กรุงเทพฯ--26 มี.ค.--เอบีจี กรุ๊ป เ
เอบีจี กรุ๊ป เดินหน้าตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ในประเทศไทยอีกครั้ง จับมือมาดิโก้ ผู้ผลิตฟิล์ม 1 ใน 3 ของสหรัฐอเมริการับประกันฟิล์มตลอดอายุการใช้งาน พร้อมเพิ่มไลน์ฟิล์มกรองแสงระดับพรีเมียมวินคอส (Wincos) เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบีถึงพรีเมียม เตรียมวางสินค้าตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้
นายวิบูลย์ ว่องศิลป์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออโตเมติก บิสซิเนส กรุ๊ป จำกัด หรือ เอบีจี ตัวแทนจำหน่ายฟิล์มกรองแสงมาดิโก้และวินคอสในประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทจะเดินหน้าทำตลาดฟิล์มกรองแสง ทั้งในส่วนของรถยนต์ ฟิล์มนิรภัย และฟิล์มกรองแสงสำหรับอาคารอย่างเต็มที่อีกครั้ง
สำหรับแผนงานในการทำตลาดในปีนี้ ก็คือการร่วมฉลองครบรอบ 100 ปี สำหรับฟิล์มกรองแสงมาดิโก้ ในฐานะพันธมิตรที่ร่วมทำธุรกิจในประเทศไทยมายาวนานกว่า 1 ทศวรรษ ซึ่งบริษัทแม่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เปิดแคมเปญรับประกันตลอดอายุการใช้งาน สำหรับฟิล์มกรองแสงมาดิโก้ ซึ่งก็จะนำแคมเปญนี้มาใช้ในประเทศไทยเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ มาดิโก้ อิงค์ ถือเป็น 1 ใน 3 ผู้ผลิตฟิล์มกรองแสงระดับพรีเมียมในประเทศสหรัฐอเมริกา เคียงคู่กับ 3เอ็มและซีพี ฟิล์ม โดยมีสินค้าที่มีความหลากหลายครบในทุกเซกเมนต์ และเอบีจี ก็เป็นตัวแทนจำหน่ายของมาดิโก้มาอย่างยาวนาน ทำให้มีความสัมพันธ์ที่ดีในการทำธุรกิจร่วมกัน
นอกจากนี้ จากการที่มาดิโก้ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับลินเทค ซึ่งเป็นผู้ผลิตฟิล์มกรองแสงระดับพรีเมียม ยี่ห้อวินคอส ทำให้เอบีจีได้เป็นตัวแทนจำหน่ายของวินคอสในประเทศไทย เริ่มตั้งแต่ปีนี้ โดยวินคอสจะเข้ามาเพิ่มศักยภาพด้านสินค้าในกลุ่มฟิล์มกรองแสงให้กับบริษัท เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมโดยเฉพาะ
“เราทำตลาดมาดิโก้มานาน ฟิล์มของมาดิโก้จะเป็นกลุ่มฟิล์มทั่ว ๆ ไป ทั้งรถยนต์และบ้าน รวมไปถึงฟิล์มนิรภัย ขณะที่วินคอสจะทำฟิล์มระดับพรีเมียม กลุ่มฟิล์มใสกันร้อนที่ไม่รบกวนสัญญานระบบนำทางด้วยดาวเทียม การที่เราได้สินค้าเข้ามาครบทั้งไลน์ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีให้กับผู้บริโภคที่ต้องการใช้งานฟิล์มกรองแสงต่าง ๆ ได้”
สำหรับแนวทางในการทำตลาดของมาดิโก้ ซึ่งเป็นฟิล์มกรองแสงที่ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกาทั้งหมด จะชูแนวคิด “Made in 100% USA” เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์และคุณภาพของสินค้า ควบคู่ไปกับการรับประกันสินค้าตลอดอายุการใช้งานที่เหนือกว่าผู้ประกอบการฟิล์มกรองแสงที่ทำตลาดอยู่ในประเทศไทย
ทั้งนี้ ราคาติดตั้งถึงผู้บริโภคนั้น มาดิโก้จะอยู่ที่ระดับ 4,000-6,000 บาทต่อคัน ขณะที่วินคอสจะอยู่ที่ 7,000-12,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เหมาะสมกับภาวะตลาดในปัจจุบัน ที่ฟิล์มกรองแสงไม่ได้ราคาแพงมากนัก และผู้บริโภคต้องการฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูง ที่สามารถใช้งานได้ดีในประเทศไทย
นายวิบูลย์กล่าวถึงคุณสมบัติของฟิล์มกรองแสงมาดิโก้ที่เหนือกว่าคู่แข่ง ว่าฟิล์มมีลักษณะใส คุณภาพดี ง่ายต่อการติดตั้ง ใช้กาวใสในการติดตั้ง ทำให้มีวิสัยทัศน์ในการมองทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างชัดเจน เนื้อฟิล์มสามารถติดเข้ารูปกับกระจกได้ดีและรวดเร็ว ที่สำคัญก็คือการรับประกันสินค้า ที่สามารถเปลี่ยนสินค้าได้ทันทีที่มีปัญหา
“เราจะเริ่มทำตลาดอย่างจริงจังในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งการจำหน่ายจะทำผ่านตัวแทนจำหน่ายของ เอบีจี ซึ่งในปีแรกคาดว่าจะมีในจังหวัดใหญ่ จังหวัดละ 1-2 รายเท่านั้น ซึ่งเอบีจีจะไม่ทำตลาดด้วย กลยุทธ์ด้านราคา จึงต้องหาตัวแทนจำหน่ายที่มีความเข้าใจในเรื่องของสินค้าและการทำตลาดแบบยั่งยืนควบคู่กันไป”
กรรมการผู้จัดการกล่าวต่อว่าจะไม่มีการทุ่มงบประมาณจำนวนมากในการบุกตลาดครั้งนี้ และไม่มีการตั้งเป้าหมายการจำหน่าย เนื่องจากผู้บริโภคมีความระมัดระวังในเรื่องการใช้จ่ายมาก และธุรกิจฟิล์มกรองแสงครองสัดส่วนรายได้ไม่เกิน 10% ของเอบีจี กรุ๊ป จึงไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไร หากได้ส่วนแบ่ง 3-5% ของฟิล์มกรองแสงพรีเมียมในช่วง 3-5 ปีนี้ ก็เป็นเรื่องที่น่าพอใจ
นายทอม นิซิโอเลค ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย มาดิโก้ อิงค์ เปิดเผยว่าบริษัทมีความมั่นใจที่จะทำตลาดฟิล์มกรองแสงมาดิโก้ร่วมกับทางเอบีจี กรุ๊ป เนื่องจากมองเห็นในศักยภาพในการทำตลาด และก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนในด้านต่าง ๆ อย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันให้มาดิโก้เติบโตในประเทศไทยต่อไป
ด้านนายไทเท โยชิดะ ผู้จัดการ บริษัท ลินเทค บีเคเค พีทีอี จำกัด เปิดเผยว่าการเปิดตัวฟิล์มกรองแสงวินคอสในประเทศไทยครั้งนี้ ตนมีความพึงพอใจอย่างมาก ที่ได้พันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในการทำตลาดอย่างเอบีจี กรุ๊ป ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยกระจายสินค้าของบริษัทให้เป็นที่รู้จักในหมู่ลูกค้า ชาวไทยได้อย่างแน่นอน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-3692844-5, 02-3145555 แผนกลูกค้าสัมพันธ์