TRC ประกาศจ่ายเงินปันผล ปี 51 หุ้นละ 0.15 บาท รวมเกือบ 50 ล้านบาท วางเกมรุกปีนี้พร้อมเข้าประมูลงานต่ออีก 3 - 4 พันล้านบาท

ข่าวอสังหา Monday March 23, 2009 15:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--ออนไลน์ แอสเซ็ท ที่ประชุมคณะกรรมการ TRC ประกาศจัดสรรกำไรเกือบ 50 ลบ.จ่ายปันผลงวด ปี 51 หุ้นละ 0.15 บ. คืนกำไรให้กับผู้ถือหุ้น หลังให้การสนับสนุนบริษัทมาโดยตลอด พร้อมเปิดเกมรุกลุยขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั้งงานด้านก่อสร้างและวิศวกรรมในงานวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติ และงานก่อสร้างโรงงานในกลุ่มธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมี วางเป้าปีนี้เข้าร่วมประมูลงานอีก 3-4 พันล้านบาท คาดได้งานไม่ต่ำกว่า 20-30% หนุน Backlog ในมือขยายตัวเพิ่ม ดันรายได้ปี 52 เติบโตต่อเนื่องได้สำเร็จ นายสมัย ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 2/2552 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติให้จ่ายปันผลประจำปี 2551 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท รวมเป็นเงิน 49,499,938 บาท โดยเงินปันผลที่จ่ายคิดเป็นร้อยละ 34.43 ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมายต่ำกว่านโยบายการจ่ายเงินปันผลที่กำหนดไว้ที่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย เนื่องจากบริษัทฯ เห็นความจำเป็นในการกันเงินสำรองสำหรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจที่อาจมีผลกระทบต่อกระแสเงินสดในอนาคต แต่อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบเงินปันผลกับกำไรสุทธิรวมของบริษัทฯ และบริษัทย่อย 126.28 ล้านบาท อัตราการจ่ายเงินปันผลเท่ากับร้อยละ 39.20 กำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2552 และมีสิทธิรับเงินปันผล หรือวัน Record Date เป็นวันที่ 7 เมษายน 2552 และวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2552 และเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล ในวันที่ 8 เมษายน 2552 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลภายในวันที่ 28 พฤษภาคม 2552 (วันขึ้นเครื่องหมาย XD/XM คือวันที่ 2 เมษายน 2552) และมีมติกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2552 เป็นวันที่ 29 เมษายน 2552 "การจ่ายปันผลครั้งนี้ก็เพื่อตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น ที่ให้การสนับสนุนการระดมทุนของบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา ส่วนในปีนี้ที่ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 34.43 ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย ซึ่งต่ำกว่านโยบายการจ่ายเงินปันผลที่กำหนดไว้ที่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย ก็เพราะบริษัท ฯ เห็นความจําเป็นในการกันเงินสำรองเพื่อใช้ในการดําเนินธุรกิจ ซึ่งหลังจากนี้มีแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมเข้ายื่นประมูลงานเพิ่มอีกหลายโครงการคิดเป็นมูลค่าประมาณ 3,000 - 4,000 ลบ. และคาดว่าจะได้รับงานไม่น้อยกว่า 20-30% ซึ่งจะสนับสนุนให้ TRC มีงานสะสมในมือเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย" นายสมัย กล่าวอีกว่าในปีนี้ว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจทั้งงานด้านก่อสร้างและวิศวกรในงานวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ในกลุ่มธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีซึ่งเป็นงานที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ งานด้านวางแผนวิศวกรรม และพัฒนาโครงการ ทั้งทางด้านอสังหาริมทรัพย์ โรงไฟฟ้า และโรงงานปิโตรเคมี ในลักษณะ Turn Key นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังแสวงหาโอกาสในการขยายงานในต่างประเทศควบคู่กันไปด้วย โดยที่ผ่านมาได้เข้าร่วมกับพันธมิตรเสนองานโครงการวางท่อก๊าซ ในประเทศโอมาน และยังเสนองานในประเทศเพื่อนบ้าน คือ สาธารณรัฐพม่า โดยได้รับงาน Long Term Contract for Piping and Steel Structural Works และ Steel Structure Support Flame For Wind Turbine บนแท่นจุดเจาะน้ำมัน YADANA COMPLEX จาก Total E&P Myanmar ด้วย ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และหลังจากนี้คาดว่าจะได้รับงานอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นในอนาคต "ในปี 2552 งานในประเทศยังเป็นตลาดหลักของเรา โดยเฉพาะงานวางท่อก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นงานที่เราถนัดและฝากฝีมือในวงการนี้มายาวนาน ในปีนี้ก็ยังมีต่อเนื่องและมีงานใหม่เข้ามาเพิ่มด้วย โดยนอกจากงานท่อขนาดเล็กเพื่อส่งไปยังผู้ใช้ปลายทาง หรือ Distribution Pipeline จาก บมจ. ปตท. ที่เป็นงานหลักแล้ว คาดว่าในไตรมาสที่ 2 หรือ 3 บริษัทฯ จะร่วมกับพันธมิตร CPP (บริษัท ไซน่า ปิโตรเลียม ไพพ์ไลน์ บูโร หรือ CPP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ไซน่า ปิโตรเลียม คอร์เปอเรชั่น หรือ CNPC เป็นกลุ่มบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน) เข้าร่วมประมูลโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 4 เป็นท่อก๊าซขนาด 36 และ 42 นิ้ว เพื่อรองรับก๊าซจากโครงการสถานีรับจ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG Terminal และรองรับโรงไฟฟ้าผู้ผลิตเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี) ซึ่งมีกำหนดไฟฟ้าเข้าสู่ระบบในปี 2555 อีกทั้งยังมีงานก่อสร้างสถานี NGV ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น รองรับรถที่ใช้ NGV ต่อเนื่องจากงานที่บริษัทฯ ได้รับมาในปี 2551 จำนวน 14 สถานีด้วย" นายสมัย กล่าว นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังคงมุ่งที่จะศึกษาและเข้าลงทุนในโครงการที่จะนำมาซึ่งรายได้ที่ต่อเนื่องในระยะยาวให้กับบริษัทฯ ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมลงทุนกับบริษัท เจตาแบค จำกัด ผู้ผลิตและประกอบโลหะขึ้นรูป อาทิเช่น boiler, pressure vessel, and heat exchanger จัดตั้ง บริษัท ไทยเพรสเซอร์เวสเซิลแอนด์สตีลเวิร์ค จำกัด ขึ้นเพื่อผลิตและประกอบผลิตภัณฑ์โลหะขึ้นรูป ดังนั้น หากพิจารณาจากงานที่มีอยู่ในมือในปัจจุบัน โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 บริษัทฯ และบริษัทย่อย (บริษัท สหการวิศวกร จำกัด) มีงานในมือรวมกันทั้งสิ้น 23 โครงการ รวมมูลค่า 1,501.50 ล้านบาท และงานที่บริษัทฯ จะเข้าร่วมประมูลในปีนี้ เชื่อว่าจะสนับสนุนให้รายได้ในปี 2552 ของบริษัทฯ เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนได้ ถึงแม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศและเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะชะลอตัว ข้อมูล บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ TRC ประกอบธุรกิจด้านรับเหมาก่อสร้างและวิศวกรในงานวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ในกลุ่มธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีงานด้านวางแผนวิศวกรรม และพัฒนาโครงการ ( business development) ทั้งทางด้านอสังหาริมทรัพย์ โรงไฟฟ้า และโรงงานปิโตรเคมีในลักษณะTurn Key ลักษณะงานที่บริษัทฯ ดำเนินการสามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภทหลัก คือ งานออกแบบทางวิศวกรรม (Engineering) คือ งานที่ลูกค้าจ้างทางบริษัทฯ ให้ออกแบบทางวิศวกรรม งานจัดซื้อ (Procurement) คือ งานการจัดหาวัสดุก่อสร้างตามที่ลูกค้าต้องการ มาเพื่อก่อสร้างและติดตั้งตามแผนดำเนินงานที่วางไว้ งานก่อสร้าง (Construction) คือ งานการก่อสร้างและติดตั้งระบบงานวิศวกรรมจริงหลังจากที่ได้มีการออกแบบทางวิศวกรรมและจัดซื้อวัสดุก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว และงานบริหารการก่อสร้าง (Construction Management) คือ งานควบคุมการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : จุฬารัตน์ เจริญภักดี (ฟ้า) 089-4888337 / 02-5549395

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ