KTAM ลุยตราสารการเงินเกาหลีใต้ ลงทุน12เดือนรับผลตอบแทน4.75%

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 17, 2009 07:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--บลจ.กรุงไทย นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่าย กองทุนรวมกรุงไทยตราสารภาครัฐต่างประเทศ 12 เดือน 4 (KTGF12M4 ) ในระหว่างวันที่ 17-23 มีนาคม 2552 อายุโครงการ 1 ปี มูลค่า 3,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในตราสารการเงินในประเทศเกาหลีใต้ ประเภท Euro Commercial Paper (ECP) /Euro Medium Term Note (EMTN) ที่ออกโดยสถาบันการเงินภาครัฐของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นตราสารที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นในอันดับสูงสุด คือ A1 โดย S&P และ F1 โดย Fitch โดยกองทุนจะลงทุนใน Export - Import Bank of Korea และ Korea Development Bank ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 50 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่งผลให้กองทุนได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 4.75 %ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนที่หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแล้ว รวมถึง เงินลงทุนจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน จึง เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่า การลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ที่มีระดับความเสี่ยงใกล้เคียงกัน นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า สถาบันการเงินทั้ง 2 แห่ง ที่กองทุนลงทุนจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะ เป็นกลไกที่สำคัญของรัฐบาลเกาหลีใต้ในการดำเนินนโยบายต่างๆ ( Policy Bank ) โดยปัจจุบันรัฐบาลเกาหลีใต้ถือหุ้นใน Export - Import Bank of Korea และ Korea Development Bank ทั้ง100% นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปิดซื้อขายหน่วยลงทุนกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 3 เดือน 3 (KTSIV3M3) ประเภท Roll Over โดยรับคำสั่งซื้อหน่วยลงทุนในวันที่ 16-20 มีนาคม 2552 และรับคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนในวันที่ 16-19 มีนาคม 2552 เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนภายในประเทศ ที่มีความมั่นคงสูง และเงินฝากสถาบันการเงิน อายุโครงการ3 เดือน มูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยกองทุนจะลงทุนในเงินฝาก /บัตรเงินฝาก/ตั๋วแลกเงิน ของธนาคารสินเอเชีย และ ลงทุนในหุ้นกู้ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ในสัดส่วนสถาบันละ 25% ลงทุนในตั๋วแลกเงินของบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม และบมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น ในสัดส่วนสถาบันละ 25% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ส่งผลให้กองทุนได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 1.35% ต่อปี นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาครัฐในประเทศรุ่นอายุไม่เกิน 1 ปี ยังแกว่งตัวอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากคาดการณ์ว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสปรับลดลงอีก ขณะที่ความต้องการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้นยังมีอยู่สูงจากทั้งฝั่งกองทุนรวมและธนาคาร โดยล่าสุด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ในช่วง 1.05-1.12% ตามลำดับ สำหรับผลตอบแทนจากการลงทุนตราสารภาคเอกชนในประเทศจะขึ้นอยู่กับความมั่นคงทางการเงิน การคาดการณ์กระแสเงินสดของกิจการ และอันดับความน่าเชื่อถือ โดยอัตราผลตอบแทนของผู้ออกตราสารหลายแห่งยังคงอยู่ในระดับสูงโดยได้สะท้อนถึงความเสี่ยงด้านเครดิต (Down Grade and Default Risk) ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 0-2670-4900 ต่อ 1235

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ