กรุงเทพฯ--13 มี.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวของบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เป็น ‘BBB+(tha)’ จากเดิมที่ระดับ ‘A- (tha)’ (A ลบ (tha)) ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของ LH ที่ระดับ ‘F2 (tha)’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ
การปรับลดอันดับเครดิตของ LH สะท้อนถึงผลประกอบการที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปี 2551 อันเป็นผลจากความต้องการซื้อบ้านของผู้บริโภคที่ต่ำลงโดยมีผลจากความตึงเครียดทางด้านการเมือง และการปรับลดอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการที่ฟิทช์ได้ปรับประมาณการรายได้ของบริษัทลงในช่วงปี 2552-2553 ตามแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะถดถอยลง ซึ่งจะส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินของ LH สูงขึ้นในช่วง 18-24 เดือนข้างหน้า และทำให้บริษัทมีความยืดหยุ่นทางการเงินลดลง
LH มียอดขายลดลง 15.7% มาที่ระดับ 1.58 หมื่นล้านบาทในปี 2551 ถึงแม้ว่ากำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า (EBITDAR) ของ LH จะยังคงเพิ่มขึ้น 4% เป็น 3.8 พันล้านบาทในปี 2551 โดยได้รับอานิสงค์จากมาตรการทางภาษีเพื่อกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล แต่ระดับของ EBITAR ดังกล่าวต่ำกว่าที่ฟิทช์ประมาณการไว้มาก นอกจากนี้ด้วยนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่สูงทำให้กระแสเงินสดสุทธิ (Free Cash Flow) ของบริษัทติดลบ ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินที่วัดได้จากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า (Adjusted Net Debt to EBITDAR) เพิ่มสูงขึ้นเป็น 3.8 เท่า ณ สิ้นปี 2551 (ณ สิ้นปี 2550: 3.4 เท่า) ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าเกณฑ์ของอันดับเครดิตเดิมที่ระดับ ‘A- (tha)’ (A ลบ (tha))
จากการที่ฟิทช์ได้ปรับลดตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศไทยในปี 2552 ลงมาที่ระดับ -2.9% โดยเป็นผลจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย ความต้องการที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลน่าจะชะลอตัวลงอย่างมากในปีนี้ รายได้ของ LH น่าจะลดลงในปี 2552 ถึงแม้ว่าปัจจัยบวกต่างๆ อันได้แก่ การลดลงของต้นทุนค่าก่อสร้าง อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ และมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล น่าจะช่วยบรรเทาความเสี่ยงดังกล่าวลงบ้างก็ตาม อัตราส่วนหนี้สินของ LH น่าจะเพิ่มสูงขึ้นอยู่ในช่วง 4.0 ถึง 4.5 เท่า ในปี 2552-2553 จากผลของกำไรที่ลดลงและการที่ LH น่าจะคงนโยบายจ่ายเงินปันผลในระดับสูงที่ 80% อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องทางการเงินของ LH ยังคงอยู่ในระดับที่พอเพียงด้วยเงินสดสุทธิจำนวน 1.2 พันล้านบาทและวงเงินจากสถาบันการเงินภายในประเทศที่ยังสามารถเบิกจ่ายได้อีกจำนวน 2.5 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2551
ปัจจัยบวกที่จะช่วยบรรเทาความเสี่ยงข้างต้นลงได้บ้างประกอบด้วย การที่ LH สามารถชิงส่วนแบ่งทางการตลาดจากผู้ประกอบการบ้านเดี่ยวรายเล็กและการที่ LH มีแผนการซื้อที่ดินและขยายโครงการใหม่ที่ไม่สูงมากนัก อีกทั้งบริษัทยังมีการถือสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงซึ่งสามารถช่วยเสริมสภาพคล่องได้ นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังมีปัจจัยสนับสนุนจากทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ของ LH
แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพสะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้นำในการประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย ชื่อเสียงอันแข็งแกร่ง รวมถึงปัจจัยบวกที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ซึ่งน่าจะทำให้ LH สามารถรักษาสภาพคล่องและความยืดหยุ่นทางการเงินให้อยู่ในอันดับเครดิต ณ ปัจจุบันได้ในระยะปานกลาง ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและอัตราส่วนหนี้สินในระดับต่ำกว่า 3.0 เท่าจะเป็นปัจจัยบวกที่อาจทำให้มีการปรับเพิ่มอันดับเครดิต ในทางตรงกันข้ามผลการดำเนินงานและสภาพคล่องที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์และระดับหนี้สินสุทธิที่สูงกว่าที่ประมาณการไว้ซึ่งเป็นผลจากการจ่ายเงินปันผลที่สูงกว่าที่คาดและการเพิ่มทุนใหม่ในบริษัทร่วมอย่างมีนัยสำคัญอาจส่งผลในทางลบต่ออันดับเครดิตได้
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ติดต่อ: วสันต์ ผลเจริญ, สมฤดี ไชยวรรัตน์, Vincent Milton, + 662 655 4755
คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฎข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน