กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
อาวียองซ์ แบรนด์ความงามระดับพรีเมี่ยมของยูนิลีเวอร์ ยันขายตรงไปได้สวย สวนทางเศรษฐกิจปีวัวแกร่ง หวังต่อยอดกลยุทธ์เดิมยังเวิร์ค รุกเปิดช็อปต่างจังหวัด เพิ่มความสะดวกซื้อ คาดสิ้นปีขยายครบ 50 แห่ง ลุยอัดโปรโมชั่นทุกเดือน และสินค้าใหม่ทุกไตรมาส เตรียมรุกอาหารเสริมลดน้ำหนักไตรมาส 2 พร้อมเสนออินเซนทีฟจูงใจผู้ร่วมธุรกิจ ภายใต้แนวคิดสินค้าคุณภาพผ่านคนคุณภาพ ตั้งเป้าฝ่าวิกฤตเติบโต 15 % จากปีที่แล้วเติบโต 26%
นางสุชาดา ธีรวชิรกุล กรรมการผู้จัดการ ภาคธุรกิจผลิตภัณฑ์ชั้นสูง บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า “แม้ธุรกิจขายตรงจะได้รับผลกระทบน้อย และยังสามารถเติบโตต่อเนื่องในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่บริษัทยังคงผลักดันให้มีการวางแผนเตรียมความพร้อม ติดตามผลงานอย่างใกล้ชิด โดยหลักๆ ยังยึดกลยุทธ์หลักเดิมมาต่อยอด เช่น มัลติ แชนแนล บิสซิเนส โซลูชั่นส์ (Multi-Channel Business Solutions) หรือ MCBS เน้นการสร้างธุรกิจตามความถนัด 4 รูปแบบ คือ แบบแนะนำโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งได้เปรียบในช่วงสภาพเศรษฐกิจที่คนไม่ออกไปจับจ่ายใช้สอย แต่ขายตรงยังสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ เหมาะกับผู้ที่สนใจโอกาสใหม่ทางธุรกิจไว้เป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลักในอนาคต ซึ่งบริษัทมีการจัดสัมมนาให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง เช่น งานสัมมนา Change เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส แนะนำการรับมือเศรษฐกิจขาลง แผนรองรับการตกงานด้วยอาชีพอิสระ จากวิทยากรชั้นนำที่เริ่มในปีนี้เป็นประจำทุกเดือนและจัดใหญ่ไตรมาสละครั้ง หรือร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนในการเข้าไปสอนอาชีพเพื่อรองรับคนตกงานในสภาพวิกฤตเศรษฐกิจ , แบบที่สองแนะนำผลิตภัณฑ์ เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจในตัวสินค้า เมื่อได้ลองใช้แล้วชอบในคุณภาพ อยากได้ความรู้ด้านความงาม บริษัทก็จะเป็นผู้อบรมความรู้ให้ จนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความงามหรือที่เรียกว่า Skin Pro Advice ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้อาวียองซ์แตกต่างด้วยคนนำเสนอที่มีความรู้ , ต่อมาเป็นแบบการเป็นเจ้าของช็อป เหมาะกับผู้ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ ปัจจุบันมีสาขาประมาณ 30 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเป็นจุดที่เริ่มแข็งแกร่ง และกำลังได้รับความสนใจ คาดว่าสิ้นปีจะเปิดได้ครบ 50 แห่ง โดยเน้นที่ต่างจังหวัดเป็นหลัก เนื่องจากในกรุงเทพมีเพียงพอประมาณ 10 แห่งแล้ว โดยผู้ร่วมธุรกิจเป็นผู้ลงทุนเองใช้งบทั้งหมดราว 2-3 ล้านบาท และบริษัทจะสนับสนุนเรื่องการโปรโมท โปรโมชั่นต่างๆ
โดยเจ้าของช็อปจะได้ค่าบริหารจากยอดขายของช็อปประมาณ 6-8 % และค่าคอมมิชชั่นตามปกติ ทั้งนี้ บริษัทมีการคัดเลือกผู้ที่จะเปิดช็อปอย่างละเอียดทั้งด้านควาพร้อมด้านการเงิน เครือข่าย ทำเลที่ตั้ง รวมถึงทัศนติ , แบบสุดท้ายเป็นการผ่านทางอินเตอร์เนต เพื่อเพิ่มความสะดวกแก่ผู้ร่วมธุรกิจที่ไม่สะดวกเดินทางก็สามารถทำธุรกิจผ่านระบบอินเตอร์เนตได้ทั้งหมด”
“นอกจากนี้ อาวียองซ์ยังเดินหน้ากระตุ้นตลาดตั้งแต่ต้นปีทั้งกับผู้บริโภคและผู้ร่วมธุรกิจ ได้แก่ เน้นการออกสินค้าใหม่ทุกไตรมาส ที่ผ่านมาออกแชมพูและคอนดิชันเนอร์สูตรไมโครครีมตั้งแต่ต้นปี และไตรมาส 2 นี้เตรียมเปิดตัวกลุ่มอาหารเสริมลดน้ำหนัก โดยมีสัดส่วนยอดขายสกินแคร์มาเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 60% รองลงมาเป็นกลุ่มอาหารเสริม 20% และอื่นๆ 20% อีกทั้งทุกเดือนยังเสริมโปรโมชั่นที่แตกต่างกันไป เพื่อให้เกิดความน่าสนใจและช่วยผู้ร่วมธุรกิจในการขายได้ง่ายขึ้นด้วย โดยบริษัทได้เปิดตัวรางวัล ทริปท่องเที่ยวอเมริกาแก่ผู้ร่วมธุรกิจที่ทำยอดถึงเป้า เพื่อกระตุ้นแรงจูงใจหลังจากปีก่อนเปิดตัวทริปท่องเที่ยวประเทศอังกฤษที่ได้รับความสนใจอย่างมาก อีกทั้งยังให้โบนัสในการรักษาตำแหน่งเพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน และคาดว่าในปีวิกฤตเศรษฐกิจนี้ผู้บริโภคจะจำกัดการทดลองสินค้าพร่ำเพรื่อ แต่จะเลือกสรรแต่ผลิตภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพ และตอบสนองความต้องการได้จริงเท่านั้น ซึ่งอาวียองซ์สามารถตอบโจทย์ได้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพผ่านผู้ร่วมธุรกิจที่มีความรู้ จึงคาดว่าสามารถผ่านปีวิกฤตไปด้วยดีด้วยยอดเติบโตประมาณ 15%” นางสุชาดา กล่าวปิดท้าย
หากต้องการายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร.0-2434-8300
คุณสุจินดา , คุณแสงนภา , คุณชินนารี