ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ใหม่ “บ. ทรู คอร์ปอเรชั่น” ที่ระดับ “BBB/Stable”

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 12, 2009 16:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 มี.ค.--ทริสเรทติ้ง บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศยืนยันผลการทบทวนอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้มีประกันของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE) ที่ระดับ “BBB” พร้อมทั้งยืนยันอันดับเครดิตหุ้นกู้ซึ่งมีการค้ำประกันบางส่วนโดย International Finance Corporation (IFC) ที่ระดับ “A” ในขณะเดียวกันยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้มีประกันชุดใหม่ของบริษัทในวงเงินไม่เกิน 7,750 ล้านบาทที่ระดับ “BBB” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตหุ้นกู้ใหม่นี้ใช้แทนอันดับเครดิตที่ทริสเรทติ้งจัดไว้เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2551 สำหรับหุ้นกู้มีประกันในวงเงินไม่เกิน 6,750 ล้านบาทที่มีกำหนดไถ่ถอนภายในปี 2557 ของบริษัทเนื่องจากบริษัทตัดสินใจเพิ่มวงเงินหุ้นกู้อีกจำนวน 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ วงเงินที่เพิ่มขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตและแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัท โดยเงินทั้งหมดที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่จะนำไปใช้ชำระคืนหุ้นกู้ TRUE112A ก่อนกำหนดและไถ่ถอนหุ้นกู้ TRUE097A เพื่อลดความเสี่ยงบางส่วนจากการกู้เงินเพื่อชำระคืนเงินกู้เดิมอันเนื่องมาจากภาวะที่ไม่แน่นอนของตลาดเงินและตลาดทุนโลก อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงฐานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งของ TRUE จากการเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการโทรคมนาคมแบบครบวงจรในประเทศไทย รวมถึงโอกาสในการเติบโตของธุรกิจสื่อสารข้อมูล (Data Communications) และโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบริษัท ตลอดจนคณะผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากฐานะทางการเงินที่อ่อนแออันเป็นผลมาจากการมีภาระหนี้จำนวนมาก ตลอดจนผลกระทบจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และการสื่อสารข้อมูล และความไม่แน่นอนของกฎระเบียบด้านโทรคมนาคม ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่า TRUE จะยังคงดำรงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจโทรคมนาคมเอาไว้ได้และรักษาความสามารถในการแข่งขันด้วยการให้บริการในลักษณะหลอมรวมเทคโนโลยี ทริสเรทติ้งจะติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการขอผ่อนผันข้อปฏิบัติอัตราส่วนทางการเงินจากเจ้าหนี้และการลดภาระหนี้ของบริษัทต่อไป ทั้งนี้ อันดับเครดิตอาจได้รับผลกระทบในทางลบหากบริษัทตัดสินใจลงทุนในโครงการใหญ่ที่ต้องมีการกู้ยืมสูง เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2551 ทริสเรทติ้งได้เผยแพร่ข่าวแสดงความกังวลเกี่ยวกับอันดับเครดิตของ TRUE เนื่องจากบริษัท ทรูมูฟ จำกัด (TrueMove) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย มีแนวโน้มกระทำผิดข้อปฏิบัติในการดำรงอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2551 ต่อมาในเดือนมีนาคม 2552 TrueMove ได้รับการผ่อนผันหนี้สำหรับระยะสิ้นสุด ณ เดือนธันวาคม 2551 จากเจ้าหนี้ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ทริสเรทติ้งเชื่อว่า TrueMove ยังมีภาระที่จะต้องบริหารจัดการข้อปฏิบัติอัตราส่วนทางการเงินดังกล่าวอีกในช่วงไตรมาสข้างหน้า แต่คาดว่าบริษัทจะได้รับการผ่อนผันจากเจ้าหนี้ในเวลาอันสมควร ในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 บริษัทได้รับเงินเพิ่มทุนจำนวน 6.38 พันล้านบาทจากการจัดสรรหุ้นสามัญใหม่มูลค่าทั้งสิ้น 19.5 พันล้านบาท บริษัทวางแผนในการสำรองเงินจำนวน 3.8 พันล้านบาทสำหรับความต้องการเงินทุนในระยะสั้นโดยขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่จะได้รับจากการขายหุ้นกู้ในเดือนมีนาคม 2552 นี้ และขึ้นอยู่กับข้อสรุปเกี่ยวกับการซื้อคืนหุ้นของ บริษัท กรุงเทพอินเตอร์เทเลเทค จำกัด (มหาชน) (BITCO) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ TrueMove ในเดือนมิถุนายน 2552 ที่จะถึง เงินส่วนที่เหลือจำนวน 2.6 พันล้านบาทจะใช้เป็นเงินเพิ่มทุนสำหรับ TrueMove เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของงบดุลและอัตราส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อปฏิบัติทางการเงิน ทริสเรทติ้งกล่าวว่า TRUE เป็นผู้นำในการให้บริการโทรคมนาคมแบบครบวงจรของประเทศ ธุรกิจหลักของบริษัททั้ง 3 กลุ่มประกอบด้วย กลุ่ม TrueOnline ซึ่งเป็นธุรกิจโครงข่ายสายสัญญาณ (Wireline) กลุ่ม TrueMove ซึ่งเป็นธุรกิจไร้สาย (Wireless) หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่ และกลุ่ม TrueVisions ซึ่งเป็นธุรกิจโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก (Pay TV) ณ สิ้นปี 2551 ทั้ง 3 กลุ่มสร้างรายได้ให้แก่บริษัทในสัดส่วน 40% 42% และ 18% ตามลำดับ สถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทเป็นผลมาจากความเป็นผู้นำในตลาดการให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานในเขตกรุงเทพฯ และตลาดบรอดแบนด์ (Broadband) หรือการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาด 50% และมากกว่า 80% ตามลำดับ นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้ให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกรายใหญ่ที่สุดซึ่งให้บริการผ่าน บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) รวมทั้งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่เป็นอันดับ 3 ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 1 ใน 4 ของจำนวนผู้ใช้บริการธุรกิจโทรคมนาคมเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันรุนแรงโดยเฉพาะในกลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนซึ่งผู้ประกอบการต่างส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ ที่มีอัตราค่าบริการต่ำและน่าสนใจกว่า การแข่งขันดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้และอัตราการทำกำไรที่น้อยลง รายได้ของบริษัทในส่วนของธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานนั้นมีแนวโน้มลดลงเหมือนกับในประเทศอื่นๆ อันเนื่องมาจากการมีสินค้าทดแทนคือโทรศัพท์เคลื่อนที่ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่ดีในธุรกิจสื่อสารข้อมูลน่าจะช่วยชดเชยรายได้ในส่วนโทรศัพท์พื้นฐานที่ลดลงได้ TRUE มีผลประกอบการในปี 2551 ต่ำกว่าประมาณการในด้านของรายได้และภาระหนี้ที่สูงเนื่องจากการเติบโตของผู้ใช้บริการที่ชะลอตัวและการจ่ายค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) ที่เพิ่มขึ้นในช่วงกลางปี 2551 บริษัทมีรายได้ในปี 2551 ที่ระดับ 61,265 ล้านบาท ลดลง 0.6% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากผลประกอบการที่อ่อนแอลงของ TrueMove แต่ก็มีแรงสนับสนุนบางส่วนจากการเติบโตของ TrueVisions และ TrueOnline อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ของบริษัทลดลงเล็กน้อยเนื่องจากค่าเชื่อมต่อโครงข่ายที่เพิ่มสูงขึ้น อัตราส่วนเงินกู้สุทธิต่อโครงสร้างเงินทุน ณ สิ้นปี 2551 ยังอยู่ในระดับสูงที่ 92.1% ส่วนอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมยังค่อนข้างคงที่ที่ระดับ 15.6% ทริสเรทติ้งเห็นว่าการใช้จ่ายของภาคอุปโภคบริโภคที่ลดลงจะยังคงกดดันฐานะทางการเงินของ TRUE ต่อไปอีกในช่วงที่เหลือของปี 2552 อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งมองว่าการให้บริการด้านสื่อสารโทรคมนาคมจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลงน้อยกว่าอุตสาหกรรมอื่น ความเสี่ยงจากการกู้ยืมเพื่อชำระหนี้เดิมยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักในระยะปานกลางเนื่องจากสภาวะตลาดสินเชื่อที่ตึงตัวและกระแสเงินสดที่ไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้และการลงทุน อย่างไรก็ตาม กระแสเงินสดของบริษัทที่ค่อนข้างคงที่ ประกอบกับความช่วยเหลือจาก บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (ซีพี) ยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนหลักต่ออันดับเครดิต ทริสเรทติ้งยังคาดหวังว่า TRUE จะพยายามหาทางปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางการเงินเพื่อให้กระแสเงินสดที่ได้รับสอดคล้องกับภาระการชำระคืนหนี้ ทริสเรทติ้งกล่าวถึงอันดับเครดิตของหุ้นกู้ TRUE097A TRUE107A TRUE117A TRUE127A และหุ้นกู้ชุดใหม่ว่าขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือของ TRUE เพียงประการเดียว แต่อันดับเครดิตของหุ้นกู้ TRUE112A ยังมีแรงหนุนจากการค้ำประกันวงเงินกู้บางส่วนจำนวน 50% ของเงินต้นโดย IFC ด้วย โดย IFC เป็นสมาชิกของ World Bank Group ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “AAA” จาก Standard & Poor’s และ “Aaa” จาก Moody’s Investors Service บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE) อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ BBB อันดับเครดิตตราสารหนี้: TRUE112A: หุ้นกู้มีการค้ำประกันบางส่วน 6,750 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2554 คงเดิมที่ A TRUE097A: หุ้นกู้มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2552 คงเดิมที่ BBB TRUE107A: หุ้นกู้มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2553 คงเดิมที่ BBB TRUE117A: หุ้นกู้มีประกัน 2,413 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2554 คงเดิมที่ BBB TRUE127A: หุ้นกู้มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่ BBB หุ้นกู้มีประกันในวงเงินไม่เกิน 7,750 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2557 BBBแนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ