เพื่อที่จะพัฒนาบริการที่ดีขึ้นแก่ลูกค้าของเรา และเราจะไม่หยุดยั้งในการพัฒนาระบบการให้บริการเพราะเราเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความแตกต่าง (Differentiation) ของบริษัทเราจากบริษัทคู่แข่ง นอกจากนี้บริษัทยังตอกย้ำการสร้างแบรนด์ในรูปแบบของการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสาน รวมถึงการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อหลากหลายรูปแบบ ทั้ง Above the line และ Below the line ให้ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุ เป็นต้น เพื่อเป็นการมุ่งเน้นการสร้างมูลค่า (Value Creation) สร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ (Brand Awareness) เพื่อที่บริษัทจะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ในระยะยาว” นายหลักชัยกล่าวในที่สุด
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
อลิสา ทองสดเจริญดี / จิตรดารา นพเกตุ หรือ ฑิฆัมพร บรรณเภสัช
บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด บริษัท ประกันภัยศรีเมือง จำกัด
โทร. 0-2693-7835-8 ต่อ 18 และ 16 โทร. 0-2686-8888 ต่อ 1962
มือถือ 086 500 2582 และ 081 917 0810 www.srimuang.co.th