กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
ถึงยุคที่ครอบครัวจำเป็นต้องเรียนรู้เทคโนโลยี เพราะทุกสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ใกล้อนาคต ล้วนต้องประสบ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต การสื่อสารไร้สายและความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีต่างๆ เป็นโลกแห่งอนาคตที่เด็กๆ จะต้องสัมผัสจริงๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ครอบครัวควรจะตระหนักและ ปูพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยี โดยการส่งเสริมและกระตุ้นให้เด็กๆ หันมาใส่ใจเทคโนโลยี และได้มีโอกาสไปสัมผัสโลกแห่งการเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่ง สมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานธุรกิจบริการสื่อสารไร้สายแห่งเอไอเอส ได้กล่าวว่า “เนื่องจากเทคโนโลยีมีบทบาทที่สำคัญในโลกเราในปัจจุบันและอนาคต ทางเอไอเอส ฟิวเจอร์ เวิลด์ จึงได้สรรหาเทคโนโลยีและกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้เด็กและเยาวชน หันมาให้ความสนใจ เช่น กิจกรรมหุ่นยนต์เพื่อนรักกับครอบครัว ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อโลกของเทคโนโลยีเข้ากับชีวิตประจำวัน วันนี้ได้นำเทคโนโลยีมาผสมผสานกับความบันเทิง เพื่อให้เด็กๆ ได้เพลิดเพลินกับการเรียนรู้ โดยให้หุ่นยนต์เป็นตัวแทนเทคโนโลยีในการนำเสนอสิ่งละอันพันละน้อยต่างๆ เปิดโลกทัศน์ให้เยาวชนได้เห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยี ที่จะช่วยสร้างความเจริญและก้าวหน้าให้กับประเทศ และเอไอเอส ฟิวเจอร์ เวิลด์ จะเป็นเวทีแห่งเทคโนโลยีและวิทยาการใหม่ๆ ให้ได้ตื่นเต้น พร้อมสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ กันอย่างต่อเนื่อง”
ภายในกิจกรรมเวิร์คชอป ยังจัดให้เด็กๆ ตื่นตาตื่นใจกับการแสดงสดคอนเสิร์ตหุ่นยนต์ F4 Robot Live in Bangkok ที่ขยับเขยื้อนลีลาการเต้นอย่างน่าดูด้วยการสั่งการทำงานในระบบมือถือ เด็กๆ ได้สร้างสรรค์จินตนาการประดิษฐ์ของเล่นหุ่นยนต์ต่างๆ อาทิ หุ่นยนต์กระดาษ, หุ่นยนต์ร้องเพลง, หุ่นยนต์รีโมท เป็นต้น
เห็นเด็ก ๆ สนุกสนานกับเทคโนโลยีกันแล้ว ลองฟังเสียงคุณพ่อคุณแม่ตอบรับกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อปูพื้นฐานไว้ให้ลูกกันบ้าง
ครอบครัวภาสกรนที นำขบวนมาโดย คุณพ่อตัน คุณแม่สุนิสา และน้องเก็ท-ภาสกรวัย 4 ขวบครึ่ง กล่าวว่า “เด็กๆ ก็เหมือนผ้าขาว อยากให้ลูกเป็นแบบใดก็ใส่สี ใส่สันให้ได้ ด้วยการเลี้ยงดูและอบรมของผู้ปกครองและคุณครู เวลาอยู่บ้าน ลูกก็ชอบเล่นคอมพิวเตอร์ ตอนนี้ยังเล็กอยู่ ก็สอนเรื่องเกมง่ายๆ ให้มีทักษะและชินกับเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นเกมที่ช่วยฝึกฝนสายตา ฝึกมือ ให้คุ้นเคย ถ้าโตขึ้นก็จะค่อยๆสอนโปรแกรมอื่นๆ จะได้เพิ่มทักษะสำหรับการเรียน จริงๆ แล้วที่โรงเรียนนานาชาติ ก็มีการสอนเรื่องเทคโนโลยี จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์อยู่แล้ว พ่อแม่ช่วยจุดประกายความคิดให้อีกเล็กน้อยเท่านั้น แถมทุกวันนี้ ก้าวออกจากบ้านก็เจอเทคโนโลยีใหม่ๆ ทุกวันอยู่แล้ว”
ด้านครอบครัวศรีวิกรม์ นำทีมโดยน้องพิร และน้องทีฆ ที่อาสาเดินนำหน้าจนคุณพ่อพิมล และคุณแม่ตระการตา วิ่งตามไม่ทัน เพราะรู้ว่าจะได้มาพบกับความสนุกสนานในโลกแห่งเทคโนโลยี โดยคุณแม่กล่าวว่า “ลูก ๆ อยากมาร่วมสนุกแบบไม่รอช้า ทุกคนบอกอยากมา ๆ พี่ชายคนโตเนี่ย นักประดิษฐ์เลย ส่วนคนน้องก็ขอทำตามพี่ไปก่อน ของประกอบหรือของประดิษฐ์ที่บ้านเราจะมีเยอะมาก ครอบครัวเราจะมีวันหนึ่งที่เป็นวันประดิษฐ์ พวกเราก็จะมาช่วยกันทำของเล่นต่าง ๆ เช่นของเล่นจากตะเกียบ, ของเล่นจากวัสดุเหลือใช้ ส่วนเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นครอบครัวของเราก็เตรียมรับไว้กับตรงนี้ เพราะเรามองว่า เทคโนโลยีมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เราก็จะแบ่งเวลาให้ลูก ๆ ได้เล่นแบบเอาท์ดอร์บ้าง และก็มาฝึกความคิดกับเทคโนโลยี น้องพิรพี่ชายคนโต จะใช้คอมพิวเตอร์เองได้แล้ว นอกจากนี้เราก็จะหาหนังสือมาให้เขาอ่าน ศึกษาจากตำราด้วย”
ครอบครัวบุญแต่ง ก็ยกครอบครัวดิจิตอล มาตะลุยเอไอเอส ฟิวเจอร์เวิลด์ นำทัพโดยคุณพ่อทรรศิน คุณแม่คนสวยสิปาง น้องเจแปน และน้องเจดี กล่าวว่า “ด้วยชีวิตประจำวันของเรา ลูกๆ ก็ได้เรียนรู้เทคโนโลยีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ น้องเจแปนชอบเล่นเกมคอมพิวเตอร์ เกมสะกดคำต่างๆ ซึ่งช่วยในเรื่องการเรียน เป็นความรู้ที่จะเป็นสมบัติติดตัวที่มีค่าสำหรับลูก หากมีโอกาสที่เรียนคอมพิวเตอร์ด้วยกัน ลูกจะเรียนรู้ได้ไวกว่าตนเสียอีก ช่วงนี้ก็เรียนรู้การเป็นตากล้องให้คุณแม่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปจากโทรศัพท์มือถือ หรือกล้องดิจิตอล ซึ่งโปรดปรานมากนอกจากเรื่องความสวยความงามตามประสาของสาวน้อยวัย 4 ขวบกว่า”
ครอบครัวเศรษฐบุตร นำโดยคุณพ่อสยาม และคุณแม่คริสติน่า พาลูกชายน้องไท วัย 1 ขวบ 7 เดือนร่วมกิจกรรม โดยคุณแม่เปิดเผยว่า “เด็กสมัยนี้เรียนรู้เร็วมาก เมื่อก่อนตอนที่ลูกยังเล็กกว่านี้ เขาสามารถหยิบรีโมทกดปุ่มเปิดแอร์ เปิดทีวีเองได้แล้ว โดยที่เราไม่ได้สอน และคิดว่าถ้าเขาโตกว่านี้จะสอนเรื่องพื้นฐานการใช้คอมพิวเตอร์ให้กับเขา ส่วนที่เหลือก็ให้เขาไปเรียนรู้เอาเอง เพราะกว่าลูกจะโตเทคโนโลยีคงไปไกลมากๆ จนตัวแม่เองเมื่อถึงเวลานั้นก็คงจะตามไม่ทันแล้วเหมือนกัน”
สุกัญญา ทองใหญ่ ณ อยุธยา พาหนุ่มน้อยดิจิตอล น้องแท็ป —ทองประทาศ์ และน้องเทมส์-ทองนที กล่าวว่า “ลูกๆ ยังไม่โตมาก แท็ปอยู่ประถมศึกษาปีที่ 2 ส่วนเทมส์ อยู่อนุบาล 3 ตอนนี้ชอบเล่นเกมคอมพิวเตอร์ สอนให้คุ้นเคยคอมพิวเตอร์ในบ้านก่อน จะได้ไม่กลัวเทคโนโลยีใหม่ๆ ส่วนเกมที่เล่น ตนจะเป็นผู้เลือกให้ จะไม่เลือกเกมต่อสู้ที่เป็นอันตรายต่างๆ เริ่มสอนให้เข้าเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อศึกษาหาข้อมูลบ้างแล้ว ลูกๆ เองก็ชอบเทคโนโลยี เวลาที่สอนเกมใหม่ หรือสอนให้เข้าเว็บไซต์ ก็เอาใจใส่มาก ช่วงปิดเทอมนี้ ก็ใช้เวลานั่งเล่นคอมพิวเตอร์ เท่าๆ กับการเล่นกีฬากลางแจ้งเลยทีเดียว”
เพ็ญสุภา คชเสนี นำลูกสาวคนเก่งน้องหนูนวลผู้ชื่นชอบในความทันสมัยและความงามกล่าวว่า “เทคโนโลยีในปัจจุบันมีบทบาทมาก จำเป็นต้องรู้และต้องใช้ ซึ่งอย่างตอนเราเป็นเด็กมันไม่จำเป็น ที่โรงเรียนลูกสาวจะมีสอนคอมพิวเตอร์ ส่วนตัวแม่เองจะคอยดูแลบ้างว่าเขากำลังเล่น หรือทำอะไร แต่จะยังไม่สอนการค้นหา เพราะคิดว่าเขายังเด็กและเกินตัวไป แต่ตอนนี้เขาสามารถเข้าเว็บไซต์ของโรงเรียนเขา เพื่อเล่นเกม เรียนภาษา โดยที่เราจะช่วยในเรื่องของขั้นพื้นฐานการใช้คอมพิวเตอร์ แต่ส่วนหนึ่งก็ยังไม่ทิ้งที่จะให้เขาอ่านหนังสือและเขียนหนังสือ พยายามให้ลูกเขียนจดหมาย เพราะเด็กปัจจุบันจะส่งอีเมล์กันอย่างเดียวแล้ว เลยอยากที่จะรักษาสิ่งเก่าๆ ที่เด็กในสมัยก่อนเคยทำ ที่ยังคงความมีเสน่ห์ เอาไว้บ้าง”
น้องออมสิน - ธัชธรรม ชาญเลขา จูงมือคุณแม่ จริญญา หาญณรงค์ ร่วมกิจกรรมเวิร์คชอปประดิษฐ์หุ่นยนต์ เพราะว่าตัวเองนั้นชอบการประดิษฐ์ ประกอบหุ่นยนต์ และที่บ้านเอง ก็มีของเล่น ทั้งตัวเลโก้ ตัวต่อ ตัวประกอบต่าง ๆ เยอะมาก น้องออมสินชอบมากถึงขนาดออกปากว่า เก็บสะสมไว้เลย แต่จำนวนเท่าไหร่นั้น เห็นน้องออมสินไล่นิ้วคงไม่หมดแน่ ด้านคุณแม่กล่าวว่า “ของเล่น หรือเทคโนโลยีต่าง ๆ มีส่วนสร้างเสริมสร้างจินตนาการให้กับลูกมาก เราจะให้ลูกศึกษา ทดลองทำด้วยตนเอง อย่างน้องออมสิน เวลาอยู่ที่บ้านกระดาษเปล่า ๆ ก็ทำออกมาเป็นตัวหุ่นยนต์ได้ เราก็ทึ่งในตัวเขา เราจึงสนับสนุนเขาด้วยการแนะนำรายการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี อย่างดิสคัพเวอร์รี และแนะนำให้อ่านหนังสือ ยิ่งถ้ามีงานมาจัดโชว์จัดแสดงก็จะพาลูกไปชม ไปร่วมงานด้วย ให้เขาได้สัมผัสประสบการณ์ด้วยตนเอง”
เตรียมความพร้อมให้กับลูกๆ ในโลกแห่งอนาคต ด้วยการส่งเสริมให้ได้ศึกษาและสัมผัสประสบการณ์จริงอย่างเช่น ที่เอไอเอส ฟิวเจอร์ เวิลด์ ที่จะนำเสนอเทคโนโลยีแห่งอนาคตอย่างต่อเนื่องตลอดปี เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน ที่ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร 0-2434-8300, 0-2434-8547
สุจินดา, แสงนภา, ปนัดดา
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net