“ของเล่นไม้ไทย” ทวนกระแสวิกฤต ศก. ใช้เทคโนโลยีเพิ่มค่า ผงาดสู่ตลาดโลก

ข่าวทั่วไป Monday March 30, 2009 13:59 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--สวทช. "บจก.คิดดี้ทอยส์ฯ" อัพเกรดโรงงานประสานผู้เชี่ยวชาญโครงการ iTAP (สวทช.) เพิ่มทักษะการผลิต ใช้เทคโนโลยีเข้าพัฒนากระบวนการผลิตของเล่นไม้ ได้คุณภาพ และปลอดภัยจากสารปนเปื้อนสู่มาตรฐานสากล แข่งขันได้ในตลาดโลก ยัน วิกฤตเศรษฐกิจโลกไม่กระเทือนออร์เดอร์ของเล่นไม้จากไทย เพราะลูกค้าต้องการงานคุณภาพ พร้อมรับอานิสงค์หลังโรงงานกว่า 4 พันแห่งในจีนปิดตัวลง ส่งผลให้ลูกค้าจากทั่วโลกแห่สั่งซื้อสินค้าจากไทย อุตสาหกรรมของเล่นไม้ของไทยทวนกระแสวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่กำลังถดถอย หลังโรงงานผลิตของเล่นในจีนปิดตัวลงกว่า4พันแห่งทำให้ปริมาณความต้องการของเล่นคุณภาพของไทยได้รับอานิสงค์จากตลาดของเล่นทั่วโลกทั้งยุโรป สหรัฐอเมริกา ฯลฯ หันมาสั่งซื้อสินค้าจากไทยจนผลิตแทบไม่ทัน เนื่องจากประเทศไทยมีวัตถุดิบหลักในประเทศอยู่เป็นจำนวนมากอย่างไม้ยางพารา ประกอบกับผู้ประกอบการของเล่นไม้ไทยมีการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานตามที่แต่ละประเทศกำหนดไว้ ทำให้วันนี้ผู้ประกอบการของเล่นไม้ของไทยจึงมีความพร้อมรับออร์เดอร์ที่เน้นงานคุณภาพได้ไม่ยากนัก เช่นเดียวกับ บริษัท คิดดี้ ทอยส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายของเล่นและเกมส์จากไม้ยางพาราเป็นเพียงโรงงานขนาดเล็กตั้งอยู่ใน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เริ่มต้นธุรกิจจากการลองผิดลองถูก ขาดทักษะการผลิต ของเสียเต็มโรงงาน แต่พยายามปรับปรุงพัฒนาตนเองขึ้นมาจนสามารถผลิตสินค้าได้คุณภาพและมาตรฐาน เป็นที่พึงพอใจของลูกค้า ทำให้วันนี้แม้ประเทศจะประสบวิกฤตแต่ผู้ประกอบการรายนี้ ก็ยังคงยืนหยัดอยู่รอดได้อย่างมั่นคง นางสาว อัญชลี วงษ์สุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท คิดดี้ ทอยส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เล่าให้ฟังว่า บริษัทดำเนินธุรกิจมากว่า 20 ปี เดิมผลิตเฟอร์นิเจอร์จากไม้สักเมื่อไม้สักหายากขึ้น จึงหันมาผลิตของเล่นและเกมส์ลับสมองสำหรับเด็กจากไม้จามจุรีและไม้ยางพารา แต่เครื่องไม้เครื่องมือที่มีอยู่เดิมใช้ผลิตชิ้นส่วนที่มีขนาดใหญ่ ประกอบกับความคุ้นชินของพนักงานในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ พอมาทำของเล่นที่เป็นชิ้นเล็ก ซึ่งมีความละเอียด ทำให้สินค้าที่ผลิตออกมาในขณะนั้นไม่ได้คุณภาพ และไม่ตรงกับเทรนด์ที่ตลาดต้องการ ส่งผลการทำตลาดขณะนั้นไม่ได้รับการตอบรับ จนเกือบต้องปิดกิจการ “ จากการขาดทักษะและไม่มีความรู้พื้นฐานการทำของเล่นมาก่อน ทำให้ประสบปัญหามากมาย ทั้งเรื่องแรงงาน เครื่องจักร ของเสียและสินค้าที่ด้อยคุณภาพเต็มโรงงาน รู้สึกท้อใจมากขณะที่เงินทุนที่มีอยู่ก็เริ่มร่อยหรอ จนเกือบถึงขั้นต้องปิดโรงงาน แต่การตัดสินใจครั้งสุดท้ายที่ไปร่วมออกบู้ธกับกรมส่งเสริมการส่งออก ที่ประเทศเยอรมนี โดยบริษัทฯ ใช้ประสบการณ์ที่ได้รับคำตำหนิของลูกค้าจาการไปออกบู้ธที่ฮ่องกงก่อนหน้ามาปรับปรุง และทำการศึกษาตลาด ปรากฏว่าได้รับออร์เดอร์จากลูกค้าหนึ่งรายแม้จะยังคงถูกตำหนิอยู่บ้างด้านคุณภาพสินค้าแต่เขาได้แนะนำเราว่าควรปรับปรุงสินค้าอย่างไร ทำให้ลูกค้ารายนี้ยังคงเป็นคู่ค้าที่ดีกับเรามาโดยตลอด ถือเป็นจุดที่ทำให้คิดดี้ทอยส์ ยังคงอยู่มาจนถึงวันนี้ ” นางสาว อัญชลี กล่าว แต่ปัญหาด้านการผลิตของบริษัทฯ ยังคงมีอยู่เนื่องจากเครื่องจักรที่ใช้อยู่เป็นเครื่องจักรเก่าที่ใช้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม่เหมาะกับการทำของเล่น บริษัทฯ จึงลงทุนซื้อเครื่องจักรที่มีความทันสมัยเข้ามาใช้แบบไม่มีความรู้พอใช้ไปได้สักระยะก็ต้องประสบปัญหาแบบเดิม คือ เกิดการสูญเสียจากเศษไม้เป็นปริมาณมาก คนงานขาดความรู้ด้านเทคนิค และใช้ไม้อย่างสิ้นเปลือง หลังได้รู้จักกับโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย ( iTAP ) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จึงได้เข้ารับความช่วยเหลือจาก iTAP มาตั้งแต่ปี 2549 ภายใต้โครงการ “การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตของเล่นเด็กและเกมส์จากไม้ยางพาราและไม้จามจุรี” และโครงการ “พัฒนาการทำ Line สี” โดย iTAP ได้จัดส่งคณะผู้เชี่ยวชาญจากภาควิชาวนผลิตภัณฑ์ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประกอบด้วย ผศ.อำไพ เปี่ยมอรุณ , รศ.ดร. ธีระ วีณิน และ รศ.ทรงกลด จารุสมบัติ เข้ามาเป็นที่ปรึกษาโครงการฯ โดยคณะผู้เชี่ยวชาญได้พัฒนาเทคนิคในการอบไม้ ลดการสูญเสียจากกระบวนการผลิต และการให้ความรู้ในเรื่องของคุณสมบัติของสีที่ใช้ โดยการดำเนินการพัฒนาดังกล่าวอยู่ภายใต้เงื่อนไขของบริษัทฯ ที่ต้องการพัฒนาในสิ่งที่บริษัทมีอยู่ให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น และสามารถใช้เครื่องจักรได้มีอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม นางสาวอัญชลี กล่าวยอมรับว่า หลังเข้ารับความช่วยเหลือจาก iTAP ทำให้บริษัทฯ ลดการสูญเสีย และการสิ้นเปลืองไม้จากเดิมร้อยละ 60 - ร้อยละ70 ลงเหลือเพียงร้อยละ 10 ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง พนักงานได้รับความรู้และมีทักษะในการผลิตสามารถผลิตชิ้นงานได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 นอกจากนี้บริษัทฯ สามารถพัฒนาเทคนิคการผลิตกระบวนการผลิต และสามารถวางแผนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำวิธีตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ การตรวจคุณภาพของไม้ รวมถึงเทคนิคในการทดสอบน้ำยาป้องกันรักษาเนื้อไม้ และการอัดน้ำยารักษาเนื้อไม้ที่ถูกต้อง ซึ่งจากโครงการแรกทำให้สินค้าของบริษัทมีคุณภาพได้มาตรฐาน และมียอดขายเพิ่มขึ้นจากเดิม 20 ล้านบาทต่อปี เป็น 60 ล้านบาทต่อปี โดยในปี 2551 ที่ผ่านมา มียอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 20 ส่วนการพัฒนา Line พ่นสีนั้น ทำให้บริษัทฯ สามารถกลับมารับออร์เดอร์ของเล่นที่เป็นงานสีอีกครั้ง จากเดิมสินค้าที่ผลิตออกมามีปัญหาไม่ได้คุณภาพ สีไม่ติด และสีด่าง ทำให้ไม่สามารถรับออร์เดอร์ของเล่นสีได้ หลังจากที่ได้รับความช่วยเหลือจากโครงการ iTAP บริษัทฯ สามารถพัฒนา line พ่นสีได้อย่างมีคุณภาพสม่ำเสมอตามที่ลูกค้าต้องการ ที่สำคัญ บริษัทฯ สามารถเลือกใช้สีที่เหมาะสมไม่เป็นอันตราย และไม่มีสารปนเปื้อนมาใช้กับผลิตภัณฑ์ของเล่นไม้ของบริษัท สามารถแยกประเภทของสีได้ถูกต้อง ทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มีความหลากหลายมากขึ้นตอบสนองความต้องการของตลาดในแต่ละประเทศได้เพิ่มมากขึ้น ปัจจุบัน บริษัทฯ มีพนักงานเพิ่มขึ้นเป็น 60 คน จากเดิมที่มีอยู่เพียง 9 คน ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ส่งออกจำหน่ายต่างประเทศกว่าร้อยละ 95 ที่เหลือจะวางขายเฉพาะที่โชว์รูมหน้าโรงงานเท่านั้น ล่าสุด จากการไปออกบู้ธที่ประเทศเยอรมนีเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัทได้รับออร์เดอร์จากตลาดในแถบยุโรป และสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอีก ส่วนหนึ่งมาจากความต้องการของเล่นในตลาดโลกยังคงมีอยู่อีกมาก ขณะที่ปริมาณการผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการ หลังจากที่โรงงานผลิตของเล่นในประเทศจีนปิดตัวลงไปกว่า 4,000 แห่งอันเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจและความไม่มั่นใจในคุณภาพที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ตลาดของเล่นไม้ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา หันมาสั่งซื้อสินค้าจากไทยมากขึ้น ด้านนางบุษกร จิราภิรมย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิดดี้ทอยส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “ จากการพัฒนาคุณภาพที่ไม่หยุดนิ่งและการเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆ ทำให้ปัจจุบัน บริษัทฯ สามารถยืนหยัดได้แม้ประเทศประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งจะเห็นได้จากยอดการสั่งซื้อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนผลิตแทบไม่ทัน แม้ยอดสั่งซื้อจากตลาดหลัก เช่น ญี่ปุ่น และเกาหลี จะชะงักลงไป แต่บริษัทฯ ก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะนอกจากลูกค้าเดิมในกลุ่มประเทศแถบตะวันออกกลางแล้ว ยังได้ลูกค้าใหม่จากตลาดยุโรปและสหรัฐฯ กลับเข้ามา โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็น 1 ใน 5 ของผู้ซื้อของเล่นไม้รายใหญ่ของโลก ทำให้วิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ บริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ” ผู้สนใจผลิตภัณฑ์ของเล่นไม้ บริษัท คิดดี้ทอยส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. (053)311-134 แฟ็กซ์ (053)311-279 หรือที่เว็บไซต์ www.kiddytoys.com สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจ ขอรับความช่วยเหลือจากโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (iTAP) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สามารถติดต่อได้ที่ (ส่วนกลาง) โทร.02-564-7000 ต่อ โครงการ iTAPหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ www.tmc.nstda.or.th/itap สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โครงการ iTAP โทร. 02-270-1350-4 ต่อ 114,115

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ