กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--คต.
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีฟิลิปปินส์ใช้มาตรการปกป้องสินค้า(Safe Guard) กระเบื้องว่า กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของฟิลิปปินส์ได้ประกาศใช้มาตรการปกป้องกับสินค้ากระเบื้องปูพื้นและผนังจากทุกประเทศรวมทั้งไทย มาตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2545 โดยได้ขยายเวลาการใช้มาตรการและลดอัตราอากรลงเป็นลำดับ ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงปีที่ 8 ของการใช้มาตรการ อัตราอากรที่เรียกเก็บในปี 2552 คือ 1.86 เปโซ/กิโลกรัม ซึ่งลดลงจาก 2 เปโซ/กิโลกรัมในปี 2551 ทั้งนี้มาตรการจะครบอายุ 10 ปี ในปี 2555
สินค้ากระเบื้องปูพื้นและผนังที่ไทยส่งออกไปฟิลิปปินส์มี 2 ชนิด คือ กระเบื้องปูพื้นที่เป็นเซรามิกไม่ได้เคลือบ และกระเบื้องปูพื้นที่เคลือบแล้ว โดยปี 2545 ซึ่งเป็นปีแรกที่ฟิลิปปินส์ใช้มาตรการและไทยได้รับการยกเว้น มีปริมาณนำเข้าจากไทย 16,526 ตัน คิดเป็นร้อยละ 24 ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมดของฟิลิปปินส์ มูลค่า 2.04 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่หลังจากมีการใช้มาตรการ ปริมาณนำเข้าจากทุกประเทศรวมทั้งไทยลดลง โดยการนำเข้าจากไทยในช่วงปี 2547 — 2551 มีปริมาณเฉลี่ยปีละ 4,500 ตัน มูลค่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราอากรที่ต้องลดลงเป็นลำดับจะส่งผลให้สินค้าจากไทยมีโอกาสเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้มากขึ้น ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์นำเข้าจากจีนมากเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมา ได้แก่ สเปน อินโดนีเซีย และไทย ตามลำดับ