กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--ก.ไอซีที
นายอังสุมาล ศุนาลัย รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือสำหรับการทดสอบ CA-CA Interoperability ระหว่างประเทศไทยและสิงคโปร์ ในโครงการ CA-CA Interoperability Project ภายใต้งบประมาณสนับสนุนจาก ASEAN ICT Fund ว่า “กระทรวงฯ ได้ร่วมกับสำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐ (สบทร.) ดำเนินโครงการนี้ โดยประสานกับหน่วยงานของสิงคโปร์ชื่อ Infocomm Development Authority of Singapore (IDA) ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลการให้บริการออกใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ และ Netrust ซึ่งเป็น CA รายเดียวของสิงคโปร์ และมีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยี PKI ทั้งนี้ สิงคโปร์ถือได้ว่าเป็นประเทศแรกในทวีปเอเชียที่มีการจัดตั้งระบบ CA มีการศึกษาวิจัยด้านเทคโนโลยี PKI มาเป็นระยะเวลานาน รวมทั้งมีโครงสร้าง Trust Model (การมอบความไว้วางใจ) ที่ชัดเจน และมีการติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์กับประเทศไทยเป็นจำนวนมาก จึงได้เลือกประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่ 2 ในการทดสอบ CA-CA Interoperability ต่อจากประเทศไต้หวัน
ผลการทดสอบที่จะเกิดขึ้นนี้จะนำไปใช้เป็นกรอบแนวทางในการสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง CA ในภูมิภาค ASEAN ให้สามารถทำงานระหว่างกันได้ ตลอดจนทำให้ผู้ใช้บริการใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ สามารถติดต่อสื่อสารระหว่างกันได้อย่างมั่นคงปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อันจะส่งผลดีต่อการเพิ่มมูลค่าของธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างประเทศต่อไปในอนาคต” นายอังสุมาล กล่าว
สำหรับการจัดตั้ง National Root CA (NRCA) โดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารนี้ นอกจากจะเป็นศูนย์กลางในการมอบความไว้วางใจ (Trust) ของผู้ให้บริการ (CA) ในประเทศแล้ว NRCA ยังทำหน้าที่เชื่อมโยงไปยังผู้ให้บริการในต่างประเทศ (Cross-border CA-CA Interoperability) เพื่อทำให้เกิดความเชื่อมั่นและลดความยุ่งยากซับซ้อนในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในกรณีที่ผู้ให้บริการ (CA) แต่ละรายต้องไปทำการ Interoperate กับต่างประเทศเองในลักษณะต่างคนต่างทำ
National Root CA จึงถือได้ว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐานและเป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมโยงระบบลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่มีการใช้งานในประเทศ ให้สามารถยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการได้ แม้ว่าจะใช้บริการจากผู้ให้บริการใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (CA) ต่างรายกัน ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นคงปลอดภัยและความน่าเชื่อถือในการรับส่งข้อมูล รวมทั้งยังเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ในการลดกระดาษ อันจะนำไปสู่ระบบ Paperless ได้ในอนาคต
ปัจจุบันประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน ได้มีการจัดตั้งผู้ให้บริการออกใบรับรอง (CA) ขึ้นหลายราย ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้งานภายใต้ผู้ให้บริการต่างรายกันประสบปัญหาการทำงานร่วมกันระหว่างระบบ (Interoperability) ส่งผลให้ภาระตกอยู่กับผู้ใช้บริการ โดยหากมีการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างประเทศเกิดขึ้นแล้ว ผู้ใช้บริการจะต้องให้การยอมรับผู้ให้บริการจากประเทศอื่นๆ เอง ซึ่งอาจจะไม่เป็นที่รู้จักและเกิดความเชื่อมั่นได้ ซึ่งส่งผลให้การทำธุรกรรมระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนอาจจะไม่เติบโตและแพร่หลายเท่าที่ควร
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งเป็นภาคีหนึ่งในกลุ่มประเทศอาเซียน ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นประเทศเจ้าภาพในการดำเนินโครงการ CA-CA Interoperability Project โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก ASEAN ICT Fund เพื่อสร้างแนวทางในการทำ CA-CA Interoperability ให้กับผู้ให้บริการ CA ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะส่งผลให้ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์จากผู้ให้บริการ CA ในภูมิภาคอาเซียนสามารถทำงานร่วมกันได้ อันจะส่งผลดีต่อการติดต่อสื่อสารและการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ภายในภูมิภาคอาเซียนต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 568 2453 ทวิติยา