กรุงเทพฯ--24 มี.ค.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
สายการบินเอทิฮัด สายการบินแห่งชาติสหรัฐอาหรับเอเมิเรสต์ ประกาศความมั่นใจ ตั้งเป้าปี2552 นำยอดผู้โดยสารทยานขึ้นสู่ 7 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึงกว่า 15 เปอร์เซ็นต์
สายการบินฯ ยังมีแผนการขยายเครือข่ายจุดหมายปลายทางสู่ 55 เส้นทางภายในปีเดียวกัน พร้อมกับการขยายฝูงบินเพิ่มอีกกว่า 50 ลำ โดยในปี 2551 ที่ผ่านมา สายการบินเอทิฮัด มีโอกาสให้บริการอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติทั้งสิ้นกว่า 6 ล้านคน ใน 50 จุดหมายปลายทางทั่วโลกด้วยเครื่องบินทั้งสิ้น 42 ลำ
นอกจากนั้น สายการบินเอทิฮัด ได้ทำการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินในช่วงฤดูร้อนนี้กว่า 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงปีที่ผ่านมา จากอาทิตย์ละ750 เที่ยวบินสู่ 900 เที่ยวบิน
ในปีพ.ศ. 2552 นี้ เอทิฮัดมีแผนการรับมอบฝูงบินใหม่ถึง 11 ลำ ทั้งนี้เพื่อให้บริการเส้นทางการบินใหม่ไปยังเมลเบิร์น อิสตันบูล เอเธนส์ ลาร์นากา และ ชิคาโก รวมถึงเพื่อเพิ่มจำนวนเที่ยวบินในจุดหมายปลายทางทั่วโลก นอกจากนั้น ยังเป็นการเพิ่มศักยภาพในการบรรทุกผู้โดยสารกว่า 18 เปอร์เซ็นต์ และเพิ่มพื้นที่ส่วนของการขนส่งสิ้นค้าอีกกว่า 12 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเป็น 3.5 ล้านตัน
ปัจจุบัน สายการบินเอทิฮัดมีฝูงบินทั้งแบบลำตัวแคบและลำตัวกว้างถึงกว่า 44 ลำ และจะได้เพิ่มเป็น 52 ลำภายในปีนี้ เครื่องบินใหม่ประกอบไปด้วยแอร์บัส เอ330-200 จำนวน 2 ลำ เครื่องแอร์บัส เอ330-300 หนึ่งลำ เครื่องแอร์บัสเอ340-600 สองลำ เครื่องแอร์บัสเอ320-200 5 ลำ และ เครื่องโบอิ้ง 777-300 อีอาร์ หนึ่งลำ
สายการบินเอทิฮัด มีรายได้ในปี2551ที่ผ่านมากว่า สองพันห้าร้อยล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ และตั้งเป้ารายได้ในปีนี้ถึง สามพันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นอีกกว่า 20 เปอร์เซ็นต์
มร.เจมส์ โฮแกน ประธานเจ้าหน้าบริการสายการบินเอทิฮัด กล่าวว่า “ในขณะนี้ อุตสาหกรรมการบินกำลังประสบกับช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุด ทั้งนี้สืบเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก อย่างไรก็ดี สายการบินเอทิฮัดยังคงตั้งเป้าขยายธุรกิจในช่วงปี 2552 ทั้งนี้ด้วยการวางแผนที่รอบคอบ รัดกุม และ ควบคุมได้
“การรับมอบเครื่องบินใหม่ ทำให้เรามีจำนวนฝูงบินเพิ่มขึ้นถึงกว่า 1 ใน 4 และทำให้เราสามารถให้บริการเที่ยวบินใหม่สู่ 5 จุดหมายปลายทาง รวมถึงการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินในเส้นทางการบินในเครือข่ายที่เรามีอยู่”
“ตลอดระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจ เราได้รับรางวัลเกียรติยศต่างๆมากมายจากการให้บริการในทั้ง 3 ชั้นที่นั่ง โดยในปีนี้ เราคาดว่าจะมีอัตราบรรทุกเฉลี่ยอยู่ที่ 77 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ เพื่อมุ่งไปสู่การบรรลุเป้าหมายในการนำยอดผู้โดยสารขึ้นสู่ 7 ล้านคนภายในปีนี้
“และแม้ว่าในปีนี้ เราจะต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากในเรื่องของการควบคุมค่าใช้จ่าย แต่ทางสายการบินฯไม่มีแผนการในการลดการให้บริการลูกค้า หรือ ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยน้อยลง เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เป็นหลักการที่สำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจสายการบิน”
ปัจจุบัน เอทิฮัดมีจำนวนพนักงานทั้งสิ้นกว่า 7,300 คน และมีแผนการสรรหาพนักงานเพิ่มอีกกว่า 1,000 ตำแหน่งในปีนี้ ซึ่งจะทำให้จำนวนพนักงานเพิ่มขึ้นเป็น 8,500 คน หรือ เพิ่มขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์
สายการบินฯวางแผนเพิ่มจำนวนลูกเรือถึงกว่า 65 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้น นักเรียนการบินฝึกหัดของเอทิฮัดอีกกว่า 25 คน จะได้สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรนักบินชาวอาหรับและนักบินนานาชาติ ซึ่งทำให้จำนวนนักบินเพิ่มขึ้นเป็น 840 คน หรือเพิ่มขึ้น 11 เปอร์เซ็นต์ ในสิ้นปีนี้ นอกจากนั้น ทางสายการบินฯมีการรับนักเรียนการบินเพื่อเข้าฝึกในโครงการอีกกว่า 100 คนตลอดช่วงปี
ปัจจุบัน เอทิฮัดมีจำนวนลูกเรือทั้งสิ้นกว่า 2,900 คน โดยมีแผนการคัดสรรลูกเรือเพิ่มอีกกว่า 200 คนภายในปี 2552 นี้ ซึ่งทำให้จำนวนลูกเรือเพิ่มขึ้นเป็น 3,100 คน หรือเพิ่มขึ้นอีกกว่า 10 เปอร์เซ็นต์
เมื่อเร็วๆนี้ สายการบินเอทิฮัด ได้เปิดเที่ยวบินใหม่ไปยังเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยให้บริการด้วยเครื่องแอร์บัสเอ340-600 ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารทั้งสิ้น 292 ที่นั่ง และขนส่งสินค้าได้ทั้งสิ้น 15 ตัน การเปิดเส้นทางการบินสู่เมลเบิร์น รวมทั้งเที่ยวบินสู่ซิดนีย์ และ บริสเบนที่ให้บริการก่อนหน้านี้ ทำให้ในปัจจุบัน สายการบินเอทิฮัดมีที่นั่งให้บริการผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางสู่ประเทศออสเตรเลียถึงกว่า 5,700 ที่นั่งต่อสัปดาห์
การเปิดเส้นทางการบินใหม่สู่นครอิสตันบูล เอเธนส์ และ ลาร์นากา ในเดือนมิถุนายน รวมถึงการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินสู่ บรัซเซล เจนีวา มิลาน และมอสโก แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเอทิฮัดในการขยายการให้บริการ และทำให้เอทิฮัดมีจำนวนเที่ยวบินที่มุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางทั้ง 14 แห่งในทวีปยุโรปถึงกว่า 98 เที่ยวต่อสัปดาห์
ทางฝั่งทวีปอเมริกาเหนือ สายการบินฯทำการยืนยันการเปิดเส้นทางใหม่ไปยังนครชิคาโกในวันที่ 2 กันยายนเป็นต้นไป โดยจะเพิ่มการให้บริการเป็นเที่ยวบินรายวันตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมตามลำดับ โดยการเปิดจุดหมายปลายทางใหม่ นอกเหนือจากนิวยอร์ก และ โตรอนโตที่มีก่อนหน้านี้ เป็นการเพิ่มศักยภาพของสายการบินฯในทวีปดังกล่าวถึงกว่า 35 เปอร์เซ็นต์
ในส่วนของทวีปตะวันออกกลาง สายการบินฯจะได้เพิ่มจำนวนเที่ยวบินสู่อัมมาน เป็น 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคมเป็นต้นไป ในขณะที่บริการสู่เบรุตจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เที่ยวบินต่อวัน และเพิ่มจำนวนเที่ยวบินสู่โดฮาเป็น 4 เที่ยวบินต่อวันเช่นกัน
นอกจากนั้น ยังเพิ่มเที่ยวบินสู่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จาก 6 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เป็นเที่ยวบินรายวันตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคมนี้
ในขณะที่สายการบินฯ ประกาศความพร้อมเปิดใช้อาคารผู้โดยสาร 3 ณ ท่าอากาศยานอาบูดาบี ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่อาคันตุกะผู้ทรงเกียรติของสายการบินฯ รวมทั้งเพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจในอนาคต
มร.โฮแกน กล่าวเพิ่มเติมว่า: “การเปิดใช้อาคารผู้โดยสาร 3 ถือเป็นการลงทุนที่สำคัญเพื่อพัฒนาสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆให้กับผู้โดยสารของเรา เช่น ห้องรับรองผู้โดยสารที่ได้รับการออกแบบอย่างสวยงาม พื้นที่ในการเช็ก-อินสำหรับผู้โดยสารในชั้นพิเศษและชั้นประหยัด”
นอกเหนือจากการพัฒนาปรับปรุงท่าอากาศยานอาบูดาบี ทางสายการบินเอทิฮัด ยังมีความภาคภูมิใจที่ได้เปิดบ้านต้อนรับการแข่งขันรถสูตร 1 หรือ การแข่งขันฟอร์มูลาร์ วัน ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในอาบูดาบี ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ศกนี้ ในฐานะผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ เอทิฮัด ยังได้ให้การสนับสนุนในการเดินทางของนักแข่งและทีมงานระดับโลก รวมทั้งการลำเลียงอุปกรณ์ต่างๆสู่อาบูดาบี
“ในปีนี้ดูเหมือนเป็นปีที่ค่อนข้างยากลำบากสำหรับทุกคนที่อยู่ในอุตสาหรกรรมการบิน แต่เนื่องด้วยการลงทุนของเอทิฮัดและความมุ่งมั่นที่มีในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฝูงบิน ท่าอากาศยาน รวมถึงการพัฒนาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอาบูดาบี จึงทำให้เรามั่นในเป็นอย่างยิ่งว่า เอทิฮัดจะสามารถดำเนินธุรกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงอย่างเช่นทุกปีที่ผ่านมา”
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของ สายการบินเอทิฮัด กรุณาติดต่อ
ภาริสา ฉายากุล /เมธาวรินทร์ มณีกูลพันธ์
บริษัท โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0 2260-5820 ต่อ 121 โทรสาร 0 2260-5847-8 อีเมล์ samui@tqpr.com/mae@tqpr.com