ตลาดหลักทรัพย์ฯ เชื่อมั่นการผ่อนคลายมาตรการสกัดการเก็งกำไรค่าเงินบาทของ ธปท.สำหรับเงินลงทุนในตลาดหุ้นส่งผลดีต่อตลาดทุน

ข่าวทั่วไป Wednesday December 20, 2006 10:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--ตลท.
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการประชุมครั้งพิเศษวันที่ 20 ธันวาคม 2549 ได้รับทราบถึงผลกระทบจากการใช้มาตรการป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ไทยกันเงินสำรองร้อยละ 30 ของเงินทุนที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งส่งผลให้การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2549 ได้รับผลกระทบอย่างมาก อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังได้มีการยกเลิกมาตรการควบคุมการเก็งกำไรค่าเงินบาทสำหรับเงินทุนที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเงินทุนที่นำมาลงทุนโดยตรงหรือ Foreign Direct Investment และให้มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทำให้นักลงทุนต่างชาติคลายความกังวลและกลับเข้ามาลงทุนในตลาดทุน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการลงทุนในตลาดทุนอย่างแน่นอน
“คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นว่าถึงแม้จะมีการขายของนักลงทุนต่างประเทศกว่า 25,000 ล้านบาทแต่ปรากฏว่ามีนักลงทุนในประเทศได้เข้ามาลงทุนเป็นการซื้อสุทธิถึงกว่า 28,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่านักลงทุนในประเทศยังมีความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทย นอกจากนี้การใช้ระบบ Circuit breaker ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่สามารถทำงานได้อย่างไม่มีปัญหา” นางภัทรียากล่าว
นอกจากนี้ คณะกรรมการ เห็นว่าการที่สำนักงานก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทหลักทรัพย์ ได้เข้าไปร่วมกันให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และขอให้มีการพิจารณาทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อตลาดทุนโดยตรง
ทั้งนี้ นางภัทรียาได้รายงานต่อคณะกรรมการฯ ว่า เมื่อวานนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทหลักทรัพย์ ได้ร่วมประชุมกันเพื่อนำเสนอแนวทางที่จะแยกบัญชีและเงินลงทุนของผู้ลงทุนต่างประเทศที่นำเงินมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะมีผลให้ธนาคารแห่งประเทศไทย สามารถทราบประเภทเงินที่นำเข้ามาลงทุนในประเทศได้
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทหลักทรัพย์ ได้ให้คำยืนยันที่จะทำการแยกบัญชีการซื้อขายของผู้ลงทุนต่างประเทศที่ไม่ได้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยหรือ Non-resident และรายงานให้ธปท.ทราบทุกสัปดาห์ โดยจะครอบคลุมทั้งการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตลาดอนุพันธ์ และเงินลงทุนใน IPO หรือการซื้อหุ้นที่มีการเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก โดยบริษัทหลักทรัพย์จะแยกบัญชีของผู้ลงทุนต่างประเทศ และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
“เชื่อมั่นว่าการยกเลิกการกันเงินสำรองร้อยละ 30 สำหรับเงินที่นำมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจและกลับเข้ามาลงทุนในตลาดทุนไทยอย่างแน่นอน และขอย้ำให้นักลงทุนเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานในระบบเศรษฐกิจของไทย และที่สำคัญคือปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยที่ยังให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน” นางภัทรียากล่าว
สำหรับดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดที่ระดับ 622.14 ลดลง 108.41 หรือร้อยละ14.84 มูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์รวม 72,132 ล้านบาท สำหรับมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ณ วันที่ 19 ธ.ค. 2549 อยู่ที่ระดับ 4.6 ล้านล้านบาท ลดลง 8 แสนล้านบาทหรือร้อยละ 15 จาก 5.4 ล้านล้านบาทจากวันก่อน ส่วนตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ปิดตลาดที่ระดับ 177.79 ลดลง 20.99 จุดหรือร้อยละ 10.56 มูลค่าการซื้อขายรวม 267.71 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 25,124.97 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 28,029.89 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องหยุดการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เป็นเวลา 30 นาที (Circuit Breaker) เนื่องจากดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ลดลงต่ำกว่าร้อยละ 10 ณ ระดับดัชนีที่ 656.49 ลดลงจากวันก่อน 74.06 จุดหรือลดลงร้อยละ 10.14
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 / กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049 / วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ