กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--สหมงคลฟิล์ม
ผีตัวไหนๆ ก็ต้องหลบไปให้ไกล เมื่อความเสียวไส้ฉบับ “ผีบุปผา” ผีสาวตัวแม่ของ “พลอย เฌอมาลย์” กำลังจะกลับมาสั่นประสาทหวาดผวาจนคุณต้องขนหัวลุกไปอีกครั้ง คราวนี้ผีบุปผาจะมาในโหมด “สวยขึ้น สาวขึ้น โหดขึ้น สยองขึ้น” เข้าสู่นิยาม “สวยสยองยกกำลัง 3” ใน “บุปผาราตรี 3” 9 เมษานี้ เลือดสาดรับสงกรานต์ ทุกโรงภาพยนตร์
พลอยกลับมารับบท “บุปผา” เป็นครั้งที่ 3 แล้ว เป็นยังไงบ้าง
ครั้งนี้บุปผาก็จะเปลี่ยนไปจาก 2 ภาคแรกค่อนข้างเยอะนะคะ เพราะอย่างภาคแรก บุปผาเค้าจะเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นว่าทำไมต้องมาหลอกหลอนอะไรอย่างนี้ บุปผาก็จะโดนกระทำไว้ซะเยอะนะคะ พอกลับมาภาคนี้ก็จะโหดร้ายมากขึ้น มีความแค้น ความอาฆาต ความดุดันมากขึ้น แต่หนังเรื่องนี้ก็ยังคงความตลกเหมือนเดิม มุขที่แบบว่าเสียดสีเรื่องราวอัพเดทของประเทศไทยก็ยังมีอยู่ แล้วที่มีเพิ่มเข้ามาก็คือมีเรื่องความรักโรแมนติกเข้ามาด้วย
รูปลักษณ์ภายนอกของตัวบุปผาเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้าง ได้ข่าวว่าขอสวยมากขึ้นด้วย
ก็ขอสวยไว้ก่อนค่ะ (หัวเราะ) ด้วยความที่พลอยคุยกับพี่ต้อมว่าม้าเต่อมาในภาคแรกแล้ว พอภาคสองก็เป็นผมบ๊อบนะคะ ภาคสามนี้พลอยผมยาวพอดี ก็เลยเสนอพี่ต้อมว่าผมยาวแล้วมันก็ดูจิตๆ เหมือนกันนะ เวลาผมยุ่งๆ ยีให้ฟูๆ มันก็จะดูโหดดี แล้วก็ Request ขอปัดขนตาด้วยค่ะ (หัวเราะ) มีปัดขนตาให้ตาเป็นประกายปิ๊งมากขึ้น ก็ขอนิดนึง ผมก็จะเป็นผมยาว ตอนแรกพี่ต้อมจะจับใส่วิก แต่พลอยคิดว่าน่าจะเปลี่ยนเป็นผมยาวมันจะได้ดูน่ากลัวๆ หน่อย เวลาอาละวาดฟันคน ผมก็จะกระจุยกระจายแบบดูโหดดีค่ะ เพราะว่าเวลาพลอยใส่วิกผมบ๊อบแล้วมันจะน่ารักไป มันดูเหมือนตัวการ์ตูนอากิโกะน่ะค่ะ
พลอยรู้สึกว่าบุปผานี่มันต้องมี Sex Appeal นิดนึงนะคะ ถึงจะน่าดึงดูด น่าสนใจนะคะ ด้วยความที่มันก็ดูจิตๆ อยู่แล้ว ก็เลยขอให้ดูสวยขึ้นมานิดนึง แต่ก็ยังมีเวอร์ชั่นที่ต้องแต่งเอฟเฟ็คต์ปากฉีกกรามฉีกห้อยลงมาครึ่งหนึ่งเลย หน้าก็จะเป็นรอยเขียวๆ ช้ำๆ อยู่ดีนะคะ ภาคนี้ยิ่งสวยขึ้นก็จะยิ่งโหดเฮี้ยนมากขึ้น มีความอาฆาตแค้นมากขึ้นหลายเท่าเลยค่ะ
บุปผาได้เปลี่ยนคู่ใหม่ด้วยในภาค 3 นี้
ใช่ค่ะ ก็คือก่อนหน้านี้ภาคแรกก็จะเป็นพี่กฤษณ์ (ศรีภูมิเศรษฐ์) ใช่มั้ยคะ ภาคสองก็ยังเป็นพี่กฤษณ์อยู่ แต่ก็จะมีดารามาเพิ่มขึ้นคือคุณเมย์ พิชญ์นาฏ และภาคใหม่นี้เราก็อยากให้มีความหลากหลาย มีความแตกต่างมากขึ้น มีนักแสดงใหม่มาร่วมแสดงด้วยก็คือ “มาริโอ้ เมาเร่อ” ก็คือคุยกับพี่ต้อม เค้าก็บอกว่า ต่อไปนี้บุปผาทุกๆ ภาคต่อไปเนี่ย ตัวเมนหลักก็คือพลอยใช่มั้ยคะ แต่จะมีนักแสดงที่จะมาแสดงร่วมกับพลอยหน้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็จะได้ดูน่าสนใจมากขึ้นด้วยค่ะ
ร่วมงานกับมาริโอ้เป็นไงบ้าง หลังจากเรื่องที่แล้วเป็นพี่น้องกัน มาเรื่องนี้กลายเป็นคนรักกันแล้ว
กับโอ้เอง ก็เคยได้ร่วมงานกันครั้งแรกในเรื่อง “รักแห่งสยาม” แล้วก็ได้พูดคุยติดต่อกันมาเรื่อยๆ นะคะ ก็เป็นน้องรักกันเลย เพราะโอ้เป็นเด็กที่นิสัยดี มีอะไรก็ปรึกษากันตลอด ก็ไม่คาดไม่ฝันเหมือนกันค่ะว่า จะได้มาทำงานกับโอ้ใน “บุปผาราตรี” ซึ่งถือว่าเป็นหนังภาคต่อที่คลาสสิกมากๆ ไปแล้วนะคะ ถ้าพูดถึงหนังผีไทยก็ต้อง “บุปผาราตรี” อะไรอย่างนี้ค่ะ พอได้น้องมาแสดงด้วยกันแล้วเนี่ย ก็ดีใจที่ได้ร่วมงานกับเค้าอีกครั้งนึง รู้สึกสบายใจที่ได้แสดงกับนักแสดงหน้าใหม่ แล้วก็มีคุณภาพ แล้วก็เก่ง แล้วก็เป็นน้องชายเราเองด้วย
ดีใจที่จะได้ฟันหน้าโอ้ด้วยหรือเปล่า
ฟันหน้าโอ้ (หัวเราะ) เรื่องนี้ไม่ว่าฉากฟันหน้าฟันตัวหรืออะไรก็ไม่เท่าไหร่นะคะ โหดสะใจดีค่ะ แต่จะมาเขินไอ้ฉาก CPR นี่แหละ คือจะมีฉากหนึ่งที่แบบว่าต้องผายปอดโอ้ เราก็จะเขินมาก เพราะไม่เคยได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้มาก่อน ก็เขิน แต่ว่าฉากนั้นก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ ทุกคนไม่แกล้งพลอยก็โอเค แต่ก็หลายเทคอยู่ค่ะ พลอยก็ไม่รู้ว่าโอ้เขินหรือเปล่า เพราะโอ้เค้าเป็นคนโมโนโทนอยู่แล้ว ดูนิ่งๆ อยู่แล้ว เป็นครั้งแรกที่เราได้ใกล้ชิดกับน้องเค้า แล้วปกติพลอยไม่ค่อยได้แสดงฉากใกล้ชิดๆ อย่างนี้กับใครเท่าไหร่ค่ะ
ความโหดสยองมากขึ้นของบุปผา เป็นยังไงบ้าง
คือปกติบุปผาจะไม่ฆ่าคนนะคะ จะโผล่มาหลอกแล้วก็ตกใจ ก็จะเป็นแนวนี้มากกว่า คือภาคแรกมันจะไม่โหดใช่มั้ยคะ พอภาคที่สองก็จะเริ่มโหด เพราะพี่กฤษณ์มีชู้ก็เลยเอาด้ายกระสอบเย็บปาก อ๋อ นอกใจใช่มั้ย โหดมากขึ้นก็มีเลื่อยคงเลื่อยขา แต่ภาคใหม่นี้จะเริ่มฆ่าคนแล้ว เพราะบุปผามีความแค้นมากขึ้น มีความโหดร้ายมากขึ้นจากการที่โดนกระทำมาตลอด ภาคนี้เลยมาขอเอาคืนบ้างค่ะ
พูดถึงเรื่องอาวุธนะคะ ภาคแรกก็จะเป็นเลื่อย ภาคสองก็จะเป็นเข็มเย็บกระสอบ พอมาภาคสามก็จะเป็นมีดโกนค่ะ เป็นมีดโกนหนวดที่ใช้ในร้านตัดผม จะใช้ปาดคอ เชือดคออย่างเดียวเลยค่ะ ภาคนี้จะโหดมากฆ่ายับเลยค่ะ เหมือนดวงวิญญาณเค้าโหดร้ายมากขึ้นน่ะค่ะ แต่จะโหดร้ายโดยที่เค้าไม่ได้อยากจะเป็น หรอกนะคะ
ดูๆ ไปตัวบุปผาก็จะเป็นเหมือนฮีโร่หญิงที่พร้อมจะจัดการกับคนเลวๆ ได้เสมอ
ก็ดีนะคะ คนเลวต้องถูกจัดการ เราเก็บไว้ไม่ได้ (หัวเราะ) แต่พลอยรู้สึกว่า บุปผาเป็นคาแร็คเตอร์ที่เหมือนกับเป็นอมตะไปแล้ว ก็ตั้งแต่ภาคแรกมาภาคนี้ก็ 6 ปีไปแล้ว แล้วก็ประสบความสำเร็จทุกภาค แล้วผีบุปผานี่มีคาแร็คเตอร์ที่ชัดเจนมากๆ ด้วย สำหรับพลอยเองนะคะ ย้อนไปตั้งแต่ภาคแรก ครั้งแรกที่ได้อ่านก็ปฏิเสธไปด้วยซ้ำ เพราะไม่อยากเล่นหนังผีเพราะว่ายุคนั้นหนังผีเริ่มเกร่อแล้วเอะอะอะไรก็หนังผีๆ แต่เราก็ได้ให้โอกาสตัวเองที่จะเข้าไปหาพี่ต้อม ได้อ่านบท ได้พูดคุยกัน ก็รู้สึกหลงรักในตัวของบุปผาทันทีเลย ชอบแนวคิด แนวการทำงานของพี่เค้า แล้วก็ชอบคาแร็คเตอร์ของบุปผามาก เป็นผีที่มีเสน่ห์ ไม่ใช่เอะอะอะไรก็
อาละวาด แต่มีคาแร็คเตอร์ที่ชัดเจนมาก ก็ดีใจมาจนถึงทุกวันนี้ว่า เลือกไม่ผิดจริงๆ เพราะเป็นบทที่ดีมากๆ ก็ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ค่ะ
ภาคนี้โหดสุดๆ แล้วก็ยังมีความโรแมนติกสุดๆ อีกด้วย
อ๋อ ใช่ค่ะ นอกจากภาคนี้ที่พลอยบอกไปแล้วว่าจะมีทั้งความสนุกสนานและก็น่ากลัวแล้วเนี่ย ก็ยังมีอีกพาร์ทหนึ่งที่ชัดเจนมากขึ้นด้วยก็คือ ความรักความโรแมนติกของตัวหรั่งที่แอบรักบุปผา และความรู้สึกของบุปผาที่มีให้กับหรั่ง มันจะมีให้เห็นมากขึ้น ก็ซึ้งเลยทีเดียว เพราะในเรื่องบุปผาจะต้องฆ่าโอ้ แต่ว่าก็ไม่ได้อยากจะทำอะไรอย่างนี้
กลับมาร่วมงานกับพี่ต้อมอีกครั้งหนึ่งเป็นยังไงบ้าง
กับพี่ต้อมเนี่ยจะสนิทกันมากเลยนะคะ เหมือนเป็นคู่บุญแล้วก็คู่ใจในการทำงานไปแล้ว เป็นพี่ที่น่ารัก คอยให้คำปรึกษาที่ดีตลอด กลับมาร่วมงานกับเค้านี่คือ พลอยดีใจนะ พลอยรู้สึกสบายใจ รู้สึกแฮปปี้ทุกครั้ง รู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่จะได้ทำงานกับเค้า ทุกวันที่ตื่นมาคือรู้สึกว่าวันนี้ฉันมีความหมายจังเลย ฉันได้เจอทีมงานทีมเดิมที่เรารัก ที่เราคุ้นเคย อยู่ด้วยแล้วมีความสุข ทำงานแล้วแบบเป็นเพื่อนอะไรอย่างงี้ พลอยค่อนข้างมั่นใจในผลงานพี่ต้อมนะว่า งานครั้งนี้จะต้องออกมาดูดีอย่างแน่นอน
กลับไปเยือนออสการ์อพาร์ตเม้นต์อีกครั้ง เป็นยังไงบ้าง รำลึกความหลังให้ฟังหน่อย
รู้สึกว่าที่นี่เป็นที่ของพลอยมากเลยนะ เป็นที่ของเราเหล่านักแสดง ทีมงานมหาการทุกคนนะคะ กลับไปครั้งนี้ออสการ์อพาร์ตเม้นต์ของเราไฮโซขึ้นมากเลยค่ะ เค้าทาสีใหม่ แล้วเค้าก็มีป้ายออสการ์อพาร์ตเม้นต์ด้วย หลังจากพวกเราไปถ่ายทำปุ๊บก็มีทีมโฆษณา ทีมมิวสิควิดีโอ ทีมละครไปถ่ายที่นั่นกันเพียบ พวกเราเป็นรุ่นบุกเบิกเลยค่ะ จริงๆ จะว่าไป ออสการ์อพาร์ตเม้นต์ก็เป็นสัญลักษณ์ของ “บุปผาราตรี” ไปแล้ว เป็นสตูดิโอของพวกเรา แล้วก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไทย เพราะทุกคนก็จะถามว่าออสการ์อพาร์ตเม้นต์อยู่ที่ไหน อ๋อนี่ไงหนัง “บุปผาราตรี” อะไรอย่างนี้นะคะ
พูดถึงความน่าสนใจของภาค 3 นี้ ผู้ชมจะได้รับความสนุก+สยองยกกำลัง 3 กันเลยใช่มั้ย
ความน่าสนใจของบุปผาภาค 3 พลอยว่าน่าสนใจมากเลยนะคะ บุปผาราตรีกลับมาครั้งนี้ เราจะมีความสนุกมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นมุขตลก มุขอัพเดทมากๆ หรือมุขที่เกิดขึ้นในยุคสมัยนี้ พี่ต้อมก็จะเอามากัดมาเหน็บให้เราได้ขำกันนะคะ แล้วก็ความน่ากลัวก็จะน่ากลัวมากขึ้น แล้วก็ไม่ใช่เป็นแบบการ์ตูน แต่ว่าความเป็นตะลึงตึงโป๊ะตกใจมันก็ยังมีอยู่ ความขำยังมีอยู่ แต่ว่าความน่ากลัวจะเพิ่มมากขึ้น โหดมากขึ้น ดูไปแล้วก็ต้องคิดกันว่า บุปผานี่มันโหดจังเลยอ่ะ น่ากลัวมากกว่าเดิม ทุกคนต้องกลัวบุปผา แต่ว่าความตลกความสนุกสนานก็จะมีเหมือนเดิม มีมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
ทุกคนก็รอคอยกันมานานแสนนานแล้ว 4 ปีเต็มๆ จากภาค 2 นะคะ รับรองภาคนี้สนุกสนานมีครบทุกรสเลย ไม่ว่าจะเป็นความน่ากลัว สยดสยอง หรือว่าความตลก หรือว่าเรื่องราวเกี่ยวกับความรักนะคะ ก็อยากให้มาดูกัน เพราะภาคนี้พลอยพูดได้เลยว่า แตกต่างจากภาคที่ผ่านมา แล้วก็ครบรส มีนักแสดงมากหน้าหลายตาเพิ่มขึ้นด้วย รวมทั้งยังได้มาริโอ้มาร่วมแสดงด้วย รับรองเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอนค่ะ
คาดหวังกับเรื่องนี้ยังไงบ้าง
จริงๆ พลอยเป็นคนไม่ค่อยคาดหวังอะไรนะคะ แต่จากที่พลอยทำงานแล้ว อ่านบทแล้วเราได้แสดง แล้วเราก็ได้เห็นการทำงาน การวางแผนของทีมงานแล้ว พลอยว่าเรื่องนี้น่าจะออกมาประสบความสำเร็จพอสมควร แต่ว่าพลอยก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเป็นยังไง แต่พลอยเชื่อว่า “บุปผาราตรี 3” ที่หลายคนรอคอยมาหลายปีแล้ว แล้วก็ถามอยู่ตลอดว่า เมื่อไหร่จะมีภาค 3 มันหายไปนานแล้วนะ พลอยว่ากลับมาครั้งนี้ต้องไม่ธรรมดาและไม่ทำให้ทุกคนเสียใจอย่างแน่นอนค่ะ
และพลอยก็เชื่อว่าจะมีภาคต่อๆ ไป เพราะว่าอย่างที่บอก มันเป็นหนังที่ต้องมีต่อ ภาคสามอย่างเดียวไม่ได้แล้ว มันต้องมีภาค 4-5-6-7 ต่อไปจนกว่าจะแก่ (หัวเราะ) คือบ้านผีปอบมีคู่แข่งแล้ว ใช่เลยค่ะ แล้วก็ความสนุกสนานก็จะมีเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีนักแสดงมาแสดงกับเราใหม่เรื่อยๆ เลยค่ะ รับรองได้สนุกกันยาวแน่นอนค่ะ