คทง.โครงสร้างฯ สป.จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเสนอแนะประเทศไทยควรมีสนามบินเดี่ยวหรือสนามบินคู่?

ข่าวทั่วไป Friday March 20, 2009 09:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--สป. คทง.โครงสร้างพื้นฐาน คมนาคม และพลังงาน สภาที่ปรึกษาฯ (สป.) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “ประเทศไทยควรมีสนามบินเดี่ยวหรือสนามบินคู่...?” โดยตระหนักถึงความสำคัญของการใช้สนามบินเดี่ยวและสนามบินคู่ดอนเมืองและสุวรรณภูมิ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าต่อการลงทุนที่ผ่านมา รวมทั้งการสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและความคุ้มค่าทางสังคม คทง.โครงสร้างพื้นฐาน คมนาคม และพลังงาน สภาที่ปรึกษาฯ (สป.) ซึ่งมีนายโอกาส เตพละกุล เป็นประธานคณะทำงานฯ ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “ประเทศไทยควรมีสนามบินเดี่ยวหรือสนามบินคู่...?” โดยเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม อาทิ บ.ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) บ.การบินไทย จำกัด บ.สายการบินนกแอร์ จำกัด ฯลฯ เพื่อร่วมแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้คณะทำงานโครงสร้างพื้นฐานฯ สป. ยังได้เสนอเกี่ยวกับความเห็นและข้อเสนอแนะ เรื่อง “การใช้ประโยชน์สนามบินดอนเมืองควบคู่สนามบินสุวรรณภูมิ” เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2551 ที่เสนอต่อคณะรัฐมนตรีไปแล้วนั้น ทั้งนี้การประชุมเชิงปฏิบัติการข้างต้น มีการหารือ สอบถามความคิดเห็นจากผู้แทนหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้สนามบินเดี่ยวกับสนามบินคู่ เพื่อความเหมาะสมและความคุ้มค่าของการใช้สนามบินของประเทศไทย ซึ่งผู้แทนหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ได้มีการแสดงความคิดเห็นดังนี้ นางจิราพร เชมนะสิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายแผนงานและการเงิน กล่าวว่าเหตุผลที่ย้ายสนามบิน มาใช้สนามบินเดียว เนื่องมาจากความต้องการรักษาการเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคของสนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งการลดต้นทุนของสายการบิน โดยไม่จำเป็นต้องมีการจัดบุคลากรของการบินไทยทั้ง 2 แห่ง นอกจากนี้ สามารถลดอุบัติเหตุจากจุดตัดของการบิน ที่อาจก่อให้เกิดอันตราย รวมทั้งในขณะนี้ การบินไทยอยู่ในขั้นตอนของการสร้าง ทอท. เฟส 2 เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารประมาณ 60 ล้านคน/ปี ในขณะที่สนามบินดอนเมืองต้องเป็นศูนย์ฝึกบิน และเป็นสนามบินสำรองในกรณีที่เครื่องบินไม่สามารถลงที่สุวรรณภูมิได้ คุณดิลก วณิชตันติพงษ์ ผู้แทนบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นว่า การมีสนามบินเดี่ยว จะทำให้ผู้โดยสารมีความสะดวก ไม่มีความสับสน และสามารถลดค่าใช้จ่ายที่เป็นจุดตัดต่างๆ ลงได้ เนื่องจากอัตราของจุดคุ้มทุนในขณะนี้อยู่ในสภาพของการขาดทุน รวมทั้งสนามบินสุวรรณภูมิเป็น Network Airline ในการสร้างความสะดวกให้ผู้โดยสาร และในอนาคตสามารถปรับไปสู่การเป็นศูนย์กลางของการมี Cargo และศูนย์ซ่อมต่างๆ ที่รวมอยู่ในสนามบินสุวรรณภูมิ คุณสีหพันธุ์ ชุมแพ ณ อยุธยา Vice President กล่าวว่า สายการบินในประเทศและความต้องการของลูกค้าของนกแอร์นั้น มีความต้องการความสะดวก รวดเร็ว มีการเดินทางที่สะดวก แต่ทั้งนี้การดำเนินงานของสายการบินนกแอร์ ต้องดำเนินการบนพื้นฐานการตัดสินใจของรัฐบาล โดยการย้ายสนามบินในครั้งนี้ สายการบินนกแอร์ ต้องคำนึงถึงเหตุผลพื้นฐาน 3 ประการ คือ ประการที่ 1 การตัดสินใดๆ เป็นการตัดสินใจระยะยาว เนื่องมาจากการย้ายสนามบินต้องเสียค่าใช้จ่ายครั้งละ 50 ล้านบาท การย้ายสนามบินควรแจ้งให้นกแอร์ทราบล่วงหน้า ประการที่ 2 เมื่อย้ายสนามบินแล้ว ควรมีพื้นที่ในการทำงานทันที เนื่องจากมีความจำเป็นในการให้บริการลูกค้า ประการที่ 3 หากมีการย้ายสนามบินในครั้งนี้ สายการบินนกแอร์ยังไม่สามารถย้ายได้ในทันที เนื่องจากมีข้อจำกัดหลายด้าน คุณมัยรัตน์ พีระญาณีโกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ เห็นด้วยกับการมี 2 สนามบิน เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยว แต่มีข้อสงสัยว่า สนามบินสุวรรณภูมิมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพที่ดีหรือไม่ยังเป็นข้อสงสัยอยู่ สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(Office of The National Economic and Social Advisory Council) 128ถนนพญาไท อาคารพญาไทพลาซ่า ชั้น 27 ราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์0-2612-9222ต่อ118 — 119 โทรสาร0-2612-6919 WWW.nesac.go.th E-Mail :- nesac_pr@yahoo.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ