กรุงเทพฯ--27 มี.ค.--โตโยต้า มอเตอร์
มร.มิทซึฮิโระ โซโนดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นประธานในการแถลงข่าวเปิดบูธโตโยต้า ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 30 พร้อมเผยวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนายานยนต์ที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน พร้อมแสดงยานยนต์ต้นแบบที่กำหนดนิยามใหม่ของการดูแลสภาพแวดล้อม “1/X” และ “A-BAT” เผยโฉม รถยนต์เวอร์ชั่นพิเศษ “คัมรี 2.4V เอ็กซ์ตรีมโม” “โคโรลล่า อัลติส SS1” และ “ฟอร์จูนเนอร์ Full Time 4WD สปอร์ตติโว ทู” และ “ฟอร์จูนเนอร์ 2WD อเพอร์โต้” ที่ ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติไบเทค บางนา
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เข้าร่วมแสดงรถยนต์อย่างยิ่งใหญ่ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 30 บนพื้นที่ 1,500 ตารางเมตร ภายใต้คอนเซ็ปท์ “Hybrid World Around You” สะท้อนความล้ำหน้าของเทคโนโลยีไฮบริด และความเป็นผู้นำของตลาดรถยนต์ประเทศไทย พร้อมนำเสนอยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และรถยนต์รุ่นพิเศษตอบสนองทุกความต้องการ
มร. มิทซึฮิโระ โซโนดะ กล่าวว่า ”โตโยต้ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในงานครั้งนี้ ภายใต้แนวคิด “ยานยนต์ คน รักษ์ธรรมชาติ” หรือ “Green Life on Wheels” โดยในส่วนของโตโยต้านั้นเราได้นำเสนอเทคโนโลยีภายใต้แนวคิด “โลกไฮบริด รอบตัวคุณ” หรือ “Hybrid World around You ซึ่งทุกท่านจะรับทราบถึงความล้ำสมัยของเทคโนโลยีไฮบริด และรถไฮบริดของโตโยต้า”
มร.โซโนดะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทั้งนี้ ในปี 2551 โตโยต้าได้ประกาศ โลกทัศน์แห่งโตโยต้า หรือ “Toyota Global Vision” เพื่อแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของโตโยต้าที่มีต่อสังคมโลก บนพื้นฐานความมุ่งมั่นในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ในทิศทางที่ก่อให้เกิดเติบโตอย่างสมดุลย์ของวัฏจักรอุตสาหกรรมและวัฏจักรธรรมชาติ เราได้เริ่มโครงการปลูกป่านิเวศ ระยะที่ 1 ขึ้น ที่โรงงานบ้านโพธิ์ นอกจากนี้เรายังคงสานต่อในการสนับสนุนงานวิจัยต่าง ๆ เพื่อการประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมยกตัวอย่างเช่น การวิจัยในการพัฒนาน้ำมันไบโอไฮโดรเจเนตดีเซล หรือที่เรียกกันว่าน้ำมันบีเอชดี (BHD) และงานวิจัยสบู่ดำ นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นสำคัญของเรา ยังได้รับการพัฒนาจนสามารถใช้พลังงานทางเลือกได้ อาทิ น้ำมันแก๊ซโซฮอลล์ E20, น้ำมันไบโอดีเซล B5 และ ก๊าซธรรมชาติอัด CNG และในปีนี้ เรายังเพิ่มความหลากหลายให้กับโคโรลล่า ซีเอ็นจี เพื่อตอบสนองทั้งกลุ่มลูกค้าองค์กรและกลุ่มลูกค้ารายย่อย ซึ่งจะได้รับประโยชน์อย่างยิ่งจากเทคโนโลยีซีเอ็นจี โดยการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งภายใต้นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า”
“สิ่งต่าง ๆ ที่ได้กล่าวมาข้างต้น แสดงให้เห็นถึงเจตนารมย์ของโตโยต้าเพื่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในด้านการผลิต และการพัฒนาผลิตภัณฑ์และสำหรับปี 2552 นี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของโตโยต้า ที่จะนำอุตสาหกรรมยานยนต์เข้าสู่ยุคไฮบริด ซึ่งเทคโนโลยีไฮบริดไม่ได้เป็นเรื่องของอนาคตอีกต่อไป ทั้งนี้เรามีแผนที่จะเริ่มดำเนินการผลิตรถยนต์ คัมรี ไฮบริด ใหม่ ซึ่งเป็นรถยนต์ระบบไฮบริดรุ่นแรกสุดที่จะผลิตและจำหน่ายในประเทศไทยภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ การผลิตรถยนต์คัมรี ไฮบริดนี้ มิใช่เป็นเพียงการผลิตครั้งแรกในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยัง เป็นการผลิตรถยนต์ไฮบริด ครั้งแรกในทวีปเอเซีย นอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนับว่าเป็นความภาคภูมิใจของเรา” มร.โซโนดะ กล่าว
“Hybrid World Around You”
นิทรรศการ โลกแห่งเทคโนโลยีไฮบริด รอบตัวเรา
เปิดโลกเทคโนโลยีไฮบริด เทคโนโลยีอัจฉริยะ ความก้าวล้ำวิศวกรรมยานยนต์ที่ฉลาดล้ำ เป็นเวลากว่าหนึ่งทศวรรษที่ โตโยต้า ได้พัฒนาเทคโนโลยีขับเคลื่อนระบบไฮบริดที่สามารถใช้งานได้จริงบนถนนทั่วไปจนเป็นที่ยอมรับว่านี่คือทางเลือกในการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการพัฒนายานยนต์ในศตวรรษนี้
Hybrid Technology Zone
นำเสนอพัฒนาการของเทคโนโลยี โตโยต้า ไฮบริด เพื่อให้ผู้ชมได้เข้าใจ
ระบบการทำงานของรถยนต์ไฮบริดโดยเฉพาะ
ตลอดจนคุณค่าของไฮบริดต่อมนุษยชาติและโลกของเรา
คุณประโยชน์ ที่เหนือชั้นของรถยนต์ไฮบริด
- ประหยัดเชื้อเพลิง ในปริมาณน้ำมันที่เท่ากัน รถยนต์ไฮบริดสามารถวิ่งได้ระยะทางมากกว่าเกือบสองเท่าของรถยนต์ทั่วไปในรุ่นใกล้เคียงกัน
- ลดมลพิษ ใน 1 ปีของการขับขี่ รถยนต์ไฮบริดจะลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้มากกว่า 1 ตัน
เมื่อเทียบกับรถยนต์ทั่วไปในรุ่นใกล้เคียงกัน และยังลดก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (Nox) , มากถึง 47% เมื่อเทียบกับรถยนต์ดีเซล
- อัตราเร่งที่ดี สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม/ชม. ซึ่งเทียบได้กับรถยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร
- ไร้เสียงรบกวน สามารถขับเคลื่อนโดยใช้มอเตอร์เพียงอย่างเดียวทำให้การขับเคลื่อนเป็นไป อย่างนุ่มนวลและเงียบสงบตลอดการเดินทาง พบกับยานยนต์ต้นแบบสะท้อนถึงปรัชญาของโตโยต้า เพื่อโลกอนาคต
1/X นวัตกรรมแห่งปรัชญาการออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม
รถยนต์ต้นแบบโตโยต้า 1/X จัดแสดงเป็นครั้งแรก ในงานแสดงรถยนต์ Chicago Auto Show 2008 สะท้อนปรัชญาแห่งเทคโนโลยีการออกแบบอันเป็นนวัตกรรมสำหรับยุคถัดไปและได้สร้างนิยามใหม่ ของรถยนต์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ชื่อ 1/X ออกเสียงว่า ‘วัน เอ็กซ์” มาจากน้ำหนักของรถยนต์คันนี้ซึ่งอยู่ในระดับที่เป็นเศษหนึ่งส่วนสิบของรถยนต์โดยทั่วไปในระดับเดียวกัน
1/X สะท้อนการออกแบบที่ลู่ลมและมีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ขณะที่ยังคงพื้นที่ภายในห้องโดยสารเทียบเท่ากับรถยนต์ไฮบริดรุ่น Prius ด้วยน้ำหนักเพียง 420 กิโลกรัม หรือประมาณเพียงหนึ่งในสามของรถยนต์ Prius เกิดจากการออกแบบที่ใช้วัสดุพิเศษ เสริมด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) ที่มีความแข็งแกร่งสูงแต่มีน้ำหนักเบาตลอดทั้งตัวรถ
หลังคารถยนต์ 1/X นั้นทำจากพลาสติกชีวภาพซึ่งผลิตจากปอและป่านที่เรามีตามธรรมชาติซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลที่ได้ก็คือฉนวนกันความร้อนได้ดีกว่า ทั้งยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าและยังให้ปริมาณแสงส่องผ่านเข้ามาในห้องโดยสารได้ดีกว่ารวมทั้งช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกอีกด้วย
สำหรับภายในห้องโดยสาร รถยนต์ 1/X มาพร้อมกับเบาะนั่ง 4 ที่ซึ่งมีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ โดยทำจาก โพลีเอสเตอร์ไฟเบอร์ที่ถักทอในลักษณะสามมิติเพื่อความสบายในการนั่งมากกว่าเดิม วัสดุดังกล่าวทำหน้าที่เป็นเสมือนสปริงซึ่งให้ความรู้สึกนุ่มสบายสำหรับผู้โดยสารทุกคน
แหล่งพลังงานขับเคลื่อนแบบไฮบริดขนาดเล็กเป็นพิเศษซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณใต้เบาะตอนหลัง ระบบพลังงานดังกล่าวประกอบด้วยชุดพลังงานไฮบริดใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียม-อิออน ซึ่งชาร์จไฟจากแหล่งพลังงานภายนอกได้ (Plug-in) พร้อมเครื่องยนต์ขนาดเล็ก 500 ซีซี ซึ่งมีน้ำหนักเพียงหนึ่งในสี่ของน้ำหนักรวมของระบบเครื่องยนต์ของ Prius ด้วยน้ำหนักเบาเป็นพิเศษยังให้ประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นเป็นสองเท่า โดยมีอัตราการสิ้นเปลืองอยู่ที่ 150 ไมล์ ต่อน้ำมัน1 แกลลอน
ข้อมูลจำเพาะของรถต้นแบบโตโยต้า 1/X
มิติภายนอกตัวรถ (นิ้ว)
ความยาวทั้งหมด 153.5
ความกว้างทั้งหมด 63.8
ความสูงทั้งหมด 55.5
ความกว้างฐานล้อ 102.4
น้ำหนักรถ (ปอนด์) 926
ความจุผู้โดยสาร (คน) 4
เครื่องยนต์ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 0.5 ลิตร 500 ซีซี
เครื่องยนต์ไฮบริดแบบใช้แบตเตอรี่ Lithium ion
สู่ความเป็นรถกระบะขนาดกะทัดรัด ด้วยรถต้นแบบ A-BAT
รถยนต์ต้นแบบ A-BAT รถกระบะล้ำสมัย ให้ทั้งประโยชน์ใช้สอยอเนกประสงค์ กว้างขวางสำหรับการใช้งาน และสไตล์การออกแบบที่ล้ำหน้า และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดย A-BAT ได้เปิดตัวครั้งแรกในงานแสดงรถยนต์ North American International Auto Show 2008 ที่เมืองดีทรอยท์ ด้วยรูปลักษณ์ของแพล็ทฟอร์มที่เป็นหนึ่งเดียว รถต้นแบบ A-BAT ให้การควบคุมการขับขี่ได้ง่ายเสมือนการขับรถยนต์บนถนนในเมือง และให้สัมผัสแห่งการขับเคลื่อนที่นุ่มนวล น้ำหนักของรถที่เบา พร้อมกับเทคโนโลยี Hybrid Synergy Drive ของโตโยต้าถูกออกแบบให้มีประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเป็นเลิศโดยเฉพาะ แผงโซล่าเซลล์ ซึ่งให้แสงอาทิตย์ผ่านได้บริเวณพื้นผิวด้านบนของแผงอุปกรณ์ สะท้อนความเป็นรถยนต์ “สีเขียว” ได้อย่างชัดเจน นับได้ว่ารถต้นแบบ A-BAT นั้นได้หลอมรวมเอาการใช้งานแบบรถกระบะเข้ากับรูปแบบของรถยนต์โดยทั่วไปได้อย่างลงตัวภายใต้รูปลักษณ์ซึ่งสะท้อนทั้งประสิทธิภาพและความล้ำสมัย รูปลักษณ์ภายนอกที่ลู่ลมอันโดดเด่นของ A-BAT นั้นได้รับการสรรค์สร้างผสานปรัชญาการออกแบบของโตโยต้าที่เรียกว่า“ความสว่างชัด Vibrant Clarity” เข้าสู่รูปลักษณ์ภายนอกของรถโดยยังคงดีไซน์การออกแบบที่มุ่งสู่อนาคต ประณีตและเต็มไปด้วยประโยชน์ใช้สอย สะท้อนการผสมผสานกันระหว่างพื้นผิวรถขนาดใหญ่ แนวระนาบที่ตัดกัน ลายเส้นที่คมชัดและโครงสร้างแบบสี่เหลี่ยมคางหมู นอกจากนี้ ล้อขนาด 19 นิ้ว บริเวณมุมรถยังให้อารมณ์ที่แกร่งและพร้อมสำหรับทุกการเดินทาง พื้นที่กระบะ 4 ฟุต แต่มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่ารถกระบะมาตรฐานโดยทั่วไป แผงหลังคารถซึ่งแสงแดดสามารถส่องผ่านสามารถเลื่อนเปิดเพื่อให้มีพื้นที่ในห้องโดยสารสำหรับสัมภาระที่มีความสูงได้ และเมื่อประตูส่วนกลางพับลงบนห้องโดยสาร บริเวณกระบะเก็บสัมภาระก็จะขยายยาวขึ้นและหากเปิดประตูท้าย ก็จะมีความยาวเพิ่มขึ้นอีก เพื่อความเหมาะสมทั้งสำหรับการทำงานและการพักผ่อน
แม้ว่ารถต้นแบบ A-BAT มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ทรงพลัง แข็งแกร่ง แต่ทีมนักออกแบบก็ได้พัฒนาให้ภายในห้องโดยสารนั้นน่าดึงดูดและดูล้ำสมัย โดยสร้างสมดุลยภาพระหว่างสีสันและพื้นผิวให้ดูสว่างสดใสในขณะที่ยังคงความแกร่งทนทานพร้อมทรงพลังและสมส่วน โดยนำเอาวัสุดที่มีน้ำหนักเบา เข่น คาร์บอนไฟเบอร์ และอลูมิเนียมมาปรับใช้กับแผงอุปกรณ์ คอนโซลและเบาะนั่งเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างในขณะที่ลดปริมาณของมวลรวมลง คอนโซลกลางแบบอัลลอยอันแข็งแกร่ง ทว่าสง่างามนั้นวางตระหง่านอยู่ระหว่างเบาะตอนหน้าทั้งสอง พร้อมเป็นที่เก็บกล่องพลังงานแบบพกพา โดยกล่องแบตเตอรี่นั้นรองรับทั้งไฟฟ้ากระแสตรงและกระแสสลับสำหรับอุปกรณ์ในรูปแบบที่หลากหลาย
รถต้นแบบ A-BAT สำหรับผู้โดยสาร 4 คนนั้นสามารถปรับเปลี่ยนเบาะนั่งและที่วางสัมภาระในหลากหลายรูปแบบ ภายในรถ A-BAT ประกอบไปด้วยระบบนำทางแบบพกพาซึ่งพับเก็บได้พร้อมหน้าจอทแยงมุมขนาด 7 นิ้วและระบบอินเตอร์เน็ตแบบ Wi-Fi นอกจากนี้ ยังมีช่องสำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์พกพาและฮาร์ดไดรฟว์สำหรับการเล่นเพลงดิจิตอลทั้งคนขับและผู้โดยสารสามารถดูข้อมูลบนหน้าจอ MID ขนาดใหญ่ซึ่งจะบอกสถานะของอุปกรณ์ต่างๆ และ HVAC พร้อมการปรับค่าระบบเครื่องเสียงในรถ แผงรับแสงอาทิตย์บริเวณหน้ารถจะทำหน้าที่สร้างพลังงานจากแสงอาทิตย์ เพื่อช่วยชาร์จระบบนำทาง กล่องพลังงานแบบพกพาและจอแสดงข้อมูลแบบเรืองแสง
รถต้นแบบคันนี้ถือเป็นวิวัฒนาการแห่งอนาคตสำหรับรถกระบะขนาดกะทัดรัด ที่เต็มไปด้วยประโยชน์ใช้สอย มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและแตกต่างจากรถกระบะโดยทั่วไป ถือเป็นนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนได้อย่างเพลิดเพลินพร้อมใช้ประโยชน์ได้จริงซึ่งสะท้อนความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนของโตโยต้า
“New Generation Prius”
ยนตรกรรมไฮบริดคาร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั่วโลก ซึ่งผลิตเพื่อการจำหน่ายเป็นครั้งแรกในปี 2540 จนถึงวันนี้ พรีอุส ได้รับการพัฒนาสู่เจนเนอเรชั่นที่ 3 มียอดจำหน่ายกว่า 1 ล้าน 2 แสนคันทั่วโลก โดย New Generation Prius ที่นำมาแสดงนี้เป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ที่ได้รับการพัฒนาระบบไฮบริดให้มีขนาดเล็กลงและน้ำหนักเบาขึ้น ทำให้สามารถผสานการทำงานของระบบไฮบริดได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น Toyota New Prius ปล่อยไอเสียสู่บรรยายกาศในระดับที่ต่ำมาก จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดน้ำมัน สมรรถนะการขับขี่ดีเยี่ยม อีกทั้งเครื่องยนต์ยังทำงานเงียบ นับว่าเป็นคำตอบของรถยนต์ในยุคปัจจุบัน และตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าของโตโยต้า ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เคียงคู่กับสิ่งแวดล้อมเพื่อสังคมแห่งอนาคต
สัมผัสและเป็นเจ้าของรถยนต์รุ่นพิเศษ
Camry 2.4V Extremo
หรูหรา ดีไซนด์สปอร์ต ... กับรถซีดานขนาดกลางยอดนิยมที่ได้รับการตกแต่งโดดเด่น หรูหรา มีระดับ
- ภายนอกเติมอารมณ์หรูด้วยชุดแต่งรอบคัน...สเกิร์ตกันชนหน้า ด้านข้าง และกันชนหลัง สปอยเลอร์หลัง ที่ได้รับการออกแบบอย่างมีสไตล์...ป้ายสัญญลักษณ์ “EXTREMO” ด้านหลัง พร้อมล้อแม็กซ์รมดำขนาด 17 นิ้วและยางขนาด 215/55/R17
- ภายในสุขุมนุ่มลึก...ด้วยโทนสีดำ ทั้งเบาะนั่ง แผงประตู คอนโซล พวงมาลัยลายไม้ และหัวเกียร์หุ้มหนัง
- มี 3 สีให้เลือก...Silver Metallic, Black Mica และ White Pearl Crystal (เพิ่มราคา 10,000 บาท สำหรับสี White Pearl Crystal)
- หรูหราคุ้มค่า ในราคา 1,569,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว จำนวนจำกัด
“Corolla Altis 1.6 SS-I ”
เจนเนอเรชั่นที่ 10 ของรถยนต์นั่งยอดนิยม ยกระดับสู่ความเป็น “รถซีดานขนาดเล็กระดับบน”
หรูหรา ลงตัวกับมุมมองใหม่
- สง่างามกับ สีขาวใหม่ Super White โดดเด่นสะกดทุกสายตา
- เร้าใจทะยานไปกับเครื่องยนต์ระบบวาล์วอัจฉริยะ VVT-i 1600 ซีซี 109 แรงม้า พร้อมรองรับพลังงาน E20
- ภายนอกกับมุมมองใหม่ทุกองศา กระจังหน้าสีขาวตกแต่งโครเมียม พร้อมสเกิร์ตรอบคันทั้งด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลัง ไฟท้ายLEDแบบเลนส์ใส สปอยเลอร์หลังที่ดูลงตัว ท่อไอเสียพร้อมฝาครอบสแตนเลส สัญญลักษณ์ SS-I และล้ออัลลอยรมดำขนาด 15 นิ้ว
- ภายในลงตัว ด้วยเบาะหนังดีไซน์ทูโทนสีเทาดำและเบจ คอนโซลหน้าสีเมทัลลิกพร้อมลายไม้สีดำ พวงมาลัย 3 ก้านและหัวเกียร์หุ้มหนัง
ราคา 829,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
“Corolla Advanced CNG”
รถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอัดจากโรงงาน อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัย ได้มาตรฐาน
- ชุดหัวฉีดก๊าซ ควบคุมการจ่ายก๊าซด้วยระบบหัวฉีดอิเลคทรอนิกส์ ที่แม่ยนยำ ทนทาน
- ปลอดภัยด้วยลิ้นกันกลับ 2 จุดป้องกันก๊าซไหลย้อน ท่อก๊าซแรงดันสูงผลิตจากสแตนเลส แข็งแรงเป็นพิเศษ ถังบรรจุก๊าซแข็งแรงได้มาตรฐาน พร้อมโครงสร้างฐานรองรับและตัวยึดถังก๊าซ วาล์วเติมก๊าซอยู่ในตำแหน่งใกล้จุดเติมน้ำมัน เพื่อความสะดวกและปลอดภัย
- ปลอดภัยได้มาตรฐาน รับประกัยความมั่นใจ 3 ปี หรือ 100,000 กม.
ราคา 736,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
“Fortuner Sportivo II”
ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ระดับหรู ขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่ตอบสนองเกินกว่าความคาดหมาย ด้วยรูปลักษณ์ ที่หรูหรา ออกแบบเป็นพิเศษ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ล้ำสมัย รวมถึงอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยครบครัน
เข้ม เต็มสมรรถนะ รถอเนกประสงค์ยอดนิยม...ด้วยชุดแต่งจาก TRD
- โดดเด่น ทันสมัย ด้วยสีขาว Super White II
- เครื่องยนต์ 3.0V ขับเคลื่อนสี่ล้อ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมใช้น้ำมัน ไบโอ ดีเซล B5
- ภายนอกสมาร์ทเต็มสมรรถนะด้วยชุดแต่งสปอร์ตรอบคัน...สเกิร์ตกันชนหน้า ด้านข้าง และกันชนหลัง สปอยเลอร์หลัง ดีไซน์ทรงสปอร์ต...ป้ายสัญญลักษณ์ “TRD Sportivo” ด้านข้างและด้านหลังปลายท่อสแตนเลส ออกแบบให้รับกับสเกิร์ตด้านหลัง
- ชุดช่วงล่างใหม่ โช๊คอัพ พร้อมสปริงจาก “TRD”…เพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนน เสริมสมรรถนะการขับขี่ และการทรงตัวที่มั่นใจยิ่งขึ้น ล้อแม็กอัลลอย 18 นิ้วดีไซน์เฉี่ยว ช่วยเพิ่มอารมณ์สปอร์ต
- ภายในเต็มขั้นอารมณ์สปอร์ต...ภายในห้องโดยสารแบบทู โทน สีดำและสีครีม พวงมาลัย แผงคอนโซลกลาง ลายสปอร์ตเคฟล่าร์ หัวเกียร์หุ้มหนังแบบเจาะรู เบาะหนังแบบเจาะรู พร้อมลาย TRD Sportivo พร้อมชุดแป้นเหยียบแบบสปอร์ต
- เครื่องเสียง Panasonic พร้อมเครื่องเล่น DVD/CD/MP3/WMA/ ช่องต่อ AUX จอ LCD ระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เพิ่ทจังหวะความสนุกให้กับทุกเส้นทาง
สปอร์ตเต็มสมรรถนะ ในราคา 1,399,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
จำนวนจำกัด
“Fortuner Aperto” ...... สนุกไร้ขีดจำกัด
รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ระดับหรู แบบขับเคลื่อนสองล้อ พร้อมอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงเต็มรูปแบบ
- โดดเด่น ทันสมัย ด้วยสีขาว Super White II
- เครื่องยนต์ 3.0V ขับเคลื่อนสองล้อ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมใช้น้ำมัน ไบโอ ดีเซล B5
- เครื่องเล่น DVD/CD/MP3/WMA พร้อมจอ LCD ระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว 1.152 ล้านพิกเซล ให้ภาพคมชัด สำหรับผู้โดยสารด้านหน้า
- จอ LCD ขนาด 8.5 นิ้ว บนเพดานห้องโดยสารแบบพับเก็บได้ ถ่ายทอดทุกความบันเทิง ทั่วถึงทุกตำแหน่งโดยสาร
- ช่องเสียบต่ออุปกรณ์ AUX และ USB พร้อมรองรับ iPod แบบ Build in ที่คอนโซลหน้า สวยงามและง่ายต่อทุกการเชื่อมต่อทุกรูปแบบความบันเทิง เต็มทุกความบันเทิง ในราคา 1,304,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว จำนวนจำกัด
พบกับยานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อม
“Hybrid World Around You”
พร้อมเลือกเติมความสุข...กับรถยนต์คุณภาพหลากรุ่น
ตอบสนองทุกสไตล์ชีวิต...ได้ที่บูธ โตโยต้า
พร้อมการบริการครบวงจรจากผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า
ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 30
26 มีนาคม — 6 เมษายน ที่ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติ ไบเทค บางนา