กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--ทูเดย์ คอมมูนิเคชั่นส์
ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจแบบนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินทุนที่องค์กรภาคสังคมเคยได้รับการสนับสนุนจากองค์กรธุรกิจจากในและต่างประเทศ นั้นเริ่มหดหาย ลดน้อยลงไป ทำให้องค์กรภาคสังคมจะต้องปรับตัวรับกับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้น การพึ่งพาตนเอง ลดรายจ่ายเพื่อประคับประคองให้องค์กรอยู่รอด โดยสามารถขับเคลื่อนกิจกรรมหรือโครงการเพื่อช่วยเหลือสังคม อาทิ ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ เด็กที่ถูกทอดทิ้ง ต่อไปได้
คุณสุทธิชัย เอี่ยมเจริญยิ่ง ประธานกรรมการโครงการแบ่งปันเพื่อสังคมที่ยั่งยืน เปิดเผยว่า จากการสำรวจสภาพการณ์ของผู้ประกอบการทางสังคม ที่ทางโครงการได้จัดประชุมไปเมื่อเร็วๆนี้ พบว่า หลายแห่งได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ บางแห่งเด็กๆในโครงการไม่มีอาหารกลางวัน ต้องพึ่งพาตนเอง ปลูกพืชผักเป็นอาหารกลางวัน ในขณะที่แทบทุกแห่งต้องรัดเข็มขัด และหาทางลดค่าใช้จ่าย ซึ่ง ในภาวะเช่นนี้ หากผู้ที่แข็งแรงกว่า สามารถรวมตัวกัน และช่วยพัฒนาศักยภาพให้เจ้าหน้าที่ในองค์กรภาคสังคม ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ มีทักษะและศักยภาพในการทำงานที่สูงขึ้น ก็จะทำให้บรรเทาปัญหาและเกิดผลดีต่อสังคมในภาพรวม
การพึ่งพาตนเองวิธีหนึ่งก็คือ การเสริมสร้างศักยภาพ เพิ่มเติมความรู้ และเพิ่มพูนทักษะ สำหรับการทำงานประจำ โดยเฉพาะการใช้ บำรุงรักษา ดูแลคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทำงานทุกวัน ให้มีสภาพการใช้งานที่ดี หรือหากจะต้องมีการซ่อม ถ้าสามารถซ่อมเองได้ก็จะทำให้ประหยัดรายจ่ายได้อย่างมากมาย
จากสภาพการณ์ที่องค์กรภาคสังคมจำเป็นจะต้องหาทางพึ่งพาตนเองได้นี้ โรงเรียนเทคโนโลยีสยาม บริษัทไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด และโครงการแบ่งปันเพื่อสังคมที่ยั่งยืน จึงได้ร่วมมือกันยื่นมือมาให้การช่วยเหลือ โดยร่วมกันแบ่งปันทุน ทรัพยากร บุคลากร เวลา และงบประมาณ มาจัดหลักสูตรการประกอบและซ่อมบำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์: Help Desk ให้เจ้าหน้าที่ขององค์กรภาคสังคม โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เป็นระยะเวลา 5 วัน คือระหว่างวันที่ 16-20 มีนาคม พ.ศ. 2552
โดยการอบรมครั้งนี้ นับเป็นหลักสูตรแรก ที่ได้รับการออกแบบมาให้เข้าใจง่ายเป็นพิเศษ มีการทำคู่มือที่ใช้ภาษาง่ายๆ อธิบาย พร้อมรูปภาพประกอบ โดยตลอดการอบรมมีการระดมคณะครู เจ้าหน้าที่ นักศึกษา พร้อมด้วยอุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ มาให้คำแนะนำ รวมถึงการอำนวยความสะดวกต่างๆ จึงทำให้ เจ้าหน้าที่จากองค์กรภาคสังคมกว่า 20 องค์กร ทั้งหญิง ชาย ที่ไม่มีพื้นความรู้ด้านกลไกการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์มาก่อน สามารถยกระดับ และมีทักษะด้านไอที ที่จำเป็นต่อการใช้งาน
ตื่นตัวเรียนซ่อมคอมพิวเตอร์ลดค่าใช้จ่าย
คุณสุมาลี ลายลวด ตัวแทนจากมูลนิธิพิพิธภัณฑ์แรงงานไทย กล่าวว่า ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ การลดค่าใช้จ่ายภายในองค์กรนับว่ามีความจำเป็นอย่างมาก พอได้เห็นโครงการ ก็ตัดสินใจสมัครเข้าร่วมทันที เพราะตรงกับงานที่ทำ เนื่องจากคอมพิวเตอร์ที่ใช้จัดแสดง ในพิพิธภัณฑ์แรงงานไทยที่มีจำนวนมาก มักจะเกิดปัญหา ซึ่งจริงๆแล้วงบประมาณขององค์กรก็ไม่ได้มีมาก เจ้าหน้าที่ก็มีจำนวนจำกัดเพียงแค่ 3 คน เวลาคอมพิวเตอร์เป็นอะไรไป ก็มักจะเรียกช่างซ่อมเพียงอย่างเดียว เวลาเรียกช่างอย่างน้อยก็ 500 บาท เป็นค่าเปิดเครื่อง ครั้งหนึ่งเคยเจออาการหนักที่สุดก็คือต้องเปลี่ยนเมนบอร์ด เสียค่าเปลี่ยนและซ่อมไปหลายพันบาท จึงเห็นว่า การอบรมให้ความรู้เรื่องการประกอบซ่อมคอมพิวเตอร์ มีประโยชน์มาก เพราะว่าบางอย่าง บางเรื่องถ้าเราสามารถซ่อมเองได้ ก็ประหยัด อย่างคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในสำนักงาน ที่มีอยู่ประมาณ 7 เครื่อง เฉลี่ยมีคอมพิวเตอร์เสียประมานเดือนละครั้ง และจะมีอยู่หนึ่งเครื่องที่มักจะเสียบ่อยๆ หมดกับค่าซ่อมไปประมาณ 10,000 บาท ก็หวังว่าต่อไปจะเสียค่าซ่อมน้อยลง เพราะซ่อมเองเป็น
นอกจากนี้ คุณสุมาลี หวังว่า จะสามารถนำเอาความรู้กลับไปแนะนำเพื่อนที่เขาต้องการจะซื้อคอมพิวเตอร์ได้ “ตรงนี้ก็สำคัญมากเพราะว่ามีเพื่อนที่ทำงานเพื่อสังคมเยอะ อีกทั้งองค์กรเขางบประมาณก็น้อย ไม่มีความรู้ คิดว่า หากเรียนจบหลักสูตรก็น่าจะนำความรู้ตรงนี้ไปช่วยเหลือและแนะนำกับเพื่อนๆ องค์กร และหน่วยงานภาคสังคมอื่นๆ ได้” คุณสุมาลี กล่าว
เตรียมไปซ่อมคอมพิวเตอร์บริจาค
คุณชัยรัตน์ ตันติไพบูลย์วุฒิ ตัวแทนจากมูลนิธิหนังสือเพื่อไทย กล่าวว่า ปัจจุบันทางมูลนิธิใช้คอมพิวเตอร์ที่ได้รับบริจาคมา ซึ่งมีปัญหาคือ ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ตกรุ่น หน่วยความจำน้อย ทำให้การทำงานล่าช้า อยากนำไปซ่อม ไปอัพเกรด ก็ติดปัญหาเรื่องการเงินเพราะช่างคิดราคาแพงพอสมควร ในคราวนี้จึงมาอบรม เพราะอยากจะประกอบคอมพิวเตอร์ได้เอง เพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะลดค่าซ่อมบำรุงรักษา ที่ปกติต้องเรียกช่างมา ก็หวังว่าจะนำความรู้ที่ได้เรียน ไปใช้เป็นวิชาชีพเล็กๆน้อยๆ ช่วยเหลือตัวเอง และภาคสังคมต่อไป โดยสิ่งแรกที่จะกลับไปทำคือ ซ่อมคอมพิวเตอร์บริจาคที่วางเสียหลายเครื่อง
“เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ได้รับจากการบริจาคมานั้นอาจจะมีเครื่องที่เสียหลายเครื่อง แต่หากเราประกอบเป็น เราก็สามารถเอาส่วนที่ดีของแต่ละเครื่องมาประกอบรวมกัน ก็จะได้เครื่องคอมพิวเตอร์ดีอีกหลายเครื่อง ก็อาจจะทำให้ลดต้นทุน และลดพวก ขยะอิเล็กทรอนิกส์ ส่งไปรีไซเคิลได้ ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์กับองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรได้เป็นอย่างดี”
ด้าน ดร.จอมพงศ์ มงคลวนิช ผู้อำนวยการโรงเรียนเทคโนโลยีสยาม กล่าวถึงความทุ่มเทในการจัดการอบรมครั้งนี้ว่า เป็นความตั้งใจของทางโรงเรียน ซึ่งมีความพร้อม และมีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคอยู่แล้ว ซึ่งทางโรงเรียนเชื่อว่า การให้โดยไม่ใช้เงินเป็นตัวตั้ง เป็นการแบ่งปันความรู้ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ จะเป็นสิ่งที่ยั่งยืนคือองค์กรภาคสังคมเองก็จะสามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งจากผลการประเมินผลการอบรม นั้นน่าพอใจมาก เพราะทุกคนตั้งใจ และสามารถเพิ่มพูนทักษะ นำไปใช้ได้จริงๆ
“ตลอดระยะเวลาการอบรม 5 วัน จะช่วยทำให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำไปใช้งานได้จริง จากทุกคนที่มีความรู้เริ่มจากศูนย์ พอได้รับความรู้และทักษะ ก็จะสามารถประกอบและซ่อมบำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์เองได้ ซึ่งเพียงแค่ 3 วันของการอบรม ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าผู้เข้าอบรมสามารถประกอบและติดตั้งระบบปฏิบัติการต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ได้แล้ว”
ด้านคุณสุภารัตน์ จูระมงคล ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมเพื่อชุมชน บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงหลักสูตรที่จัดขึ้น ว่าจะเกิดประโยชน์ต่อสังคมมาก เพราะเมื่อผู้ประกอบการทางสังคมสามารถพึ่งพาตนเองได้ มีเครื่องมือที่ใช้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะทำให้การทำงานช่วยเหลือชุมชนทำได้ดีขึ้น ซึ่งสำหรับบริษัทไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด มีโครงการส่งเสริมสนับสนุนด้านไอทีให้กับผู้ประกอบการทางสังคมอย่างต่อเนื่อง และยินดีสนับสนุนกิจกรรมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการทางสังคม ทั้งนี้ องค์กรที่เข้าอบรมในครั้งนี้ จะได้รับการพิจารณาให้ได้รับลิขสิทธ์ซอฟท์แวร์ รุ่นใหม่ล่าสุดจากไมโครซอฟท์ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นลำดับแรก ๆ
โรงเรียนเทคโนโลยีสยาม บริษัทไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นหนึ่งในคู่แบ่งปัน ที่เข้าร่วมในโครงการแบ่งปันเพื่อสังคมที่ยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันโครงการฯ สามารถจับคู่แบ่งปันให้การช่วยเหลือองค์กรภาคสังคม รวมแล้วกว่า 90 คู่ ซึ่งองค์กรธุรกิจที่สนใจ ร่วมเป็นคู่แบ่งปัน สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-978-3300
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
สุรีย์พร สื่อสกุล (ตุ้ย)
บริษัท ทูเดย์ คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด
โทร. : 081-902-5948 และ 085-838-5977
E-mail : todaytion@yahoo.com, todaytion@gmail.com