กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--เวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์
รู้ผลแล้ว ศุกร์นี้!!!!
ลุ้น.. กรุงศรีฯ,แสตมป์ไทย, โลกของเรา บีบหัวใจน้ำตาท่วมจอ
พบสถิติใหม่ทำขนลุกกับ สุดยอดแฟนพันธุ์แท้แห่งปี 2004
วินาทีที่ผู้ชมทั่วประเทศรอคอยมาถึงแล้วแน่นอน สำหรับตำแหน่งสุดยอดแฟนพันธุ์แท้แห่งปี 2004 ว่าหนึ่งเดียวที่จะได้ครองตำแหน่งเกียรติยศ และเป็นเจ้าของ บ้าน & รถยนต์ มูลค่ากว่า 3 ล้าน นั้นจะเป็นใคร ? ศุกร์ที่ 18 ก.พ.นี้ กระพริบตาไม่ได้เด็ดขาด!!! ซึ่งหลังจากเปิดศึกชิงชัยมาอย่างยาวนานก็ได้รู้กันแน่นอนว่า สุดยอดแฟนฯแสตมป์ไทย, ประวัติศาสตร์กรุงศรี และ โลกของเรา เป็น 3 คนสุดท้ายที่ได้เข้ารอบมาชิงดำกันในหมวดคำถามสุดท้าย “3 วินาที” และเป็น 3 คนสุดท้ายที่มีดีกรีเป็นแชมป์ 2 สมัยขึ้นไปทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเกมมหาหินหมวดสุดท้ายอย่าง “3 วินาที” ต้องมันส์แน่นอน เพราะต้องใช้สมาธิสูง หากพลาดก็จะร่วงไปเลย
งานนี้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เต็มไปด้วยกองเชียร์ โดยเฉพาะบรรดาสุดยอดแฟนฯปีก่อนๆก็มานั่งให้กำลังใจอย่างพร้อมเพรียง เวลาพักเบรคการแข่งขันทั้ง 3 คนที่เข้ารอบจะเดินไปหากำลังใจด้วยอาการเครียด เริ่มตั้งแต่สุดยอดแฟนฯแสตมป์ไทย เจนวิทย์ อภิชัยนันท์ แชมป์ 2 สมัยซ้อน ที่ควักยาดมออกมาสูดเพื่อคลายความกดดันตลอดเวลา โดยบอกว่าวินาทีนี้มันวิกฤตไปหมด ส่วนสุดยอดแฟนฯโลกของเรา นิภาวรรณ ผดุงรส เด็กไทยคนเก่งนั้นตลอดการแข่งขันเธอจะกำมือและกุมขมับ พร้อมกับยกมือภาวนาตลอดเวลา แต่คนที่กดดันที่สุดของการชิงชัยในครั้งนี้เห็นจะไม่มีใครเกินสุดยอดแฟนฯประวัติศาสตร์กรุงศรีฯ นิรุตต์ โลหะรังษี ที่มีกองเชียร์ตั้งแต่เด็กยันสาวพร้อมใจกันใส่เสื้อทีมมาเชียร์ รวมทั้งผู้ชมทางบ้านที่ต่างก็เอาใจช่วยให้เขาได้ไปถึงฝั่งฝันซะที เพราะถือว่าเป็นคนแรกและคนเดียวที่ได้เป็นแชมป์ 4 สมัย และได้เข้ารอบมาชิงชัยบนเวทีแห่งนี้เป็นปีที่ 4 แล้ว ปรากฏว่าตลอดการเล่นเกม 3 วินาที เขาออกอาการกดดันสุดๆ ทำให้ตอบสะดุดเป็นระยะ เรียกว่าขนลุกขนพองกันทุกเสี้ยววินาที ซึ่งงานนี้เขาจะแก้อาถรรพ์ได้หรือไม่ และใครจะได้เป็นสุดยอดแฟนฯพันธุ์แห่งปี 2004 ห้ามพลาดชมแม้สักวินาทีเดียว เพราะกว่าจะโค่นกันลง เล่นเอาหัวใจแทบจะวาย !!! และที่สำคัญที่สุดการชิงชัยในครั้งนี้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ๆให้ได้จดบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์แฟนพันธุ์แท้อย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นเรื่องใดนั้น ต้องชม!!! ในการชิงชัยสุดยอดแฟนพันธุ์แท้แห่งปี วันศุกร์ที่ 18 ก.พ.นี้ สี่ทุ่ม ทางช่อง 5
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--